ท่ามกลางสายพันธุ์มากมายที่สูญพันธุ์ไปเพราะตามการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ทัน ยังมีสัตว์อีกหลายต่อหลายสายพันธุ์ที่ปรับตัวด้วยกลวิธีต่างๆ ในการเอาตัวรอด และหนึ่งในวิธีที่ดูเหมือนจะได้ผลดีมิใช่น้อย นั่นคือการซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาของมนุษย์ ด้วยการดำดิ่งลงไปซ่อนตัวอยู่ในจุดที่ลึกเกินกว่าการสอดส่องของผู้คนส่วนใหญ่จะลงไปหาพวกมันได้ อย่างเช่นเหล่าฟอสซิลที่มีชีวิตที่เรียกว่า“ฉลามผี”
ฉลามผี หรือ ไคมีรา เป็นปลากระดูกอ่อนในลำดับ Chimaeriformes ซึ่งเป็นญาติห่างจากปลาฉลาม แต่ได้มีการแยกสายวิวัฒนาการออกมาตั้งแต่ 400 ล้านปีที่แล้ว และยังคงมีรูปร่างไม่ต่างไปจากบรรพบุรุษของมันเลยแม้แต่น้อย
ฉลามผีส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลลึกโดยอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 2600 เมตร ยกเว้นบางสกุลอย่าง Callorhinchus ซึ่งจะอาศัยอยู่บริเวณน้ำลึก 200 เมตร ทำให้พวกมันสามารถถูกจับมาแสดงโชว์ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ลักษณะทั่วไปของฉลามผี มักมีลำตัวยาวและมีหัวขนาดใหญ่ เมื่อโดเต็มวัยอาจมีความยาวถึง 150 ซ.ม.มีผิวหนังที่เรียบเนียนมีสีน้ำตาลถึงเทาและมีครีบหลังเป็นกระดูกอ่อน เหมือนกับปลาฉลาม แต่สิ่งที่ทำให้พวกมันแตกต่างกันอย่างชัดเจน นั่นคือฉลามผีเพศผู้นั้นจะมีอวัยวะสืบพันธุ์ที่สามารถยืดหดได้อยู่บนหน้าผากของมัน อีกทั้งพวกมันยังมีครีบเอว และขากรรไกรรวมกับกระโหลกศีรษะ ทั้งยังมีแผ่นปิดเหงือเหมือนปลากระดูกแข็ง ซึ่งไม่มีใรฉลามส่วนใหญ่อีกด้วย
แม้จะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ระดับความลึกหลายพันฟุต และมนุษย์เองก็ยังไม่ได้ศึกษาเรื่องราวของพวกมันมากเท่าที่ควร แต่ปลาโบราณเหล่านี้ก็ได้รับผลกระทบจากมลพิษที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขยะที่จมลงไปยังก้นมหาสมุทร และอุณหภูมิที่สูงขึ้นเพราะภาวะโลกร้อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่มานับร้อยล้านปี อาจต้องสูญพันธุ์ไปในที่สุด