โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เปิดมุมมอง 'พี่อ้อย' กับประเด็นฮอต 'หรือสมัยนี้ผู้ชายกลัวการแต่งงาน?'

Amarin TV

เผยแพร่ 15 พ.ย. 2561 เวลา 05.16 น.
เปิดมุมมอง 'พี่อ้อย' กับประเด็นฮอต 'หรือสมัยนี้ผู้ชายกลัวการแต่งงาน?'
การแต่งงานถือเป็นหนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลายๆ คน ที่อยากให้เป็นจริง แต่ก็ต้องหันกลับมาถามคนที่อยู่ข้างๆ ด้วยว่า เขาพร้อมที่จะทำฝันของเราให้

การแต่งงานถือเป็นหนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลายๆ คน ที่อยากให้เป็นจริง แต่ก็ต้องหันกลับมาถามคนที่อยู่ข้างๆ ด้วยว่า เขาพร้อมที่จะทำฝันของเราให้เป็นจริงแล้วหรือยัง ต้องยอมรับว่า ช่วงหลังมานี้ มีข่าวเกี่ยวกับการรักๆ เลิกๆ ของดารามากมายหลายคู่ สาเหตุจากความไม่พร้อมที่จะแต่งงานก็มีไม่น้อย  หรือแม้กระทั่งข่าวเจ้าบ่าวหายตัวในวันแต่งก็มี จนเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่า หรือตอนนี้ผู้ชายกลัวการแต่งงานไปหมดแล้ว ล่าสุด Amarintv.com ได้ไปพูดกับกูรูผู้มากประสบการณ์เรื่องปรึกษาปัญหาความรัก อย่าง “พี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล” เธอจะมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ไปอ่านบทสัมภาษณ์พร้อมกันเลย

ดูเหมือนว่าช่วงหลังมานี่มีผู้ชายค่อนข้างเยอะที่ไม่พร้อมสำหรับการแต่งงาน คิดว่าผู้ชายเริ่มกลัวการแต่งงานแล้วหรือเปล่า? 

“พี่กลับมองว่า วิถีชีวิตคนเราเปลี่ยน ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน มันจะมีชีวิตค่อนข้างแตกต่าง เพราะก่อนแต่งงานจะยังไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ยังไม่ได้ไปอยู่ห้องเดียวกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ พอเราเราเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีคิดและทัศนคติอันใหม่ว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย จะได้เรียนรู้กันก่อนบางคนก็เลยรู้สึกว่าแต่งไม่แต่งไม่เห็นต่างเลย ก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ ไม่เห็นจะต้องมีการปรับตัวอะไร บางคนก็เลยรู้สึกว่าก็ไม่เห็นจำเป็นต้องแต่ง เพราะฉะนั้นพี่ก็เลยมองไปที่วิธีการปฏิบัติตัวต่อกันมากกว่า”

พี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล
พี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล

“คือถามว่าผู้ชายกลัวการแต่งงานมั้ย วันนี้ลองไปถามผู้ชายหลายๆ คนที่แต่งงาน เขาก็จะพูดคล้ายๆ กันว่า มันก็ไม่ได้เปลี่ยนเยอะอ่ะพี่ พี่ยังเชื่อมาเสมอว่า การแต่งงานเราทำเพื่อให้เกียรติพ่อแม่โดยส่วนใหญ่ จริงๆ นะ คนสองคนอยู่ตรงไหนก็อยู่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีพ่อมีแม่ เราก็มีพ่อมีแม่ เวลาที่เราแต่งงาน เขาทำเพื่อที่จะให้เกียรติพ่อแม่เรา ให้เกียรติว่าต่อไปนี้เขาจะดูแลลูกของพ่อของแม่นะ  เพราะฉะนั้นเนี้ย การแต่งงานเป็นงานจากทางผู้ใหญ่ทั้งนั้นแหละ เพื่อที่จะเป็นการให้เกียรติ เพราะการแต่งงานก็ไม่ได้จะการันตีชีวิตคู่อยู่ดี มีเยอะมากที่แต่งวันนี้ไป ข้างหน้าไม่รักกันเท่าวันนี้แล้ว เพราะฉะนั้นพี่ถึงยังเชื่อว่า การแต่งงานมันเป็นเรื่องของการให้เกียรติพ่อแม่เท่านั้นเอง”

เกี่ยวมั้ยว่าการใช้เวลาศึกษาดูใจนานมากเกินไป ทำให้ความรู้สึกอยากแต่งงานจางหาย?

“พี่ว่าที่สุดแล้วความรักมันไม่มีสูตร มันไม่ได้แปลว่าคบหากันมาประมาณ 10 ปี เบื่อพอดี ว้า ไม่แต่งละ หรือคบกันซัก 5 ปีแล้วแต่งกำลังดี มันไม่เกี่ยวเลยค่ะ แต่ละคู่มันมีความลงตัวของแต่ละคนด้วยตัวเอง บางคนเจอกัน 6 เดือนแต่งงานอยู่กันจน 20 ปีเยอะแยะไป บางคู่ดูใจกัน 10 ปี แต่งงานกันปีเดียวเลิกก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นพี่เชื่อว่าความรักมันใช้สูตรอะไรเป๊ะๆ ไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่าคนสองคนรู้สึกว่ารักแล้วรักเลยหรือเปล่า คือเป็นแฟนแล้ว แล้วไงอีกอ่ะ? ก็ไม่ต้องอะไรแล้วนี่”

“แต่อย่างไรก็ตามพี่ก็ยังเชื่อว่า รักกันวันแรกยังไง วันต่อๆ ไปก็ยังต้องหมั่นสร้างสีสัน เพราะความเบื่อและความเคยชินทำงานทุกวันนะ มันเหมือนกับเราอ่าค่ะ แค่วันนึงนิ่งเราก็เซ็งแล้ว พี่เคยเปรียบเทียบอันนึง คล้ายๆ กับเวลาเราเห็นเสื้อผ้าตัวนึงแล้วเราอยากได้จังเลย เรารู้ว่าถ้าเราได้มามันจะฟินมากอ่ะ ผ่านมา 2 เดือน มันกลายเป็นเสื้อตัวนึงที่อยู่ในตู้ แต่นั้นเป็นเสื้อไม่มีความรู้สึก แต่คนมีความรู้สึกตลอดเวลา”

“เพราะฉะนั้นเวลาที่เลือกรักใคร นอกจากเลือกรักเขา ต้องรับผิดชอบความรู้สึกของเขาด้วย มันจะไม่มีการมาบอกหรอกค่ะว่า อ๋ออยู่ไปนานๆ ก็เลยชินๆ กัน งั้นไม่ต้องแต่งก็ได้ มันไม่เกี่ยว เพียงแต่แค่ว่าอย่างที่บอกอ่าค่ะ วันนี้เราใช้วิถีชีวิตก่อนแต่งและหลังแต่งเหมือนกันเป๊ะ เลยไม่ต้องตื่นเต้นกับอะไร แต่ถ้าเป็นคนสมัยโบราณหรอคะ ดูใจกัน กินข้าว ดูหนัง แล้วกลับบ้านค่ะ อย่ามาค่ะ นี่ลูกสาวฉัน เพราะฉะนั้นถ้าอยู่ใกล้กว่านี้ก็แต่งสิ อะไรแบบนี้ ขนาดตอนรุ่นพี่ยังทันอยู่เลยนะ พี่กินข้าว ดูหนังเสร็จ ก็กลับบ้านเหมือนกัน ยิ่งคบกันทางไกลก็ยิ่งยากไง เจอกันแปปนึงก็ต้องจากกันแล้วอ่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากอยู่กันใกล้ๆ ก็ต้องแต่งให้ชัดเจน”

“คือเหมือนกับพ่อแม่เองก็อยากสร้างโจทย์บางโจทย์ให้ดูว่า ตกลงรักลูกของฉันมากพอที่จะต่อสู้เพื่ออยู่ด้วยกันมั้ย อันนี้ก็เป็นกฏกติกาของยุคนึง แต่พอเป็นยุคนี้บางที อ้าว ไปอยู่กันแล้วหรอ งั้นอยู่กันไปเลย คราวนี้พอวันนึงจะลุกขึ้นมาเรียกร้องการแต่งงาน มันก็เลยรู้สึกว่ามันไม่มีความต่างนะ เหมือนเดิม แต่งทำไมเสียตังค์ก็อยู่แล้วนี่ก็มี เพราะฉะนั้นแต่ละคู่ ความลงตัวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน” พี่อ้อยกล่าว.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0