ทำเอาเหล่าแฟนคลับตกใจไม่น้อย สำหรับอดีตดีเจชื่อดังและพิธีกรมากความสามารถ "ไก่ สมพล" ที่ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกกับรสนิยมทางเพศ พร้อมเผยเส้นทางความรักที่ต้องปิดบังมานานเกือบ 30 ปี ผ่านรายการหนึ่ง โดยเจ้าตัวเผยว่า เคยมีระหองระแหงกันบ้าง แต่เป็นเพราะรักกันมากพอ จึงครองรักกันมาถึงทุกวันนี้ และอยากให้มีการจดทะเบียนสมรสเพศเดียวกันได้ หวังดูแลกันยามเจ็บป่วยในอนาคต
นอกจากนี้หนุ่ม "ไก่ สมพล" ได้เผยเส้นทางความรักในอดีตอีกว่า
"เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง มันก็เหมือนเด็กทั่วไปตอนนั้นอยู่ ม.3 อายุ 15 เหมือนชวนเพื่อนไปเที่ยวผู้หญิงกัน แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่าเป็น คนที่มันรู้ตัวเองมันไม่มีหรอกเพิ่งมารู้ มันรู้มานานแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะให้มันเป็นในแบบนั้นมากน้อยแค่ไหน เด็กรุ่นนั้นก็เตะบอล ตีสนุ้ก ตีหม้อ ทำหมด"
"ตอนมัธยมปลายมีแฟนเป็นผู้หญิง แฟนผู้หญิงคนแรกยังไม่ใช่สาวธรรมศาสตร์นะ คบก็เป็นเดือนนะ อยู่ต่างจังหวัด ต้องนั่งรถไปหาเขาก็มีไปมีอะไรกัน ส่วนคนที่สองที่เป็นแฟนผู้หญิงก็ถือว่าเป็นคู่ควงเราไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง"
ทำไมถึงลำบากขนาดนั้น ต้องนั่งรถไปหาเค้า?
"ก็ตอนนั้นเรายังไม่ได้อยากเป็นทางนี้มากไง คือต้องเข้าใจว่าเพศมันมีหลายเพศ มีเพศแบบว่าเป็นกะเทยเลยก็มี คือแบบเป็นผู้หญิงเลย เราน่าจะอยู่ในประเภทของเกย์ เกย์ชายหรือเกย์สาวก็ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเป็นอยู่ เรายังไม่อยากไปทางนี้อย่างที่บอก อยากจะมาทางนี้มากกว่าในตอนนั้น"
"ส่วนคนที่ธรรมศาสตร์นี่สมัยมัธยมปลาย เจอกันตอนเรียนพิเศษ ก็กุ๊กกิ๊กกันไปตามประสาวัยรุ่นในตอนนั้น คบกันก็เกือบปีจนเข้ามหาวิทยาลัยก็แยกย้ายกันไปเพราะเขาไปอยู่ธรรมศาสตร์เราอยู่จุฬาฯ"
สุดท้ายความรักกับสาวธรรมศาสตร์ก็ต้องเลิกไปเพราะหนุ่มศิลปกรรม จุฬาฯ?
"พอเข้ามาปี 1 เป็นช่วงที่เรามีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ เรากลัวมาก กลัวคนรู้มาก สมัยนั้นคนจะล้อกัน เป็นเกย์หรอ มันไม่เหมือนสมัยนี้ เป็นแล้วทำไมหรอ ก็ต้องแอบ ของเราอยู่ฝั่งนี้ เขาอยู่ฝั่งโน้น เราไปทำกิจกรรมเล่นละครแล้วเจอกัน เขาเป็นพระเอกเราเป็นพ่อพระเอก ปรากฎว่าสุดท้ายพ่อพระเอกกับพระเอกได้กัน ตอนเช้าเราก็มามหาวิทยาลัยด้วยกันบางวัน เขาก็จะลงป้ายรถเมล์ที่จุฬาฯก่อนตรงที่เป็นสระน้ำของเราจะลงเลยมาอีกป้ายนึง ถามว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันสนุกไหม มันสนุกตอนที่เราอยู่กัน 2 คน2 คนมันสนุกแต่ถ้าอยู่หลายคนไม่สนุกเพราะเราต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
"ถ้าถามว่าทำได้เนียนไหม บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นแฟนกันนะ คนก็เริ่มสงสัย เช่นจะมีพี่เข้ามาเทสต์เรา เข้ามานัวเนียเราเพื่อจะอยากดูพฤติกรรมเรา เราก็ทำเป็นเล่นด้วยเนียนๆไป แต่ก็คบกันแป๊ปเดียวไม่นานหรอก ส่วนที่บ้านเรา เราว่าเขารู้นะ เพียงแต่ว่าเขาจะพูดให้เราอึดอัดไหม หรือเราทำตัวยังไงให้เขารู้สึกว่าเราอย่าเป็นอย่างนี้ได้ไหม เราก็ไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกไม่ดี แล้วเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้เรารู้สึกอึดอัด เราเลยไม่ต้องพูดกันในเรื่องนี้ ถามว่าเขารู้ไหม เขารู้"
"สมัยก่อนถ้าสื่อสัมภาษณ์ ก็ต้องเฉไฉไป แต่เราจะไม่โกหกหน้าตายว่าไม่เป็นเพราะมันพูดได้ไม่เต็มปาก ใช้คำว่าเฉไฉไปดีกว่า พอเราเข้าวงการก็เริ่มเจอช่างหน้า ช่างผม แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่อยากให้เขาพูดถึงเราในแง่แบบนี้ เช่น คนนั้นอ่ะเป็นเชื่อฉันซิ คนนี้เป็นแน่นอน เขาเป็นคุณแม่ เราเลยจะบอกช่างหน้า ช่างผมตลอดว่าเราชอบแบบนี้นะ เพราะฉะนั้นเขาจะได้ไม่เอาเราไปเมาท์ แต่กับคนฟังหรือคุณผู้ชมเราไม่รู้จะพูดเพื่ออะไร แต่สิ่งที่เราแสดงออกเวลาเราเล่นมุกเวลาเห็นผู้ชาย จนบางคนก็ไม่รู้ว่าการแสดงหรือเรื่องจริง แต่ถ้าถามคือทั้งสองอย่าง"
จริงๆ คือมีแฟนอยู่แล้ว แล้วมีมากี่ปี?
"มี จริงๆเรียกว่ากัลยาณมิตรดีกว่า อยู่ด้วยกันคบหากันมาปีนี้น่าจะเป็นปีที่ 30 แล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนเลย ถ้าในฐานะที่เขาเป็นแฟนนะ เหมือนชายชาย ดูเป็นผู้ชายทั้งคู่ก็ไปกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวก็ตั้งแต่สมัยเราเรียนนิเทศฯปี 4 ถามว่าไปเจอกันได้ยังไงสมัยก่อนเขาจะไปนัดเจอกันที่แม็ดโดนัลตึกซีพี แล้วหลังจากนั้นคนก็จะก็แยกกันไปเที่ยวซอย 2 ซอย 4 ก็ไปเจอกันที่นั่น ก็ตามองตา"
ทำไมคนนี้ดูยาวนานมีอะไรพิเศษ?
"เพราะว่าผ่านชีวิตกันมาเยอะ แล้วก็เราไม่ใช่ครอบครัวรวย เขาไม่ใช่ครอบครัวรวย สมมติวันนึงแม่ให้มาร้อยนึง เธอมีเท่าไหร่ เธอมี 20 ฉันมีร้อยนึง เธอเอาไปอีก 40 จะได้มีเงินพอๆกัน แบ่งกันใช้แบ่งกันกิน ลำบากมาด้วยกัน ที่คบกันนานมันมีนะเรื่องระหองระแหง แต่เรารักกันพอรึเปล่า หมายความว่าเค้าทำให้เรารักหรือเปล่า เพราะวันนึงเขาทำให้เรารักสิ่งที่เขาทำไม่ดีหรือเราทำให้เขารักสิ่งที่เราทำไม่ดีมันก็จะเมตตากันให้อภัยกัน เพราะเรารักกันและกันและเขาทำตัวให้เรารักด้วย สิ่งดีๆที่เขาทำให้ ก็คือทุกอย่างเลย ดูแลด้วย เสมอต้นเสมอปลาย คุยได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนคุยเรื่องสุขเรื่องทุกข์ไปด้วยกัน"
บางคู่การที่ LGBT อาจจะคบกันได้ไม่นาน แต่ในเคสของเราเกือบ 30 ปีแล้ว?
"มีหลายคู่ที่เป็นแบบนี้ แต่เขาไม่ได้ออกมาคุย มันก็เรื่องปกตินะ แต่ต้องยอมรับว่าเพศทางเลือกแบบพวกเราบางทีมันไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะด้วยความที่เป็นเพศเดียวกัน บางทีเรื่องการรับผิดชอบมันไม่มีไม่เหมือนชาย-หญิง บางทีเกิดตั้งท้องขึ้นมามันก็จะมีความคิดกันมากก่อนที่เราจะโป๊งโป๊งชึ่งกัน"
มีอะไรจะแนะนำน้องๆรุ่นใหม่ที่กำลังคบกันอยู่ตอนนี้ไหม?
"เราก็เห็นหลายคู่นะที่เขารักกันดี ถ้าเรารักกันมันก็จะมีความเมตตาต่อกัน มันก็จะมีความอภัยให้แก่กัน สิ่งที่เราอยากจะทำก็อยากจะทำดีให้กับเขา เขาก็อยากจะทำดีให้กับเรา สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เรารักกันนาน"
การแต่งงานน่าจะเป็นปลายทางของหลายๆคู่ ที่อยากจะใช้ชีวิตในรูปแบบนี้ไปตลอดรอดฝั่ง?
"เวลาเห็นเขาจัดงานแต่งงานแบบนี้เราดีใจจัง โลกเรามาถึงจุดตรงนี้แล้ว แต่สำหรับเราพิธีไม่ได้สำคัญแต่ที่อยากให้มีจริงๆคือการจดทะเบียนสมรสในเพศเดียวกันได้ เพราะวันนึงพ่อแม่ก็ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว เราแก่เฒ่าไปไม่มีลูกหลาน สิ่งที่เราทำได้คือเราดูแลกัน เช่นถ้าเข้าโรงพยาบาลเราสามารถเซ็นต์ให้หมอผ่าตัดเขาได้เลย ไม่งั้นจะหาใครมาเซ็นต์ให้ถ้าไม่ใช่คนที่สามารถรับผิดชอบให้กันได้ นี่แหละสิ่งที่เราอยากให้มี ถ้ามีจดเราก็อยากจด เพราะเราอยากดูแลกันในยามเจ็บป่วยได้ เป็นปากเป็นเสียงให้กันได้"
28 ปีทำไมไม่เปิดตัวให้ทุกคนรู้?
"จริงๆไม่ได้ปิดนะ ถ้าใครเข้าไปดูในไอจีก็จะเห็น เราไม่ได้ปิดบังเพียงแต่เราไม่ได้ออกมาป่าวประกาศก็คือใช้ชีวิตอย่างปกติ แล้วก็แฟนตัวจริงที่พูดถึงไม่ใช่ผู้จัดการที่ชื่อ ตี๋ แน่นอน จริงๆ เค้าเป็นน้อง จะเรียกว่าลูกก็ได้ ไม่ใช่ลูกธรรมดาด้วย เค้าคือลูกสาว"
ขอบคุณภาพ IG kaisamapol
เกาะติดข่าวบันเทิงที่นี่
Facebook : True Inside HD
Twitter : true_insidenews
Youtube Official : TrueVisionsOfficial
Instagram : True_insidenews
Website: www.TNNThailand.com
True Visions 02-700-8000