นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 โดยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการผ่อนคลายระยะที่ 3 ซึ่งแว่วๆ ว่ามีกลุ่มกิจการ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงจากเดิมที่อยู่ในระยะ 4 จะได้รับการผ่อนคลายในระยะนี้ด้วยนั้น มีเหตุผลอย่างไร และกลุ่มสนามมวย ร้านนวด จะสามารถเปิดได้หรือไม่มีกรอบการพิจารณาอย่างไร
อ่านข่าว : ด่วน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยอดพุ่ง11ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
อ่านข่าว : เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อทั้ง 11 ราย น่าเป็นห่วงส่วนใหญ่จมูกไม่ได้กลิ่น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า จนถึง ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปจนกว่าจะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.2563) สำหรับกิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ประกอบการต้องเสนอตัวเองขึ้นมาว่า มีแนวทางและวิธีการให้ประชาชนมั่นใจในกิจการของท่าน หรือมีมาตรการอย่างไรในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และให้สังคมยอมรับได้
ขณะเดียวกัน เงื่อนไข 4 ข้อที่พอจะบอกได้กว้างๆ ในการผ่อนคลายระยะที่ 3 มีดังต่อไปนี้
1. ห้างสรรพสินค้า ที่อาจจะได้เปิดร้านต่างๆ ที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าได้มากยิ่งขึ้น เพราะเราได้มีการเปิดไปเมื่อ 17 พ.ค.2563 ก็พบว่า มีระบบการจัดการที่ดี ยังไม่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และประชาชนคนทั่วไปที่ไปห้างฯ ก็ต้องเช็กอิน และ เช็กเอาท์ ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ
2. กีฬา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดไปบ้างแล้ว แต่จะพยายามเปิดให้ได้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการซ้อมของนักกีฬาที่เป็นตัวแทนระดับต่างๆ ซึ่งกีฬานั้นเป็นส่วนสร้างเสริมสุขภาพและสามารถป้องกันโรคได้ด้วย ฉะนั้นจะมีการเปิดเพิ่มให้มากยิ่งขึ้น
3. การลดเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งทางเลขาฯ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ระบุว่าได้ และมีแนวโน้มได้ลดเวลาเคอร์ฟิวลง จากตอนนี้ 5 ทุ่มถึงตี 4 ก็อาจจะลดลงไปได้อีก แต่จะเป็นช่วงเวลาใดนั้นต้องรอคำตอบจากที่ประชุมใหญ่ของ ศบค.ในวันพรุ่งนี้
4. ถ้าหากว่ามีการเปิดกิจการ หรือ กิจกรรมต่างๆ ในระยะที่ 3 แล้ว ประชาชนต้องเตรียมตัวกับสิ่งที่จะต้องมีมาพร้อมกันโดยเป็นข้อกำหนดบังคับเลย คือ กิจการและกิจกรรมที่จะเปิดในระยะนี้จะต้องเข้าสู่การลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นไทยชนะ
ผู้ที่จะมาใช้บริการจะต้องใช้แอปฯนี้ เพื่อใช้ในการเช็กอิน-เช็กเอาท์ เนื่องจากกิจการกิจกรรมในระยะที่ 3 นี้มีความเสี่ยงในเกณฑ์ปานกลางถึงสูงทั้งสิ้น เป็นข้อบังคับที่ประชาชนต้องยอมรับให้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.2563 ) ที่จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ และคงมีอะไรที่ชัดเจนมากขึ้น
