พระนครศรีอยุธยา-วังช้างเปิดให้บริการแล้วยังคงเน้นมาตรการป้องกัน โควิด-19 เว้นระยะห่าง ขณะที่ ททท.จัดแคมเปญ"ช่วยชุมชน ช่วยช้าง ช่วยชาติ"
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสุดคึกคักโดยเฉพาะที่วังช้างอยุธยาแลเพนียด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ได้เปิดดำเนินการในวันหยุดเป็นวันแรก มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยทางวังช้างอยุธยาแลเพนียด ได้เน้นย้ำในเรื่องระบบคัดกรองและการเว้นระยะห่างในพื้นที่ทุกจุด เริ่มตั้งแต่ทางเข้า มีการตั้งจุดคัดกรอง สแกนการเข้าออกด้วย ไทยชนะ หรือลงรายชื่อตามขั้นตอน
โดยระหว่างทางเดินภายในมีการทำเครื่องหมายเว้นระยะห่างตามจุดต่างๆ เช่นจุดขายตั๋วนั่งช้าง จุดให้อาหารที่ต้องเว้นระยะห่างกัน ที่สำคัญทุกคนที่เข้ามาต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา อีกทั้งการนั่งช้างยังต้องนั่งเชือกละ 1 คนเท่านั้น ซึ่งทางวังช้างอยุธยาได้ลดราคาค่าโดยสารช้างด้วย
อย่างไรก็ตามนายเรียงทองบาท มีพันธ์ ผู้บริหารวังช้างอยุธยาแลเพนียดยังเปิดเผยด้วยว่า ทางวังช้างอยุธยา ได้มีการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบให้มีความสะอาดและมีอากาศถ่ายเท เพื่อให้เป็นพื้นที่เปิด อีกทั้งยังไม่มีการแสดงช้างโชว์ เนื่องจากยังเกรงเรื่องระยะห่าง แต่สามารถที่จะซื้ออาหารให้กับช้างได้ โดยในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา ผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพระนครศรีอยุธยา ผู้ประกอบการรถตุ๊กๆ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย
ขณะเดียวกัน ททท. จัดทำโครงการ "ช่วยชุมชน ช่วยช้าง ช่วยชาติ" เร่งให้ความช่วยเหลือด้านอาหารช้าง ผ่านสถานประกอบการที่มีช้างเพื่อการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดรับสมัครสถานประกอบการที่มีช้างเพื่อการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้าร่วมโครงการ ช่วยชุมชน ช่วยช้าง ช่วยชาติ ส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาหารช้างผ่านชุมชนเกษตรกรผู้ผลิตอาหารช้าง สถานประกอบการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานฯ จะได้รับความช่วยเหลือด้านงบประมาณสำหรับการจัดซื้ออาหารช้างที่จัดซื้อจากชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกอาหารช้างจากแหล่งต่าง ๆ โดยมูลค่าของอาหารช้างขั้นต่ำที่ช้างแต่ละเชือกจะได้รับอยู่ที่ประมาณ 3,000-6,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนสถานประกอบการ และจำนวนช้างที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 7 มิถุนายน
