โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิดมุมมองเอกชนกับทิศทางโซลาร์รูฟท็อปยังไงก็มา

Manager Online

อัพเดต 14 ต.ค. 2561 เวลา 14.22 น. • เผยแพร่ 14 ต.ค. 2561 เวลา 11.39 น. • MGR Online

เปิดมุมมองภาคเอกชนต่อพลังงานทดแทนประสานเสียงโซลาร์รูฟท็อปยังไงก็มา หลังเทคโนโลยียังคงกดให้ราคาต่ำต่อเนื่อง พ่วงด้วยแบตเตอรี่ที่เริ่มเห็นอนาคตสดใส หนุนกระทรวงพลังงานคลอดพีดีพีใหม่โดยเร็วหนุนลงทุนปี 2562

นายดุสิต เครืองาม ประธานอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทยและกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้การลงทุนผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์รูฟท็อป)ลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 1-3 แสนบาทเท่านั้นและมีความคุ้มทุนภายใน 6-7 ปีจึงถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงครัวเรือนแล้ว และทำให้เอกชนรายใหญ่หันมาผลิตเองใช้เอง(IPS)มากขึ้นดังนั้นหากกระทรวงพลังงานทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(PDP 2018) ปี 2561-80 ให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้และเกิดความชัดเจนนโยบายโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนก็เชื่อว่าจะทำให้การลงทุนติดตั้งมีมากขึ้นในปี 2562

“ การปฏิรูปพลังงานมุ่งเน้นการเปิดเสรีโซลาร์รูฟท็อปที่ให้ผลิตเองใช้เองเป็นหลักหากเหลือขายก็จะเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะเป็นประโยชน์กับประเทศเพราะราคารับซื้อสามารถกำหนดเท่ากับราคาขายส่งได้และอนาคตเชื่อว่าจะต่ำกว่าราคาขายปลีก ซึ่งกระทรวงฯเองมีแนวทางทำโซลาร์ภาคประชาชนที่จะมีการรับซื้อส่วนที่เหลือก็ถือว่าจะทำให้ประชาชนที่คิดจะติดตั้งไม่ต้องกังวลว่าถ้าไฟเหลือแล้วจะไหลเข้าระบบไม่ได้แต่หากระบบสายส่งรองรับไม่ได้มากก็สามารถจำกัดการรับซื้อช่วงแรกที่อาจกำหนดว่าปีละเท่าใด”นายดุสิตกล่าว

อย่างไรก็ตามกรณีก่อนหน้านี้รัฐมีแนวคิดที่จะเก็บค่าสำรองไฟฟ้า(Backup Rate)สำหรับโซลาร์รูฟท็อปล่าสุดนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานเองระบุชัดเจนว่าไม่มีนโยบายดังกล่าว ซึ่งจากการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานคาดว่าใน 20 ปีข้างหน้าไทยจะสามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟได้รวมประมาณ 1 หมื่นเมกะวัตต์

นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า การลงทุนผลิตไฟพลังงานแสงอาทิตย์เดิม 1 เมกะวัตต์ลงทุนสูงถึง 125 ล้านบาทแต่ขณะนี้เหลือ 25 ล้านบาท แบตเตอรี่อดีต1,000เหรียญฯต่อกิโลวัติชั่วโมงเหลือ 250-300 เหรียญฯขณะที่รอบแบตเตอรี่ก็ใช้ได้มากขึ้น หากราคาแบตเตอรี่อาจลดลงเหลือระดับ 100 เหรียญฯคาดว่าจะทำให้การผลิตไฟจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลำบากแน่นอน

“โซลาร์ฯเริ่มตอบโจทย์ความมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้นจากนวัตกรรมเรื่องแบตเตอรี่ที่คิดว่าจะยังไม่หยุดแค่นี้ทำให้วันนี้การติดตั้งมีมากโดยเป็น 2 รูปแบบหลักคือ 1.ลงทุนผลิตเองใช้เอง 2.มีบริษัทมาลงทุนติดตั้งให้แล้วจำหน่ายไฟให้ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่เริ่มทำมากขึ้นในเรื่องนี้และมีการแข่งขันสูงในการเสนอขายไฟที่ต่ำ”นายสุวิทย์กล่าว

นายสุเมธ สุทธภักติ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. กล่าวว่า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย ( LCOE) ของไฟฟ้าจากกังหันลมและเซลล์แสงอาทิตย์ในสหภาพยุโรปใกล้เคียงกันมากและอยู่ในระดับที่แข่งขันได้กับเชื้อเพลิงจากฟอสซิล แต่สำหรับไทยยอมรับว่าพลังงานลม LCOE ยังอยู่ระดับ 4บาทกว่าต่อหน่วยแต่หากมองความคุ้มค่าในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในระยะยาวสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมภายใต้แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)ที่ต้องปรับปรุงใหม่ให้สอดรับกับแผนดีพีพีฉบับใหม่จะคงสัดส่วนการผลิตไว้ที่ 3,002 เมกะวัตต์เมื่อสิ้นสุดปลายแผนปี 2580

" การมองเรื่อง Disruptive ต้องถามว่าเรามองไปไกลแค่ไหน สมาร์ทซิตี้จะเป็นทั้งเมืองหรือว่าจะเป็นเฉพาะที่ จะเป็น Energy 4.0 ฯลฯ วันนี้เราต้องยอมรับว่าโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เราเองยังไม่รองรับจึงเห็นว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าทั้งหมดรัฐต้องมุ่งสิ่งนี้ ส่วนเรื่องนวัตกรรมและ Disruptive เป็นเรื่องที่เอกชนจะเข้ามาทำ"นายสุเมธกล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0