โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิดเบื้องลึกสหรัฐเล่นงานหัวเว่ย “สั่นคลอนระบบสอดแนมอเมริกา”

Money2Know

เผยแพร่ 23 พ.ค. 2562 เวลา 00.29 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
เปิดเบื้องลึกสหรัฐเล่นงานหัวเว่ย “สั่นคลอนระบบสอดแนมอเมริกา”

Richard Yu ประธานแผนกมือถือของหัวเว่ย ประกาศว่าบริษัทจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ เพื่อรับมือผลกระทบจากการถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ

ระบบปฏิบัติการของหัวเว่ยอาจพร้อมใช้งานปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเป็นอย่างช้าสุด โดยระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะใช้งานหรือรองรับแอปทั้งหมดที่ใช้กับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และอาจทำให้แอปเหล่านี้ทำงานดีขึ้นด้วย

ยักษ์ใหญ่คมนาคมของจีนได้พัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2555 สำหรับใช้งานกับทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ โดยหัวเว่ยใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ส่วนแลปทอปใช้ Windows OS ของไมโครซอฟท์

ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล และ iOS ของแอปเปิล ครองส่วนแบ่งในตลาดระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนถึง 99.9% ของตลาดโลก แม้หลายบริษัทพยายามเข้ามาชิงส่วนแบ่ง อย่างไมโครซอฟท์ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows Mobile ซัมซุงอิเลกทรอนิกส์ที่มีระบบ Tizen และโนเกียที่ใช้แพลทฟอร์ม Symbian

การเปิดตัว OS หรือระบบปฏิบัติการของหัวเว่ย ที่ซุ่มพัฒนามากว่า 5 ปี ถือว่ามีความสำคัญ หลังจากหัวเว่ยเพิ่งแซงหน้าแอปเปิล ขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก อีกทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ยังออกคำสั่งห้ามบริษัทอเมริกันจัดหาชิ้นส่วนหรือเทคโนโลยีให้แก่หัวเว่ย หลังจากกล่าวหาว่าหัวเว่ยสอดแนมให้รัฐบาลจีน

แม้หัวเว่ยได้เวลาผ่อนผันและสามารถทำธุรกิจกับบริษัทอเมริกันได้ 90 วัน แต่หากผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไป บริษัทจะไม่สามารถเข้าถึงแอปและบริการต่างๆ ของกูเกิล ทั้งยังไม่สามารถใช้ชิปของอินเทลกับ Qualcomm ในอุปกรณ์ของบริษัท

หัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาสอดแนม และ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอใหญ่ของบริษัท กล่าวว่าบริษัทเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ทำนองนี้มานานแล้ว

หัวเว่ยเจอหางเลข หลังจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนดำเนินมา 2 ปี อีกทั้งสหรัฐยังตื่นตระหนกเกี่ยวกับอันตรายด้านความมั่นคงสืบเนื่องจากการใช้เทคโนโลยีจีน

นายจอร์จ เอี๋ยว อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า ประเทศต่างๆ เปราะบางต่อการถูกสอดแนม หากใช้บริการจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่างชาติ แต่การแบนบริษัทจีน อย่างหัวเว่ย จะไม่ทำให้ปัญหานี้หมดไป อีกทั้งคำพูดในทำนองที่ว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจเปิดทางให้รัฐบาลจีน เข้ามาสอดแนมลูกค้า ถือเป็นคำพูดที่มาจากฝ่ายเดียว

นายเอี๋ยวชี้ว่า ไม่เพียงจีนเท่านั้นที่อาจเข้ามาในระบบได้ แต่สหรัฐและประเทศอื่นๆ ก็พยายามเข้าไปในระบบของประเทศต่างๆ เช่นกัน ซึ่งหากเป็นประเทศขนาดเล็กก็ลำบาก เพราะไม่มีศักยภาพพอพัฒนาระบบโทรคมนาคมเองทั้งหมด

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์มองว่า เหตุที่สหรัฐวิตกเกี่ยวกับหัวเว่ย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหากหลายประเทศพากันหันไปใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย หน่วยข่าวกรองของสหรัฐจะเผชิญปัญหาในการสอดแนม

นายเอดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองอเมริกัน ผู้หนีออกจากสหรัฐและออกมาปล่อยข่าวรายละเอียดของโครงการการสอดส่องดูแลมวลชนลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐ ได้พูดถึงระบบสอดส่อง “Prism” ที่ไปไกลถึงขั้นแอบดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนี

สหรัฐกดดันบรรดาพันธมิตรให้แบนอุปกรณ์และเครือข่าย 5G ทั้งหมดของหัวเว่ย ทั้งขู่จะทบทวนการแบ่งปันข่าวกรองกับบรรดาพันธมิตร ซึ่งแคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แบนหัวเว่ย ส่วนสหภาพยุโรปจะไม่บล็อค แต่จะเพิ่มการจับตา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0