โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เผยเหตุ ชาวนาช็อก เจ้าหนี้ กยศ. บังคับยึดที่ดิน ขายทอดตลาด

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 14.50 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 14.50 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ลุงวัย 66 โดนพิษ"ทวงนี้กยศ."ลูกสาวกู้เรียนตอนอยู่ม.ปลาย ตอนนี้อายุ40 ผ่อนชำระมาตลออด ก่อนจะกู้ธกส.ไปโปะจนหมด อยู่ๆ โดนประกาศถูกยึดที่นาขายทอดตลาด  สุดท้ายรู้ความจริงเพราะๆไม่จ่ายค่าธรรมเนียมศาล200 กับค่าทนาย600บาท  

วันที่ 23 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่มีข่าว 2 พ่อลูก วิ่งโร่แจ้งตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ถูกบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินโฉนด เพื่อใช้หนี้กู้ยืมจาก กยศ. ทั้งๆที่จ่ายหนี้ให้กับกองทุนผ่านธนาคารตามคำแนะนำจาก เจ้าหน้าที่บังคับคดีจังหวัดและทนายความกองทุนไปแล้ว 1 ปี จู่ๆได้รับประกาศขายทอดตลาดภรรยาถึงกับเป็นลม จนล่าสุดผู้เสียหายได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกับทนายโจทย์ ที่สำนักงานบังคับคดี ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และทราบว่าที่จริง คือ ติดค้างค่าธรรมเนียมศาล 200 บาท และค่าทนาย 600 บาท ซึ่งจำเลยยังไม่จ่าย เนื่องจากไม่ทราบว่าต้องจ่าย หลังชำระเสร็จจะดำเนินการถอนการบังคับคดี 

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 ก.ค. นายวิจารณ์ เยาวะบุตร อายุ 66 ปี เดินทางมาที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาอำนาจเจริญ เพื่อติดต่อขอชำระค่าทนายความ จำนวน 600 บาท และค่าธรรมเนียมศาล 200 บาท ซึ่งได้รับการประสานจากทนายความฝ่ายโจทย์ว่า ยังไม่ได้รับการชำระเข้าระบบ จึงไม่มีการถอนการยึดทรัพย์ ทั้งๆที่ จำเลยได้ชำระหนี้ครบจำนวนแล้ว แต่เมื่อมาถึงที่ธนาคาร ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า บัญชี กศย.ของลูกหนี้ปิดไปแล้ว ต้องไปติดต่อขอรายละเอียดการชำระจากสำนักงานบังคับคดี จึงจะสามารถชำระได้

นายวิจารณ์ จึงได้เดินทางไปที่ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อติดต่อขอรายละเอียดช่องทางการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว เมื่อไปถึงได้พบกับ นายสันทัด ประสาณวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ และทราบว่า ทนายฝ่ายโจทย์ได้เดินทางมาที่สำนักงานบังคับคดีด้วยเช่นกัน ผอ.บังคับคดี จึงได้เชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจากัน ได้ความว่า จากการที่ทางลูกหนี้ได้ชำระหนี้เข้ามาแล้วนั้น ทางตัวแทนโจทก์แจ้งว่า ได้รับแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการแถลงถอบังคับคดี แต่ยังติดอยู่ว่า ลูกหนี้ต้องชำระค่าธรรมเนียมศาล 200 บาท และค่าทนาย 600 บาท รวมเป็นเงิน 800 ตามคำสั่งศาล อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมการถอนการยึดทรัพย์ของกรมบังคับคดี อีก จำนวน 7,631.71 บาท ซึ่งค่าธรรมเนียมส่วนนี้ตามระเบียบ กยศ.กำหนดให้ จำเลยเป็นผู้จ่าย แต่เนื่องจากจำเลยไม่มีเงิน นายสันทัด ผอ.สำนักงานบังคับคดี จึงเป็นตัวแทนเจรจาไกล่เกลี่ยให้ ใช้เวลานานนับชั่วโมง ทางโจทก์จึงยินยอมและตกลงที่จะถอนยึดทรัพย์ให้กับจำเลยในเวลาต่อมา

นายวิจารย์ เยาวะบุตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับหมายศาลบังคับคดีหมายเลขแดงที่ 1091/2550 ระหว่างกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา – น.ส.อรอุมา ยุวะบุตร จำเลยที่ 1 นายวิจารณ์ ยุวะบุตร จำเลยที่ 2 ในคดีนี้รวม 4 นัด คือวันที่ 1 ส.ค. 62 นัดที่ 2 วันที่ 22 ส.ค. 62 นัดที่ 3 วันที่ 12 ก.ย.62และนัดที่ 4 วันที่ 3 ต.ค.62 ก็ตกใจ และคิดว่า ว่าเมื่อไหร่เรื่องจะจบเสียที เพราะก่อนหน้านี้ตนชำระเงิน และทำตามที่เจ้าหน้าที่บังคับคดี กับธนาคารแนะนำทุกประการแต่ทำไมเรื่องถึงยังไม่เสร็จ และหลังจากที่ได้รับหมายศาล เปิดอ่านเนื้อความข้างใน ทำให้นางประนอม ยุวะบุตร อายุ 58 ปี ภรรยาที่เป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานอยู่ก่อน ถึงกับเป็นลมล้มตึง ต้องหามส่ง รพ.พนา ส่วนตนเองก็อึ้งคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

"หนี้จำนวนนี้ กยศ. ลูกสาวคือ น.ส.อรอุมา ยุวะบุตร อายุ 40 ปี ไปกู้มาเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่โรงเรียนศรีคูณวิทยบัลลังค์ นั้น เป็นเงินจำนวน 40,000 บาท เมื่อเรียนจบ ม.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ และไม่ได้ส่งเงินให้กับกองทุนฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้รับหมายศาลคดีดำเลขที่ 778/2550 ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ลงวันที่ 9 ต.ค. 2550 ที่กยศ.ยื่นฟ้องศาลจากนั้นทางครอบครัวก็ได้มีการประนีประนอมยอมความ โดยตกลงว่าจะจ่ายเดือนละ 500 บาท เรื่อยมาตั้งแต่ปี 2550 แต่พักหลังๆ ยอมรับว่าบางเดือนก็ขาดส่ง เนื่องจากตัวเองและลูกสาวไม่มีรายได้ ฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ โดยจำนวนเงินที่ชำระไปทั้งหมดตั้งแต่ปี 2550-2561 รวม 9 ปีเป็นเงินทั้งสิ้น 11,000 บาท(หนึ่งหมื่นสามพันบาทถ้วน) และเมื่อเดือน มิ.ย.60กลับได้รับหมายศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี เรื่องการยึดทรัพย์ จากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ คดีหมายเลขดำที่ 778/2550 ลงวันที่ 27 ต.ค. 60 ให้ยืดทรัพย์ของจำเลยทั้ง 2 ไว้คือที่ดินโฉนด เลขที่ 14448 เลขที่ดิน 108 หน้าสำรวจ 2558 ต.พระเหลา อ. พนา จ. อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นที่นาที่ทำกินอยู่ในทุกวันนี้"

ด้วยความกลัวจะถูกยึดที่นา จึงได้ไปติดต่อกับธนาคาร ธกส.สาขาพนา เพื่อขอกู้ยืม โดยนำที่ดินโฉนด ดังกล่าวไปกู้ยืมจนครบกับจำนวนหนี้ที่ต้องชำระคืน กยศ. ต่อมา วันที่ 19 มิย. 2561 ตนได้นำเงินสดเงินต้น 40,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 36,374.14 บาท รวมทั้งสิ้น 76,27414 บาท ไม่รวมกับที่ส่งรายเดือนที่ส่งไปก่อนหน้านั้น เข้าไปพบเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อติดต่อขอชำระและไถ่อถอนที่นาคืน เมื่อไปถึงก็ได้รับคำแนะนำว่าให้นำเงินไปชำระที่ธนาคารกรุงไทย สาขาอำนาจเจริญ แล้วให้นำใบเสร็จกลับมาส่งที่บังคับคดี จากนั้นตน ลูกสาวและเพื่อนอีก 2 คนไปที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อทราบขั้นตอนการชำระหนี้ กยศ. และทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้รับเงินจากตนส่งเข้า กยศ.จนครบจำนวนแล้ว จากนั้น ธนาคารได้แนะนำให้เขียนลงล่างใบเสร็จมีข้อความว่า”ถึงฝ่ายบริหารชำระหนี้" มีข้อความว่า "ขณะนี้ข้าพเจ้าได้ชำระหนี้ กยศ.เสร็จสิ้นแล้วขอความกรุณาถอนบังคับคดีให้ด้วย ลงชื่อนายวิจารณ์ ยุวะบุตร ลงวันที่ 19 มิ.ย. 61”  เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารคนเดิมแนะนำให้นำใบเสร็จ แฟ็กส่งไปที่ กยศ.ตามหมายเลขที่เตจ้าหน้าที่แนะนำ ที่ร้านรับ-ส่งแฟ็ก ก่อนที่ตนและลูกสาวพร้อมเพื่อนนำใบเสร็จที่ส่งไป กยศ.มามอบให้กับเต้าหน้าที่บังคับคดีคนเดิม ในวันเดียวกัน และคิดว่าเรื่องจะจบแล้ว

ทั้งนี้ หลังการเจรจาเป็นผลและได้ชำระค่าธรรมเนียมต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น นายวิจารณ์ ก็มีสีหน้าดีขึ้นและเริ่มยิ้มได้หลังได้รับข่าวดี  ยกมือไหว้ขอบคุณ ผอ.บังคับคดีที่ช่วยเป็นคนกลางเจรจาให้และขอบคุณทุกๆฝ่าย ที่ให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะสื่อมวลชน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0