โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เปิดใจครั้งแรก ไก่ สมพล เผยเส้นทางรักแฟนหนุ่ม30ปี แจงเข้าใจผิด“ตี๋ ผจก.”(คลิป)

Khaosod

อัพเดต 08 ก.ค. 2563 เวลา 02.03 น. • เผยแพร่ 07 ก.ค. 2563 เวลา 23.58 น.
ไก่สมพลคบแฟนหนุ่ม30ปี080763-99-1
เปิดใจครั้งแรก ไก่ สมพล เผยเส้นทางรักแฟนหนุ่ม30ปี แจงเข้าใจผิด“ตี๋ ผจก.”

ฮือฮาเส้นทางรักพิธีกรมากฝีมือและอดีตดีเจชื่อดัง ไก่ สมพล ปิยะพงศ์สิริ เปิดใจครั้งแรกกับรสนิยมทางเพศ พร้อมเผยเส้นทางความรักที่ต้องปิดบังมาร่วม 30 ปี ในรายการ คุยแซ่บโชว์ ยันไม่ได้ปิด แต่ไม่ได้ป่าวประกาศ ในอินสตาแกรมก็เห็น ใช้ชีวิตปกติ แจงแฟนหนุ่มที่ซุ่มคบ 28 ปี ไม่ใช่ ตี๋ ผู้จัดการส่วนตัว

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

เกือบ 30 ปีในวงการเคลียร์กันชัดๆเลยว่า “ไก่ สมพล” ตอนอายุ 15 เคยคบผู้หญิง
“เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง มันก็เหมือนเด็กทั่วไปตอนนั้นอยู่ ม.3 เหมือนชวนเพื่อนไปเที่ยวผู้หญิงกัน

แล้วเรารู้ตัวไหมตอนนั้น
“รู้ รู้อยู่แล้ว คนที่มันรู้ตัวเองมันไม่มีหรอกเพิ่งมารู้ มันรู้มานานแล้วขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะให้มันเป็นในแบบนั้นมากน้อยแค่ไหน เด็กรุ่นนั้นก็ เตะบอล ตีสนุ๊ก ตีหม้อ ทำหมด ตอนมัธยมปลายมีแฟนเป็นผู้หญิง แฟนผู้หญิงคนแรกยังไม่สาวธรรมศาสตร์ คนที่สองที่เป็นแฟนผู้หญิงก็ถือว่าเป็นคู่ควงเราไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง คนแรกคบก็เป็นเดือนนะ อยู่ต่างจังหวัด คนแรกไม่ใช่สาวธรรมศาสตร์นะ ต้องนั่งรถไปหาเขาก็มีไปป๊ะป๊ะชึ่งกันนะ”

ทำไมถึงลำบากขนาดนั้นนั่งรถไปหาเขา
“ก็ตอนนั้นเรายังไม่ได้อยากเป็นทางนี้มากไง คือต้องเข้าใจว่าเพศมันมีหลายเพศ มีเพศแบบว่าเป็นกะเทยเลยก็มี คือแบบเป็นผู้หญิงเลย เราน่าจะอยู่ในประเภทของเกย์ เกย์ชายหรือเกย์สาวก็ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเป็นอยู่ เรายังไม่อยากไปทางนี้อย่างที่บอก อยากจะมาทางนี้มากกว่าในตอนนั้น ส่วนคนที่ธรรมศาสตร์นี่สมัยมัธยมปลาย เรียนพิเศษแล้วเจอกัน ก็กุ๊กกิ๊กกันไปตามประสาวัยรุ่นตอนนั้น คบกันก็เกือบปีจนเข้ามหาวิทยาลัยก็แยกย้ายกันไปเพราะเขาไปอยู่ธรรมศาสตร์เราอยู่จุฬาฯ คือพอเราไม่ได้รักเขาจริงๆ ความรักนี่ใครที่บอกว่าไม่มีเวลาแปลว่าไม่ได้รักกันจริง ถ้าคุณรักกันจริงนะยังไงคุณก็อยากเจอ ไกลแค่ไหน เวลาน้อยแค่ไหนก็ต้องเจอ อันนั้นเป็นข้ออ้าง”

แต่สุดท้ายนี้ความรักกับสาวธรรมศาสตร์ก็ต้องเลิกไปเพราะหนุ่มศิลปกรรม จุฬาฯ
“พอเข้ามาปี 1 เป็นช่วงที่เรามีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ เรากลัวมาก กลัวคนรู้มาก สมัยนั้นคนจะล้อกัน เป็นเกย์หรอ มันไม่เหมือนสมัยนี้ เป็นแล้วทำไมหรอ ก็ต้องแอบ ของเราอยู่ฝั่งนี้ เขาอยู่ฝั่งโน้น เราไปทำกิจกรรมเล่นละครแล้วเจอกัน เขาเป็นพระเอกเราเป็นพ่อพระเอก ปรากฏว่าสุดท้ายพ่อพระเอกกับพระเอกได้กัน (หัวเราะ) ตอนเช้าเราก็มามหาวิทยาลัยด้วยกันบางวัน เขาก็จะลงป้ายรถเมล์ที่จุฬาฯก่อนตรงที่เป็นสระน้ำของเราจะลงเลยมาอีกป้ายนึง

ถามว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันสนุกไหม มันสนุกตอนที่เราอยู่กัน 2 คน (หัวเราะ) 2 คนมันสนุกแต่ถ้าอยู่หลายคนไม่สนุกเพราะเราต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำได้เนียนไหมเหรอบางทีเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นแฟนกันนะ คนก็เริ่มสงสัย เช่นจะมีพี่เข้ามาเทสต์เรา เข้ามานัวเนียเราเพื่อจะอยากดูพฤติกรรมเรา เราก็ทำเป็นเล่นด้วยเนียนๆไป แต่ก็คบกันแป๊ปเดียวไม่นานหรอก

ส่วนที่บ้านเราว่าเขารู้ เพียงแต่ว่าเขาจะพูดให้เราอึดอัดไหม หรือเราทำตัวยังไงให้เขารู้สึกว่าเราอย่าเป็นอย่างนี้ได้ไหม เราก็ไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกไม่ดี แล้วเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้เรารู้สึกอึดอัด เราเลยไม่ต้องพูดกันในเรื่องนี้ ถามว่าเขารู้ไหม เขารู้ สมัยก่อนสื่อสัมภาษณ์ก็ต้องเฉไฉไป แต่เราจะไม่โกหกหน้าตายว่าไม่เป็นเพราะมันพูดได้ไม่เต็มปาก ใช้คำว่าเฉไฉไปดีกว่า

พอเราเข้าวงการก็เริ่มเจอช่างหน้า ช่างผม แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่อยากให้เขาพูดถึงเราในแง่แบบนี้ เช่น คนนั้นอ่ะเป็นเชื่อฉันซิ คนนี้เป็นแน่นอน เขาเป็นคุณแม่ เราเลยจะบอกช่างหน้า ช่างผมตลอดว่าเราชอบแบบนี้นะ เพราะฉะนั้นเขาจะได้ไม่เอาเราไปเม้าธ์

แต่กับคนฟังหรือคุณผู้ชมเราไม่รู้จะพูดเพื่ออะไร แต่สิ่งที่เราแสดงออกเวลาเราเล่นมุกเวลาเห็นผู้ชาย จนบางคนก็ไม่รู้ว่าการแสวงหรือจริง แต่ถ้าถามคือทั้งสองอย่าง (หัวเราะ)”

สเป๊กหนุ่มเป็นยังไง
“ขาวตี๋หน้าตาดีมีกล้าม มีซิกซ์แพ็ก”

แต่นั่นคือสเป๊ก แต่จริงๆคือมีแฟนอยู่แล้ว มีมากี่ปี
“มี จริงๆเรียกว่ากัลยาณมิตรดีกว่า อยู่ด้วยกันคบหากันมาปีนี้น่าจะเป็นปีที่ 30 แล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนเลย ถ้าในฐานะที่เขาเป็นแฟนนะ เหมือนชายชาย ดูเป็นผู้ชายทั้งคู่ก็ไปกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวก็ตั้งแต่สมัยเราเรียนนิเทศฯปี 4 ถามว่าไปเจอกันได้ยังไงสมัยก่อนเขาจะไปนัดเจอกันที่แมคโดนัลด์ตึกซีพี แล้วหลังจากนั้นคนก็จะก็แยกกันไปเที่ยวซอย 2 ซอย 4 ก็ไปเจอกันที่นั่น ก็ตามองตา”

ทำไมคนนี้ดูยาวนานมีความพิเศษอะไร
“เพราะว่าผ่านชีวิตกันมาเยอะ แล้วก็เราไม่ใช่ครอบครัวรวย เขาไม่ใช่ครอบครัวรวย สมมติวันนึงแม่ให้มาร้อยนึง เธอมีเท่าไหร่ เธอมี 20 ฉันมีร้อยนึง เธอเอาไปอีก 40 จะได้มีเงินพอๆกัน แบ่งกันใช้แบ่งกันกิน ลำบากมาด้วยกัน ที่คบกันนานมันมีนะเรื่องระหองระแหง แต่เรารักกันพอรึเปล่า หมายความว่าเค้าทำให้เรารักหรือเปล่า เพราะวันนึงเขาทำให้เรารักสิ่งที่เขาทำไม่ดีหรือเราทำให้เขารักสิ่งที่เราทำไม่ดีมันก็จะเมตตากันให้อภัยกัน เพราะเรารักกันและกันและเขาทำตัวให้เรารักด้วย สิ่งดีๆที่เขาทำให้ ก็คือทุกอย่างเลย ดูแลด้วย เสมอต้นเสมอปลาย คุยได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนคุยเรื่องสุขเรื่องทุกข์ไปด้วยกัน”

บางคู่อาจจะคบกันได้ไม่นาน แต่ในเคสของเราเกือบ 30 ปีแล้ว
“มีหลายคู่ที่เป็นแบบนี้ แต่เขาไม่ได้ออกมาคุย มันก็เรื่องปกตินะ แต่ต้องยอมรับว่าเพศทางเลือกแบบพวกเราบางทีมันไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะด้วยความที่เป็นเพศเดียวกัน บางทีเรื่องการรับผิดชอบมันไม่มีไม่เหมือนชาย-หญิง บางทีเกิดตั้งท้องขึ้นมามันก็จะมีความคิดกันมาก่อนที่เราจะโป๊งโป๊งชึ่งกัน”

มีอะไรจะแนะนำน้องๆรุ่นใหม่ที่กำลังคบกันอยู่ตอนนี้มั้ยแล้วอยากจะให้ยืดแบบเราไหม
“เราก็เห็นหลายคู่นะที่เขารักกันดี ถ้าเรารักกันมันก็จะมีความเมตตาต่อกัน มันก็จะมีความอภัยให้แก่กัน สิ่งที่เราอยากจะทำก็อยากจะทำดีให้กับเขา เขาก็อยากจะทำดีให้กับเรา สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เรารักกันนาน”

การแต่งงานน่าจะเป็นปลายทางของหลายๆคู่ที่อยากจะใช้ชีวิตในรูปแบบนี้ไปตลอดรอดฝั่ง
“เวลาเห็นเขาจัดงานแต่งงานแบบนี้เราดีใจจัง โลกเรามาถึงจุดตรงนี้แล้ว แต่สำหรับเราพิธีไม่ได้สำคัญแต่ที่อยากให้มีจริงๆคือการจดทะเบียนสมรสในเพศเดียวกันได้ เพราะวันนึงพ่อแม่ก็ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว เราแก่เฒ่าไปไม่มีลูกหลาน สิ่งที่เราทำได้คือเราดูแลกัน เช่นถ้าเข้าโรงพยาบาลเราสามารถเซ็นให้หมอผ่าตัดเขาได้เลย ไม่งั้นจะหาใครมาเซ็นให้ถ้าไม่ใช่คนที่สามารถรับผิดชอบให้กันได้ นี่แหละสิ่งที่เราอยากให้มี”

ถ้ามีอาจะจดไหม
“จดเราอยากจด เพราะเราอยากดูแลกันในยามเจ็บป่วยได้ เป็นปากเป็นเสียงให้กันได้”

28ปีทำไมไม่เปิดตัวให้ทุกคนรู้
“จริงๆไม่ได้ปิดนะ ถ้าใครเข้าไปดูในไอจีก็จะเห็น เราไม่ได้ปิดบังเพียงแต่เราไม่ได้ออกมาป่าวประกาศก็คือใช้ชีวิตอย่างปกติ”

ไก่ สมพล กับ ตี๋ ผู้จัดการส่วนตัว ที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแฟน

แต่แฟนตัวจริงที่พูดถึง 28 ปีไม่ใช่ผู้จัดการที่ชื่อ “คุณตี๋” ใช่ไหม
เฮียตี๋จะโดนตลอดเลย เพราะเขาก็ดูดี จริงๆเขาเป็นน้อง จะเรียกเขาเป็นลูกก็ได้ ลูกสาว (หัวเราะ) พอแล้วเดี๋ยวเฮียตี๋จะเสียไปมากกว่านี้ เพราะเขายังมีพ่อแม่เขาอยู่ ไม่กลัวคนจะคิดว่าเขาเป็นแฟนเรา เราบอกไปว่าเขาไม่ใช่ คนจะเชื่อเหรอ เราไม่สนใจ ใครอยากจะคิดยังไง คนเข้ามาถามเราก็จะบอก แต่จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่” โดย ท๊อป ดารณีนุช พิธีกร แอบบอก ถ้าเห็นเขาไปกับตี๋ และ ผู้ชายอีกคน ก็คนนั้นแหละ คนที่ไม่ใช่ ตี๋ เขาจะพรางตัวอยู่

https://www.youtube.com/watch?v=057rXdDVSLA

youtube
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0