โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เปิดโพยหุ้นมีอัพไซด์เกิน10% พ่วงหุ้นยั่งยืนระยะยาว

efinanceThai

เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 10.19 น.

      โบรกฯ เปิดโผหุ้นพื้นฐานดี มีอัพไซด์ตั้งแต่ 10%ขึ้นไป CPN CPF BBL นำทีม รับอานิสงส์กิจกรรมศก.เริ่มกลับมาเดินเครื่อง พ่วงอีก 7 หุ้นยั่งยืน จาก SETTHSI น่าลงทุน ช่วงราคาอ่อนตัว หวังเติบโตในระยะยาว
    
 

* เปิด 4 กลุ่มรับอานิสงส์กิจกรรมศก.เริ่มขยับ 
  
     บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (DBSV) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์รายวันว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเพิ่มขึ้น หลังจากบริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ขยับเวลาปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าเป็นเวลา 22.00 น. ส่งผลให้มีผู้บริโภคกลับเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้ากลุ่มสยามพิวรรธน์แล้ว ประมาณ 60-70% 

    จากข่าวดังกล่าว นับว่าสถานการณ์ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 ที่มีการLockdown อย่างไรก็ตาม ก็คงจะยังไม่กลับไปเท่ากับก่อนโควิด-19 โดยเร็ว และประเด็นที่ยังท้าทาย คือ มูลค่าในการจับจ่ายใช้สอยต่อบิล ที่อาจจะยังต่ำในช่วงภาวะเศรษฐกิจหดตัว ความเชื่อมั่นต่อการมีรายได้และการมีงานทำลดลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว

     สำหรับกลุ่มและหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการเริ่มฟื้นตัวของการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และการเดินทางในกรุงเทพฯ & ปริมณฑล ได้แก่

    ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ห้างสรรพสินค้า เช่น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF  
 
    ธุรกิจขนส่ง  เช่น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM   บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS
    
     ธุรกิจ ร้านสะดวกซื้อ & สินค้าอุปโภค เช่น บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC  , บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL

    ธุรกิจอาหาร & เครื่องดื่ม (เช่น บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU , บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M   บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF  ,  บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ,  บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG 

 

* พบมี 7 หุ้นอัพไซด์เกิน 10%  

     ส่วนหุ้นที่ทาง DBSV ทำการวิเคราะห์ และแนะนำซื้อ โดยมี Upside จากราคาปัจจุบันกว่า 10% ขึ้นไป ประกอบด้วย BEM, BTS, BJC, CPALL, CPF, GFPT และ OSP ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

หุ้น ราคา    ราคาเป้าหมาย    % อัพไซด์    EPS(%Growth)    PE        25632563CPN52.7552-1.421.99 (-24)26.5BEM9.5510.7120.23 (-36.1)41.5BTS11.612.8100.62 (153.8)18.8BJC39.754513.21.52 (-16.5)29.6CPALL67.257917.472.58 (8.4)26CPF31.754129.132.64 (21.1)12.02GFPT1314.4110.89 (-6.3)14.6OSP394823.071.22 (13)31.96

อัพเดทราคา 3 ก.ค.63 

 

* CGS-CIMB เปิดโผ 10 หุ้นพร้อมพื้นฐานดี - อัพไซด์เกิน 15%  
    
    บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (CGS-CIMB)เปิดเผยว่า  หากตลาดยังปรับตัวขึ้นจากสภาพคล่องในระบบที่มีอยู่สูงก็อยากให้นักลงทุนซื้อเก็งกำไร ในหุ้นที่มีพื้นฐานดีด้วย ดังนั้นจึงทำการศึกษาหุ้นจากฐานข้อมูลของBloomberg consensus โดยใช้เกณฑ์ 
 
    มี upside สูงเกิน 15%  /  มีนักวิเคราะห์ทำการศึกษาเกิน 5 ราย /  นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เกิน 50% ให้คำแนะนำ ซื้อ /  เป็นหุ้นที่ CGS-CIMB ทำการศึกษาและให้คำแนะนำ ซื้อ โดยมี 10 หุ้นที่เข้าเกณฑ์ (ราคาอัพเดท 3 ก.ค.63)ดังนี้ 

      BBL มี upside 26.5% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 136 บาท , CPALL มี upside 20.17% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 80.82 บาท, CHG มี upside 20% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 2.88 บาท,ADVANC มี upside 19.68% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 225 บาท, INTUCH มี upside 18%จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 67.44 บาท,

    CPF มี upside 18.11% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่37.50 บาท, BCH มี upside 17.68% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 17.30 บาท, STEC มี upside16.77 % จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 18.10 บาท, DIF มี upside 16.66% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 17.50 บาทและ CRC มี upside 16.17% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 39.50 บาท

 

* บล.หยวนต้า ชวนลงทุนหุ้นยั่งยืน 

    บล.หยวนต้าเปิดเผย ว่า ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ตลาดการเงินผันผวนสูง นักลงทุนทั้งสถาบันและรายบุคคลทั่วโลกจึงหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นยั่งยืน (บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG)มากขึ้น 

    ขณะที่ กองทุนหุ้น ESG ในต่างประเทศ สามารถสร้างผลตอบแทน YTD เป็นบวกได้อย่างน่าประทับใจ  ซึ่งหากประเมินจุดเด่นของหุ้น ESG คือ ความเสี่ยงทางธุรกิจในระยะยาวควรจะต่ำกว่าหุ้นทั่วไป เพราะใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ที่มักเป็นความเสี่ยงอย่างไม่คาดฝัน และกระทบต่อผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ 
    
    โดยข้อมูลของ Morning Star บ่งชี้ว่ามีเม็ดเงินไหลเข้าช่วง Q1/63 ราว 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์  สวนทางกับกองทุนทั่วไปที่เม็ดเงินไหลออก 38.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และเมื่อพิจารณาผลตอบแทนของ S&P ESG INDEX พบว่า -6.1% YTD  ดีกว่า S&P500 ที่ -7.6% YTD   ขณะที่ ผลตอบแทนของกองทุน ETF เช่น Nuveen ESG Large-Cap Growth (NULG) +10% YTD และ iShares ESG MSCI USA ETF (ESGU) +0.6 %YTD  

    ส่วนดัชนี SETTHSI INDEX ที่เป็นดัชนีหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ฯ -18.2% YTD แย่กว่า SET INDEX ที่ -16.6% YTD เล็กน้อย เนื่องจากหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มท่องเที่ยวของไทยถูกกระทบโดยตรงจากโควิด ซึ่งมี Market Cap. รวมกันราว 25% ของดัชนี จึงทำให้ SETTHSI  เคลื่อนไหวแย่กว่าตลาดชั่วคราว แต่ในระยะยาว เราคาดว่าหุ้น SETTHSI จะกลับมา Outperform ตลาดได้ เพราะ (1) ความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทเหล่านี้จะลดลงต่อเนื่อง และ (2) นักลงทุนจะให้มูลค่าเพิ่มกับบริษัทที่ยึดหลัก ESG มากขึ้น 

 

* พบ 7 หุ้น ESG จาก SETTHSI น่าเก็บ - ถือยาวช่วงพักฐาน  

    การเคลื่อนไหวของ SETTHSI INDEX ที่ Underperform SET INDEX สะท้อนความเป็นไปได้ที่หุ้น ESG อาจให้ผลตอบแทนแย่กว่าตลาดในบางช่วง แต่เนื่องจาก SETTHSI ยังมีข้อมูลในอดีตไม่มาก (เริ่มคำนวณเมื่อ 2 ก.ค. 61) จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าผลตอบแทนระยะยาวจะสามารถชนะ SET INDEX ได้หรือไม่ 

    อย่างไรก็ตาม ถ้าอิงดัชนีหุ้น ESG ต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ พบว่ายังสร้างผลตอบแทนชนะ Benchmark ได้ต่อเนื่อง การทำ Stock Selection โดยการคัดเลือกผ่าน Universe ที่ประกอบด้วยหุ้น ESG จึงยังเป็นกลยุทธ์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีกว่าตลาดได้อย่างยั่งยืน     

    ทั้งนี้ได้เลือกที่จะวิเคราะห์หุ้นจาก SETTSHI INDEX จำนวน 58 หลักทรัพย์ เพราะใกล้เคียงกับ Universe ของบริษัทมากที่สุด แล้วนำมาคัดกรองด้วยปัจจัยพื้นฐาน 3 เงื่อนไขคือ (1) Current PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (2) ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง D/E Ratio น้อยกว่า 2 เท่า และ (3) ROE มากกว่า 10% ที่เป็นค่าเฉลี่ยของตลาด 

    พบว่ามีหุ้นที่เข้าเกณฑ์ทั้งสิ้น 7 หลักทรัพย์ คือ AMATA - EA -  INTUCH -  PTT -  SCC - SPALI -  TTW   ทั้งนี้ เนื่องจาก Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ PER 19.5 เท่า ค่อนข้างตึงตัว เราแนะนำให้เลือกลงทุนหุ้น ESG ช่วงที่ราคาหุ้นพักฐาน หรือใช้ปัจจัยทางเทคนิคเพื่อหาจุดซื้อจุดขายที่เหมาะสมอีกครั้ง

 

* หุ้นใน SETTSHI ที่ PBV ยังต่ำกว่าอดีตและฐานทางการเงินแข็งแกร่ง

หุ้น PBV D/E(X)  ROE(%)  ราคาเป้าหมาย   Current(X)  Average 5Y(X)   บ.AMATA1.171.561.5312.89-EA5.939.931.9229.3143INTUCH5.386.740.433.9564.5PTT1.271.431.4110.640SCC1.532.291.2711.49370SPALI0.921.540.7715.215.6TTW3.8340.7124.6314.8

 

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0