จากกรณีพระเด็จ คงกระพันธุ์ อายุ 56 ปี พระลูกวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หายตัวไปอย่างปริศนา หลังจากรับกิจนิมนต์ขึ้นไปนั่งสวดมนต์พิธีปักธง บนยอดเทือกเขาผาขี่ควาย เทือกเขาเขตติดต่อ 3 หมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหน่วยเขาช้างล้วง อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ พร้อมชาวบ้านระดมกำลังออกตามหาแล้วแต่ไม่พบตัว เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 61 (อ่าน : ลูก-เมียเชื่อ “พระเด็จ” หายปริศนา ถูกฆ่าฝังสวนปาล์ม – อดีตพระคู่ปรับ ลั่นไม่ฆ่าไม่หนี)
วันที่ 18 ม.ค. 62 รายการต่างคนต่างคิด ตอน หลวงตาหายลึกลับ ส่อถูกฆาตกรรมอำพราง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. เชิญ คุณช่อเพชร นวลวัน ลูกสาวพระเด็จ, คุณรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม, คุณอำนาจ ศรีศิริ อดีตพระลูกวัดบ้านพร้าว และพระสาคร จันทร์ทอง พระลูกวัดบ้านพร้าว มาร่วมพูดคุยในรายการ
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการสันนิษฐานว่าพระเด็จอาจเสียชีวิตไปแล้ว โดยอาจถูกนำศพไปอำพราง เนื่องจากญาติ ๆ เชื่อว่าหากพระเด็จยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะกลับบ้านมาแล้ว เพราะอีกฝ่ายไม่มีญาติอยู่ในพื้นที่อื่น และไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลบหนี โดยวันนี้ ตนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 6 พบว่าเจ้าหน้าที่ เริ่มมีการสอบถามญาติ ๆ ว่ามีใครเห็นพระเด็จเข้าฝันบ้างหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวน
นอกจากนี้ จากการพูดคุยกับคนในพื้นที่ทราบว่า บริเวณพื้นที่ผาขี่ควาย ไม่เคยปรากฏว่ามีคนหลงทางมาก่อน มาเป็นเวลากว่า 50 – 60 ปีแล้ว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่โล่ง ไม่ใช่ป่าดิบทึบ แม้แต่เด็กในหมู่บ้านก็ยังไปวิ่งเล่นกันอยู่ข้างบนได้ ซึ่งพระเด็จเองขึ้นลงที่บริเวณป่าแห่งนี้มาตลอด 30 ปี
ส่วนเรื่องที่มีการสงสัยนายอำนาจ เนื่องจากนายอำนาจเป็นที่พบเห็นและอยู่กับพระเด็จเป็นคนสุดท้าย จึงต้องมีการสงสัยเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งยังตรรวจสอบพบว่านายอำนาจเคยมีปัญหาเรื่องการยืมเงินกับพระเด็จมาแล้วด้วยเช่นกัน
ทนายรณณรงค์ กล่าวอีกว่า พระเด็จเคยมีปัญหากับพระรูปอื่นด้วยเช่นกัน และเคยมีเหตุการณ์ทะเลาะถึงขั้นตีหัวแตกมาแล้ว แต่ทั้งนี้ พระลูกวัดที่ตีหัวพระเด็จไม่ได้ตามขึ้นไปบนเขาด้วยในวันเกิดเหตุ รวมถึงพบว่าเรื่องดังกล่าวอาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด
ด้าน คุณช่อเพชร กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลว่า ขณะนี้ทางครอบครัวมีผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้น จำนวน 4 คน คนหนึ่งขึ้นไปบนเขากับพระเด็จ อีกคนเคยมีเรื่องทะเลาะ ส่วนอีก 2 คนนั้นก็เป็นพระลูกวัด โดยก่อนหน้านี้ ครอบครัวต้องการให้พระเด็จเลิกเหล้าจึงแนะนำให้มาบวชที่วัดดังกล่าว ส่วนเรื่องที่มีผู้สงสัยว่าพระเด็จเคยมีปัญหากับภรรยานั้น ตนยืนยันว่าทั้งคู่แยกจากกันด้วยดี และยังไปหากันตามปกติ ไม่ได้มีการทะเลาะรุนแรงตามที่มีข่าวลือ ส่วนเรื่องมีปากเสียงกันนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 61 ญาติของตนพบว่ามีหลุมต้องสงสัยแห่งหนึ่ง ห่างจากบริเวณเขาผาขี่ควายประมาณ 17 กม. ซึ่งมีร่องรอยล้อรถของวัด โดยคาดว่าคนร้ายอาจนำดินที่ขุดจากหลุมดังกล่าวไปฝังกลบหรือถ่วงร่างของพระเด็จบนบริเวณเขาผาขี่ควาย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ขุดหลุมดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบหลุมแห่งนั้น ทั้งนี้ ครอบครัวได้ตั้งประเด็นไว้ว่าพระเด็จอาจจะถูก ถ่วงน้ำ ฝัง หรือเผา
ขณะที่ คุณอำนาจ เปิดเผยว่า ในวันที่พระเด็จหายตัวไป ตนเป็นผู้ที่ขึ้นเขาไปกับพระเด็จ เวลาประมาณ 09.00 น. แต่พระเด็จเดินตามหลังตนมา โดยระหว่างที่ตนล่วงหน้ามาก่อนนั้นก็จะมีการกู่ส่งสัญญาณถามกันตลอด ซึ่งขณะที่ตนกู่เป็นสัญญาณว่าจะล่วงหน้าไปก่อน ก็ยังมีเสียงกู่ตอบกลับมา
นอกจากนี้ ในวันที่พระเด็จหายตัวไป พบว่าภายหลังมีประชาชนตามขึ้นไปทำบุญในพิธีปักธงเป็นจำนวนมาก กว่า 100 คน ซึ่งชาวบ้านบ้างคนก็แจ้งว่าพบพระเด็จบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน และทั้งนี้ บนเขาผาขี่ควาย มีชะง่อนหินและหน้าผาแค่เพียงส่วนยอดเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระเด็จจะตกเขา แต่หากเป็นอุบัติเหตุลื่นไถลก็อาจเป็นไปได้ อีกทั้งวันนั้นตนไม่พบว่าพระเด็จมีอาการเมาแต่อย่างใด
ขณะที่ตนยังเป็นพระอยู่นั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกับพระเด็จ ส่วนเรื่องยืมเงินที่มาการลือกันอยู่ในขณะนี้ก็ไม่เป็นความจริง แม้ว่าตนจะเคยยืมเงินพระเด็จ แต่ก็เพียงแค่ ประมาณ 1- 2 ครั้ง ครั้งล่ะไม่ถึง 200 บาท เท่านั้น ส่วนพฤติกรรมของพระเด็จนั้น ตนทราบว่าพระเด็จดื่มเหล้า เรื่องดังกล่าวนี้พระลูกวัดอื่น ๆ ก็สามารถยืนยันได้ ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้นตนไม่ได้ใส่ใจนัก ต่างคนต่างอยู่ ส่วนตนนั้นก็ยอมรับว่า เคยเสพยาเสพติดแต่เสพเพียงคนเดียว ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร
เรื่องหลุมปริศนาที่ญาติของพระเด็จพบนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง และไม่ทราบว่าหลุมดังกล่าวอยู่ที่ใด หรือรอยล้อรถที่หลุมจะเป็นล้อรถของวัดหรือไม่ แต่ที่วัดมีรถอยู่สองคัน
คุณอำนาจ เปิดเผยอีกว่า พระเด็จเป็นเพื่อนของพ่อตน ซึ่งสนิทสนมกันเป็นเวลานาน ตนยังเคยเข้าไปขอยาเส้น ปลากระป๋อง ดังนั้นเรื่องที่มีข่าวว่าตนจะไปทำร้ายหรือข่มขู่นั้นไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน และเรื่องที่ตั้งข้อสงสัยว่าพระเด็จจะหลงป่านั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนเห็นว่าพระเด็จเคยขึ้นไปที่เขาลูกนี้ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น
ทั้งนี้ เรื่องที่พระเด็จหายตัวไปนั้น ตนก็ต้องการทราบว่าหายไปไหนเช่นกัน เพราะหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ต้องคอยตอบคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ กับเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน อยู่ตลอดเวลา ตนรู้สึกเบื่อมาก หากตนทราบความจริงตนก็คงตอบทุกคนไปแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมาทำให้หลายฝ่ายเดือดร้อนไปขนาดนี้
ด้าน พระสาคร เปิดเผยว่า อาตมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับพระเด็จหรือพระลูกวัดรูปอื่น อีกทั้งยังไม่เคยเห็นพระรูปอื่นทะเลาะกับพระเด็จ แต่พบว่าพระเด็จเคยบาดเจ็บหัวแตกจริง ส่วนพฤติกรรมของพระเด็จนั้น ไม่ทราบว่าดื่มเหล้าหรือไม่ เพียงแต่เคยกลิ่นเหล้าจากตัวพระเด็จ และในวันที่พระเด็จหายตัวไป อาตมาโทรศัพท์ถามญาติว่าเดินทางไปค้นหาพระเด็จไหนบ้างนั้น ก็เพื่อต้องการจะไปช่วยค้นหาด้วย และขณะนี้อาตมายังไม่ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่
ส่วนเรื่องหลุมดังกล่าวที่ญาติของพระเด็จสงสัยว่ามีรอยล้อรถของวัดนั้น ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด แต่ได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่สืบทราบแล้วว่า ไม่ใช่รอยล้อรถของวัดอย่างที่มีการเข้าใจกัน
วันเกิดเหตุ อาตมาขึ้นไปบนเขาก่อน เพื่อไปทำพิธีปักธง ซึ่งเป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพิธีดังกล่าวญาติโยมจะมีการนำปัจจัยถวายให้แก่พระรูปละซองเท่านั้น ไม่มีการถวายเงินให้เป็นกองกลาง อีกทั้งเงินบริจาคก็มีจำนวนไม่มากอีกด้วย ส่วนพระเด็จจะหายไปไหนนั้นยังไม่มีจุดที่ต้องสงสัยเป็นพิเศษ นอกจากนี้อาตมาก็ไม่เคยขึ้นไปบนเขาลูกอื่นนอกจากเขาผาขี่ควาย
สุดท้าย ทนายรณณรงค์ ชี้แจงว่า ในวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 6 จะนำเฮลิคอปเตอร์ออกบินค้นหาทั่วบริเวณเขาผาขี่ควาย รวมถึงตรวจสอบภาคพื้นดินในทุกจุดต้องสงสัย ทั้งนี้ บนเขาผาขี่ควายนั้นมีทั้งถ้ำและแอ่งน้ำอยู่มาก ซึ่งแม้ว่าจะมีการปูพรมค้นหาไปแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังว่าหากตรวจสอบอีกครั้งอาจจะพบตัวพระเด็จ
โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่วางแผนค้นหาในพื้นที่ 2 จุด คือ บริเวณเขาผาขี่ควาย ส่วนอีกจุดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่า เจ้าหน้าได้มือดีมาช่วยคลายคดีดังกล่าว และมั่นใจว่าจะต้องได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าพระเด็จหายไปที่ใด
