โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เผาศพ “รองตี๋” สุดสะเทือนใจ ลูกคนเล็กรู้ความจริง ร่ำไห้ขอญาติ “อย่าทิ้งหนู” (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 20 เม.ย. 2562 เวลา 15.34 น.
เผาศพ “รองตี๋” สุดสะเทือนใจ ลูกคนเล็กรู้ความจริง ร่ำไห้ขอญาติ “อย่าทิ้งหนู” (คลิป)
จากกรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เจ้าของโรงงานอะไหล่ยนต์ ขับรถเบนซ์พุ่งชนรถ ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ อาย

จากกรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เจ้าของโรงงานอะไหล่ยนต์ ขับรถเบนซ์พุ่งชนรถ ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ อายุ 48 ปี และนางนุชนาฏ งามสุวิชชากุล อายุ 43 ปี สามีภรรยาเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกสาวคนเล็ก อายุ 12 ปี ที่นั่งมาด้วย อาการบาดเจ็บอาการสาหัส กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยล่าสุดนายสมชาย เข้ามางานศพสองสามีภรรยา แล้วขอขมาต่อญาติ พร้อมสัญญาว่าจะดูแลลูก ๆ ของผู้เสียชีวิต

ผู้มาร่วมงานศพ วางดอกไม้ไว้อาลัย
ผู้มาร่วมงานศพ วางดอกไม้ไว้อาลัย

ล่าสุดบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติจากทั้ง 2 ครอบครัว ช่วยกันรับรองแขกที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะน้องพลอย ลูกสาวคนโต ที่ต่างมีบรรดาญาติ ๆ เข้ามาสวมกอดแสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับน้องในการดำเนินชีวิตต่อไปหลังจากนี้ ทำให้น้องพลอย และญาติ ๆ ถึงกับน้ำตาไหล ร่ำไห้ต่อการสูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัวไปถึง 2 คน อย่างกะทันหัน

ญาติ ผู้มาร่วมงานสวมกอดให้กำลังใจลูกสาวผู้เสียชีวิต
ญาติ ผู้มาร่วมงานสวมกอดให้กำลังใจลูกสาวผู้เสียชีวิต

ในงานศพวันนี้พบว่า นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เจ้าของโรงงานอะไหล่ยนต์ ซึ่งเป็นคนขับรถเบนซ์ที่เมาแล้วขับรถชน พบว่าช่วงเช้าเวลา 6.00 น. วันนี้ นายสมชายได้เข้าพิธีบวชหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้งสอง และร่วมเคลื่อนศพไปยังเมรุ

พระสมชาย ขณะโปรยทาน
พระสมชาย ขณะโปรยทาน

โดยขบวนศพ มี น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล หรือน้องพลอย ลูกสาวคนโตของ พ.ต.ท.จตุพร และภรรยา ถือกระถ่างธูปนำเคลื่อนขบวนศพรอบเมรุ จำนวน 3 รอบ ก่อนนำขึ้นบรรจุบนเมรุ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ

น้องพลอย เดินนำขบวนศพ
น้องพลอย เดินนำขบวนศพ

ด้านอาการบาดเจ็บของน้องแพร ลูกสาวคนเล็กที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดอาการดีขึ้น มีการตอบสนองได้ดีขึ้น แต่ทันทีที่ครอบครัวได้บอกให้น้องแพร ทราบเรื่องการเสียชีวิตของพ่อและแม่ น้องแพรก็ร้องไห้เสียใจอย่างหนัก สวมกอดพี่สาวและบอกว่าอย่าทิ้งหนู ทำให้ครอบครัว ทีมจิตแพทย์ และเพื่อนสนิท ต้องเข้าไปดูแลและคอยปลอบให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดญาติแจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับน้องแพรไว้เป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์แล้ว สร้างความปลาบปลื้มปิติยินดี ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อครอบครัวงามสุวิชชากุลเป็นอย่างมาก

น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวของภรรยา พ.ต.ท.จตุพร ผู้เสียชีวิต
น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวของภรรยา พ.ต.ท.จตุพร ผู้เสียชีวิต

โดย น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวของภรรยา พ.ต.ท.จตุพร บอกว่า ครอบครัวไม่ได้ผูกพยาบาทต่อนายสมชาย แต่เรื่องการอโหสิกรรมต้องขอให้กระบวนการทุกอย่างถึงที่สิ้นสุดก่อน ถึงจะบอกได้ว่าอโหสิกรรมหรือไม่

ด้านการเรียนของน้องพลอย น.ส.ขนิษฐา ระบุว่า เดิมน้องพลอยต้องกลับไปสอบปลายภาคที่อเมริกา แต่เมื่อถามน้องแพรก็ส่ายหน้าไม่ยอมให้พี่พลอยไปไหน ซึ่งก็ต้องดูอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อ โดยน้องพลอยพยายามที่จะเข้มแข็ง เพราะถ้าตัวเองไม่เป็นหลักให้กับน้องเหตุการณ์จะแย่ไปกว่านี้

น.ส.ขนิษฐา กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.จตุพร เป็นคนดีมาก ใจเย็น และชอบทำบุญ มักจะสอนลูกให้เป็นคนทำความดี มักจะให้อภัยและไม่ถือโทษใครง่าย ๆ โดยน้องพลอย ได้พูดขึ้นว่า “ถ้าป๊าหนูอยู่ ป๊าก็จะให้อภัยนายสมชายในวันที่เขามาขอโทษ แม้ว่าในใจจริง ๆ ของเด็ก อาจจะคิดไม่ได้แบบนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์

นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เสี่ยขับเบนซ์คู่กรณี
นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เสี่ยขับเบนซ์คู่กรณี

ด้านนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ กล่าวภายหลังได้บวชหน้าไฟว่า เมื่อตนบวชหน้าไฟให้กับผู้เสียชีวิตทั้งสองคนแล้วรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังสลดใจมากกว่า เนื่องจากวันนี้เห็นคนมางานศพมากมาย เห็นความชัดเจนว่าทั้งสองคนเป็นคนดี และช่วงที่บวชหน้าไฟได้ขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ต่อหน้าศพของทั้งสองคน ก็ได้ขอให้อโหสิกรรม และขอให้ทั้งสองไปสู่ภพภูมิที่ดี และขอให้ไม่ต้องห่วงลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งตนเองจะทำหน้าที่แทน เสมือนลูกคนหนึ่ง หากน้องทั้งสองคนจะเรียนสูงถึงแค่ไหนก็ยินดีที่จะส่งเสีย

นายรัตนชัย เวโรจน์พิพัฒน์ พี่ชายนายสมชาย
นายรัตนชัย เวโรจน์พิพัฒน์ พี่ชายนายสมชาย

ขณะที่นายรัตนชัย เวโรจน์พิพัฒน์ พี่ชายของนายสมชาย บอกว่า ขอให้สังคมติดตามดูต่อไปว่า ครอบครัวของตนเองจะรับผิดชอบครอบครัวผู้เสียหายตามที่ได้พูดไว้จริงหรือไม่ ซึ่งได้ประกาศและแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและจิตสำนึกรับผิดชอบแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นหากครอบครัวเราไม่ได้ทำตามที่พูดไว้จริงค่อยให้สังคมมาตัดสินกันอีกครั้ง ว่าจะเหยียบให้จมดินหรือไม่ ในส่วนของคดีความก็ว่าไปตามตัวบทกฎหมาย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0