เผยคลิปเดือด! กระบะแหกด่านชนดะถูกวิสามัญ ญาติแห่ศพร้องขอความเป็นธรรม

เสียงปืนดังสนั่นกว่า 20 นัดกลางเมืองภูเก็ต เมื่อกลางดึกของวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้านในพื้นที่ เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ นายชิษณุพงศ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี คนร้ายคดียาเสพติด และมีหมายจับติดตัวอีกหลายคดี กำลังยิงต่อสู้กับตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต หลังจากที่เขาขับรถกระบะแหกด่านหลบหนี และพุ่งชนแหลกรถชาวบ้านจนมีผู้บาดเจ็บ แถมยังขับรถชนรถตำรวจขณะกำลังถูกไล่ล่าติดตามตัวอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งสุดท้าย นายชิษณุพงศ์ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมกลางถนนก่อนถึงทางแยกมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยพบปืนในรถ 3 กระบอก
ต่อมาเมื่อบ่ายวานนี้ พ่อและญาติได้แห่ศพนายชิษณุพงศ์ ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ประท้วงไปตามถนน พร้อมกับเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมเรียกร้องให้ลงโทษตำรวจทั้ง 7 นาย ที่วิสามัญฆาตกรรมนายชิษณุพงศ์กลางถนน โดยบอกว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
กระทั่ง พลตำรวจตรีธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งย้ายด่วนตำรวจ 7 นาย ที่ร่วมวิสามัญฆาตกรรมในครั้งนี้ ออกนอกพื้นที่ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ โดยมีผลตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้คนในโลกออนไลน์ได้นำคลิปภาพเหตุการณ์ที่บันทึกได้ในคืนเกิดเหตุ โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพขณะที่รถกระบะของผู้ต้องหาขับพุ่งชนรถของชาวบ้านที่ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย โดยที่ไม่รู้เรื่อง รวมทั้งหมด 4 คน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่หลากหลาย โดยบอกว่า ขับรถด้วยความเร็วโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น แถมยังพุ่งชนรถที่จอดติดไฟแดงพังเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ซึ่งหากตำรวจไม่กระทำการดังกล่าวก็อาจจะส่งผลให้มีชาวบ้านเสียชีวิตก็เป็นได้
สำหรับนายชิษณุพงศ์ ผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมในครั้งนี้ ก่อคดีอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน โดยมีหมายจับติดตัวหลายคดี ทั้งคดีชิงทรัพย์ คดีจำหน่ายยาเสพติด คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น และคดีอาวุธปืน
ล่าสุด บรรดาญาติของชาวบ้านที่ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บรวม 4 คนดังกล่าว กำลังรวบรวมคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ในจุดต่างๆ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญเข้าแจ้งความตำรวจ เพื่อเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : จีรวัฒน์ แซ่จิ้ว