ปักกิ่ง, 4 มิ.ย. (ซินหัว) -- หยวนจื้อหมิง ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติ สังกัดสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (WIV) ของจีน ชี้ว่าคำกล่าวอ้างไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิดจากฝีมือมนุษย์หรือหลุดรั่วจากห้องปฏิบัติการฯ สวนทางกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
การศึกษาจากทั่วโลกเกี่ยวกับข้อมูลทางพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่พบหลักฐานการดัดแปลงเทียม (artificial modification) พร้อมบ่งชี้ว่าโครงร่างของไวรัสฯ ซึ่งเป็นฐานของการรื้อสร้างพันธุกรรมใหม่นั้นแตกต่างจากไวรัสใดๆ ที่มนุษย์รู้จักทั้งหมด
"การออกแบบและสร้างไวรัสที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนนั้นอยู่นอกเหนือขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการทุกแห่งในสังกัดสถาบันฯ" หยวนกล่าวกับสำนักข่าวซินหัว "เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการออกแบบและสร้างไวรัสสายพันธุ์ใหม่และจะไม่มีวันทำเช่นนั้น"
วารสารวิชาการระหว่างประเทศระดับชั้นนำมากมาย รวมถึงแลนเซต (Lancet) และเนเจอร์ เมดิซีน (Nature Medicine) ได้เผยแพร่ผลการศึกษาหลายฉบับเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัส ซึ่งชี้ว่าไม่มีหลักฐานแสดงถึงการดัดแปลงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในห้องปฏิบัติการ
ห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติ ซึ่งเริ่มดำเนินการเดือนมกราคม 2015 และจัดเป็นห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพระดับสูงแห่งแรกของจีนที่ศึกษาจุลชีพก่อโรคกลุ่ม 4 (P4) มีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มศักยภาพการป้องกันและควบคุมไวรัสร้ายของจีน
หยวนกล่าวว่าห้องปฏิบัติการ พี4 อู่ฮั่น มีระดับความปลอดภัยทางชีวภาพเท่ากับห้องปฏิบัติการ พี4 อีกหลายสิบแห่งที่ดำเนินการอยู่ทั่วโลก รวมถึงมีการตรวจสอบรอบด้านที่เข้มงวดและผ่านมาตรฐานระหว่างประเทศ
นอกจากนั้นห้องปฏิบัติการ พี4 อู่ฮั่น มีส่วนร่วมในความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน แบ่งปันข้อมูลข่าวสารการวิจัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนเผยแพร่งานวิจัยและเข้าร่วมการประชุมต่างๆ เป็นประจำ
สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น หนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ได้ยื่นลำดับพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แก่องค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา
ครั้นคณะนักวิจัยของสถาบันฯ ตรวจพบยาหลายรายการที่มีประสิทธิผลค่อนข้างดีในการยับยั้งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในระดับเซลล์ พวกเขาก็เผยแพร่ผลการศึกษาผ่านวารสารวิชาการระหว่างประเทศในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
ขณะเดียวกันคณะนักวิจัยของสถาบันฯ ยังมีส่วนร่วมในการประชุมทางไกลระหว่างประเทศเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพื่อแบ่งปันข้อมูลการวิจัยใหม่ล่าสุดกับเพื่อนร่วมอาชีพในต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ
สถาบันฯ ได้จัดการประชุมระหว่างประเทศ 2 ครั้ง และรับรองนักวิชาการจากทั่วโลกมากกว่า 70 คน ในปีก่อน รวมถึงดำเนินความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนเชิงลึกกับหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และเยอรมนี ในฐานะสมาชิกกลุ่มผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการขั้นสูง (GOHLD)
หยวนเสริมว่าการแกะรอยต้นกำเนิดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงเป็นพันธกิจทางวิทยาศาสตร์ที่มีความท้าทายและความไม่แน่นอนสูง และไม่ได้มีแนวโน้มว่าจะสามารถค้นพบคำตอบได้ในระยะเวลาอันสั้นด้วย
"ผมหวังว่าทุกคนจะสามารถละวางอคติ หันมาเชื่อมั่นหลักการวิทยาศาสตร์และหลักฐานต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมของการวิจัยหาต้นกำเนิดไวรัสที่ใช้หลักเหตุและผลเป็นที่ตั้ง"
(แฟ้มภาพซินหัว : หอนกกระเรียนเหลืองและสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง ณ นครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ยทางจีนตอนกลาง วันที่ 26 ม.ค. 2020)
