22 เม.ย.62 - ที่ห้องพิจารณา 510 ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี เวลา 09.00 น. ศาลนัดพร้อมเพื่อประชุมคดีหมายเลขดำ อ.370/2562 ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อายุ 21 ปี อดีตเลขาธิการของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท และนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล อายุ 21 ปี นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืน มาตรา 10 พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อย 24 ชั่วโมง
โดยกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.พ.62 จำเลยและกลุ่มเพื่อนนักศึกษา เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล ตามที่ นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 โพสต์ข้อความเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ร่วมเดินขบวนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนั้น เสรี สุจริตและเป็นธรรม โดยจำเลยทั้งสองเดินมายังประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล และนำพวงมาลัยพริกแห้ง-กระเทียม ถุงใส่เกลือ แขวนไว้ที่รั้วทำเนียบฯ
และคดีหมายเลขดำ อ.488/2562 ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง (ดุสิต) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน และนายธนวัฒน์ หรือบอล เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ กรณีวันที่ 20 ก.พ.62 ทั้งสองร่วมจัดกิจกรรม ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก (ทบ.) ถ.ราชดำเนิน ยื่นจดหมายเปิดผนึกคัดค้านกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งให้กรมกิจการพลเรือนทหารบก เปิดเพลงแนวปลุกใจทหาร เช่น เพลงหนักแผ่นดิน ในสถานีวิทยุกองทัพบกที่มีกว่า 160 สถานีทั่วประเทศทุกวัน โดยขอให้ยกเลิกการเปิดเพลงหนักแผ่นดินในสถานีวิทยุเครือกองทัพบก และเสียงตามสายในหน่วยทหาร ซึ่งหลังจากอ่านจดหมายเปิดผนึกแล้วจะนำไปยื่นต่อฝ่ายทหารแต่ตำรวจไม่อนุญาต จึงนำจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวไปติดที่ป้ายแนะนำสถานที่ บริเวณเกาะกลางถนนแทน
ขณะที่ นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เปิดเผยก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า กรณีการนำพวงพริก-ถุงเกลือไปแขวนประตูหน้าทำเนียบนั้น เราไม่ได้จัดการชุมนุม เพราะเราได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมล่วงหน้าไปแล้ว ส่วนที่เดินทางไปนั้นก็ตอบรับคำเชิญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าลองมาไล่ดูสิ ซึ่งเราจัดเองโดยไม่ได้เปิดให้คนภายนอกมาร่วมด้วย ดังนั้นในคดีนี้ตนอาจจะทำเรื่องขอให้ศาลเบิกตัว พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นพยานเพื่อมาสอบถามว่าได้ท้าทายให้ประชาชนออกมาไล่ที่ทำเนียบจริงหรือไม่
ส่วนคดีถูกกล่าวหาเรื่องเพลงหนักแผ่นดินนั้น ตนก็ไปให้ความรู้กับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ซึ่งเรายืนยันเหมือนกันว่า เราไม่ได้ไปกองทัพบกวันนั้นเพื่อชุมนุมสาธารณะ เป็นเพียงการสื่อสารกับ พล.อ.อภิรัชต์ ที่รู้คนเดียวว่าเพลงหนักแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งเพลงนี้เคยนำมาใช้ปราบปราบนักศึกษาในอดีต ดังนั้นตนก็อาจจะขอเบิกตัว พล.อ.อภิรัชต์ มาเป็นพยานด้วยเช่นกันว่าได้ความรู้จากกิจกรรมที่เราทำไปแล้วหรือไม่
ภายหลังเสร็จสิ้นการนัดประชุมคดีแล้ว เมื่อเวลา 14.20 น. นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เปิดเผยว่า สำหรับการนัดประชุมคดีในวันนี้ส่วนของคดีแขวนถุงพริก-เกลือ ตนและนายธนวัฒน์ ให้การปฏิเสธ ซึ่งศาลนัดสืบพยานอัยการโจทก์ 1 นัด ฝ่ายจำเลย 1 นัดในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.
ส่วนคดีหน้า ทบ. พวกตนก็ให้การปฏิเสธเช่นกัน โดยศาลนัดสืบพยานอัยการโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 1 นัดเช่นกันในวันที่ 24-25 ก.ค.นี้ โดยที่พวกตนให้การปฏิเสธทั้ง 2 คดี ก็ยืนยันสิทธิตามรัฐธรรมนูญฯ รับรองสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนไว้ และกิจกรรมนั้นเป็นการสื่อสารถึง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อภิรัชต์ โดยตรง ไม่ได้เป็นการชักชวนชุมนุม ส่วนที่จะเสนอให้ศาลเรียกทั้งสองเป็นพยานด้วยหรือไม่ ก็จะหารือกับทนายความอีกครั้ง.
