จนถึงขณะนี้ ทางการศรีลังกาเชื่อว่ามีมือระเบิดฆ่าตัวตายอย่างน้อย 9 คน จำนวนนี้ 8 คนมีบัตรประจำตัวประชาชน และกำลังสอบสวนปูมหลังกับประวัติการเดินทาง ทางการยอมรับว่า เจ้าหน้าที่เคยควบคุมมือระเบิดบางคนมาก่อน
รุวาน วิเจวาร์เดน รัฐมนตรีกลาโหมศรีลังกา แถลงว่า มือระเบิดที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ส่วนใหญ่เป็นคนมีการศึกษา และบางคนมาจากครอบครัวชนชั้นกลาง หรือมีอันจะกินซึ่งหมายถึงพวกเขาพึ่งพาตนเองได้ทางการเงิน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่น่ากังวล
ผลสอบสวนพบว่า มีมือระเบิดฆ่าตัวตายอย่างน้อยหนึ่งคน เรียนจบจากอังกฤษ จากนั้นไปต่อโทที่ออสเตรเลีย และกลับมาศรีลังกา นอกจากนี้ มีอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้หญิง
เผยคนร้ายนิ่ง-ลูบศีรษะเด็กก่อนเข้าไปกดระเบิดในโบสถ์ศรีลังกา
ตำรวจศรีลังกาจับกุมผู้ต้องสงสัย 60 คน จำนวนนี้ 32 คนอยู่ในความควบคุมของสำนักงานสอบสวนอาชญากรรม (ซีไอดี ) ทั้งหมดเป็นชาวศรีลังกา แต่ไม่แน่ชัดว่ามีบางคนถือสองสัญชาติหรือไม่
วันเดียวกัน ตำรวจระเบิดทำลายระเบิดอีกหนึ่งลูก ขณะตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย จอดใกล้กับโรงภาพยนตร์ซาวอย ในกรุงโคลัมโบ
มีรายงานว่า เหตุระเบิดที่โรงแรมแชงกรีลากับที่โรงแรม ซินนามอน แกรนด์ ในเมืองหลวง ซึ่งเป็น 2 จุดที่ถูกโจมตีจากทั้งหมด 8 จุดเมื่อวันอีสเตอร์ เป็นฝีมือของชายสองพี่น้อง ซึ่งเป็นลูกชายของพ่อค้าเครื่องเทศฐานะดี ทั้งสองกดระเบิดฆ่าตัวตายพร้อมกับแขกที่กำลังเข้าแถวรับอาหารเช้าที่โรงแรงทั้งสองแห่ง
มือระเบิดทั้งสองอายุ 20 ปีเศษ และมีเซลก่อการร้ายแบบครอบครัว แต่ไม่มีรายละเอียดเรื่องพ่อแม่ของทั้งคู่
หนึ่งในพี่น้องสองคนนี้ เช็คอินโรงแรมโดยใช้บัตรประจำตัวปลอม แต่ให้ที่อยู่จริง ทำให้หน่วยคอมมานโดตามไปบ้านของครอบครัวพวกเขาได้ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านการค้าของกรุงโคลัมโบ แต่ขณะหน่วยเฉพาะกิจเข้าตรวจค้นเพื่อสอบสวน ภรรยาของหนึ่งในสองก็จุดระเบิดปลิดชีพตัวเองกับลูกสองคน ทั้งยังทำให้ตำรวจสามนายเสียชีวิต แต่ตำรวจควบคุมตัวสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวไว้สอบปากคำ
พนักงานสอบสวนกล่าวว่า นี่คือเซลก่อการร้ายที่ดำเนินงานโดยครอบครัวเดียว พวกเขามีเงินสดและมีแรงจูงใจ ดูเหมือนว่าได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ แต่ยังไม่อาจฟันธงว่าเกี่ยวโยงโดยตรงกับกลุ่มใด
เป้าหลักสอบสวนคือการดูว่าอิทธิพลกลุ่มต่างชาติมีส่วนล้างสมองพวกเขาหรือไม่ และลูกหลายครอบครัวมีอันจะกินเข้ามาเกี่ยวกับกับเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
ทางการระบุว่าทั้งคู่เป็นสมาชิกคนสำคัญของ เนชันแนล ธอว์ฮีท จามาอัท (เอ็นทีเจ) ซึ่งเป็นกลุ่มสุดโต่งในประเทศ ขณะที่ไอเอสออกมาอ้างว่าสาวกของตัวเองอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีนองเลือด ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 359 คน
