ในสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดจนเชื้อแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ย้อนดูรัฐบาลเตรียมการรับมืออย่างไรบ้าง โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือแรงงานอิสระ คนหาเช้ากินค่ำ ที่อยู่นอกระบบประกันสังคม
วันที่ 3 มี.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตมะ สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จัดทํามาตรการบรรเทาผลกระทบ และกระตุ้นเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพื่อเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาโดยเร็ว ก่อนนําเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไปหามาตรการบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นการแพร่ระบาด
วันที่ 6 มี.ค.นี้ นายกฯเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดพิเศษ เพื่อรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 มีหน่วยงานเศรษฐกิจมาเสนอมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ
วันที่ 24 มี.ค.นายสมคิด แถลงเปิดตัวเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ซึ่งเป็นมาตรการระยะที่ 2 ในการ เยียวยาแรงงานไม่อยู่ในระบบประกันสังคม รูปแบบเป็นการขอรับเงินชดเชยรายได้ 5,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) คาดว่ามีจำนวน 3 ล้านคนที่จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าว แต่จะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จะเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
วันที่ 28 มี.ค.เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 29 มี.ค. 63 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เปิดลงทะเบียน 24 ชั่วโมง ปรากฎว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีประชาชนลงทะเบียนกว่า 20 ล้านคน เกินกว่าระบบจะรองรับได้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบจำเป็นจะต้องปิดระบบชั่วคราว
ขณะที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)ชี้แจงว่า ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อยเร็วกว่าที่คาด และระบบได้เปิดให้ลงทะเบียนใหม่อีกครั้งแล้ว เมื่อเวลา 20.00 น.
พร้อมชี้แจงว่าสำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านก่อนปิดระบบและได้รับข้อความ SMS ยืนยันแล้ว จำนวน 1.1 ล้านคน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่อีกประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านก่อนปิดระบบและได้รับข้อความ SMS ยืนยันแล้ว จำนวน 1.1 ล้านคน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่อีก
วันที่ 29 มี.ค.คนแห่เข้า www.เราไม่ทิ้งกัน.com ทำให้เกิดปัญหาเนื่องจาก ก่อนเปิดระบบมีประชาชนสนใจรอลงทะเบียนที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com กว่า 2 ล้านคน และในช่วง 5 นาทีแรกของการลงทะเบียน มีผู้เข้ามาลงทะเบียนมากถึง 20 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากและเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ที่ 3.48 ล้านคนต่อนาที
