เพจเฟซบุ๊กชื่อว่า เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้ตั้งข้อสังเกตถึงภาพยนตร์ฮอลีวูดชื่อดัง อย่าง-จูราสสิค เวิลด์ ที่นำเสนอถึงการผจญภัยเกี่ยวกับชีวิตไดโนเสาร์ ซึ่งกำลังเข้าฉายอยู่ในเวลานี้ โดยหนังยังยึดติดกับหลักวิทยาศาตร์ชิ้นเก่า ในยุคที่หนังเรื่อง-จูราสสิค ปาร์ค เข้าฉายเมื่อปี 1993 ที่งานวิจัยต่างๆ คาดการณ์กันว่า กลุ่มไดโนเสาร์ต้องเป็นสัตว์ว่องไว ฉลาด และมีเลือดอุ่น แต่ทุกวันนี้ ผลงานวิจัยใหม่ๆ กลับพบว่า ไดโนเสาร์จริงแล้ว อาจมีขน และร้องคล้ายนกกระจอกเทศนั่นเอง
โดย 5 ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับงานวิจัยไดโนเสาร์ ในปัจจุบัน ประกอบด้วย 1.เรื่องไดโนเสาร์มีขน มีหลักฐานบ่งชี้ว่า ไดโนเสาร์สายพันธ์ุ-เวโลซี แรปเตอร์ จนถึง-ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ อาจมีขนฟูฟ่องขึ้นมาตามลำตัว
2.เรื่องขนาดไดโนเสาร์ในภาพยนตร์ ที่อาจใหญ่เกินไป โดยเฉพาะสายพันธ์ุ-เวโลซี แรปเตอร์ ที่ในหนังมีขนาดใหญ่เกือบเท่าม้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าแรปเตอร์ มีขนาดเท่ากับสุนัขเท่านั้น แม้กระทั่งเจ้า-โมซาซอร์ ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเล ที่โผล่ในหนังจูราสสิค เวิลด์ ภาค 1 ไม่ได้อยู่ในสปีชีส์กลุ่มไดโนเสาร์ และไม่ได้มีขนาดความยาวมากกว่า 50 ฟุต อย่างในหนัง ส่วนไดโนเสาร์ ที่ตัวใหญ่มากกว่า 100 ตันนั้น เป็นกลุ่มไดโนเสาร์กินพืช
3.เรื่องเสียงคำรามน่าสะพรึงในหนัง แม้จะไม่มีหลักฐานของเสียงร้อง แต่จากการวิเคราะห์กระดูกซี่โครง และกระดูกโพรงจมูกของไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์ คาดว่าเสียงร้องอาจคล้ายคลึงนกกระจอกเทศ หรือจระเข้
4.เรื่องแขน-ทีเร็กซ์ ที่ดูเปล่าประโยชน์ในหนัง ผลงานวิจัยพบว่า แม้แขนจะสั้นจริง แต่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ซึ่งงานวิจัย คาดว่า แขนสั้นๆ นั้น อาจเป็นอาวุธในการข่วน หรือจิกลงเนื้อของเหยื่อ รวมถึงอาจเป็นอวัยวะที่ใช้เกาะเกี่ยวคู่ผสมพันธุ์
5.เรื่องการสกัดดีเอ็นเอ จากก้อนอำพัน เหมือนในหนังต้นแบบจูราสสิค ปาร์ค ยังไม่สามารถทำได้จริง เพราะดีเอ็นเอ เป็นอนุภาคละเอียดอ่อน ไม่อาจอยู่รอดได้นานกว่า 150 ล้านปี เพื่อให้เราสร้างสิ่งมีชีวิตนั้น ขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่แค่ทำให้ทราบเรื่องลักษณะทางชีวภาพเท่านั้น
