โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดภาพเครื่องมือแพทย์ "probe" ไม่ได้ใช้กันบ่อยๆ ย้ำจากข่าวอย่ากลัวตรวจภายในสตรี

MATICHON ONLINE

อัพเดต 16 พ.ย. 2561 เวลา 08.03 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2561 เวลา 07.55 น.
เครื่องตรวจภายใน
เครื่องมือตรวจภายในที่เรียกว่า Probe (จากรพ.รัฐแห่งหนึ่ง)

กลายเป็นข่าวที่ถูกสังคมติดตามกันมาก กรณีนายแพทย์สูตินรีเวช จ.นครสวรรค์  ถูกสาวที่ไปตรวจภายในที่คลินิกของตนเอง ร้องเรียนว่า ระหว่างตรวจภายในได้ถูกข่มขืน จนเป็นคดีความ ขณะที่แพทย์ดังกล่าวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแต่ยังปฏิเสธได้ขอให้ข้อมูลชั้นศาล ขณะที่นายแพทย์ดังกล่าว ยังเป็นข้าราชการทำงานที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์  จนกระแสสังคมถามหาความเหมาะสม กระทั่งผู้อำนวยการรพ.ต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องจริยธรรมด้วยนั้น

ในอีกมุมหนึ่งก็เกิดคำถามขึ้นว่า จริงๆแล้วเครื่องมือแพทย์ในการตรวจภายใน มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศจริงหรือ และต้องสวมถุงยางอนามัยฆ่าเชื้อแทนน้ำยาฆ่าเชื้อจริงหรือไม่อย่างไร เนื่องจากแพทย์ท่านนี้ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน แต่เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ต้องสวมถุงยางอนามัยเท่านั้น

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา ในฐานะสูตินรีแพทย์   กล่าวว่า มีจริง เรียกว่า เครื่องอัลตราซาวด์หาโรคทางนรีเวช ซึ่งพัฒนามา 30 ปีแล้ว เป็นเครื่องที่สามารถดูพยาธิสภาพทางสูตินรีเวชกรรมได้ดีมาก ลักษณะของเครื่องมือก็มีความคล้ายกับอวัยวะเพศชาย แต่ไม่ได้เหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ และมีเพียงขนาดเดียว โดยมีหัวกลมๆ หากมีการใช้เครื่องมือนี้ขั้นแรกต้องใส่เจลที่บริหัวเครื่องมือ ใส่ถุงยางอนามัย และใส่เจลลงไปอีกครั้ง  กรณีใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อเมื่อมีการนำเครื่องมือไปตรวจกับอีกบุคคลหนึ่ง และที่ต้องใส่ถุงยางอนามัย ก็เพราะไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อได้ เนื่องจากลักษณะของเครื่องมือดังกล่าว ตรงหัวกลมๆ จะมีการปล่อยคลื่นวิทยุ   เรียกหัว Probe ซึ่งไม่สามารถเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ จะทำให้อุปกรณ์เสียหาย  จึงต้องใส่ถุงยางอนามัยแทน

พญ.ชัญวลี  กล่าวว่า    จากปัญหานี้ไม่อยากให้คนไข้รู้สึกกังวล หรือ กังวลการตรวจภายในจนไม่กล้ามารับการรักษา เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย มีสัดส่วนของแพทย์สูตินรีเวช เป็นผู้หญิงมากถึง ร้อยละ 80 ซึ่งผู้ป่วยสามารถเลือกขอรับบริการได้ หากไม่สะดวกใจ ขณะเดียวกันในการตรวจ จะต้องมีมาตรฐาน คือ มีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วยเสมอ เพราะถือเป็นพยานบุคคล และหากรู้สึกเจ็บขณะขาหยั่งก็สามารถแจ้งแพทย์ หรือผู้ช่วยที่อยู่ร่วมด้วยได้  เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช้จะเป็นกับทุกคน  และหากคนไข้มีโรค หรือ มีอาการปวดท้อง หรือต้องการตรวจอวัยวะภายใน หรือ ตรวจประจำปี  ตรวจหามะเร็งปากมดลูก ก็ไม่ควรนอนใจ หรือควรมารับการตรวจปกติเช่นเดิม

ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจภายใน ซึ่งมีลักษณะหัวกลมด้ามยาว ว่า เครื่องลักษณะดังกล่าวมีจริง เพียงแต่ไม่ได้ใช้กันบ่อยๆ ที่สำคัญมีข้อบ่งชี้ในการใช้ โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอนของการตรวจภายในก่อน จึงจะตรวจเครื่องนี้ ที่สำคัญเครื่องนี้ไม่ใช่เครื่องอัลตราซาวด์ แต่เป็นตัวรับสัญญาณ หรือที่เรียกว่า  Probe  ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะส่งสัญญาณไปยังจอภาพ ทำให้เห็นภายในช่องคลอด เพื่อตรวจหาเนื้องอก แต่ทั้งหมดทั้งปวง ต้องดำเนินการตามขั้นตอน และต้องตรวจวิธีเบื้องต้นก่อน ทั้งการตรวจภายนอก และตรวจภายในด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า ปากเป็ด เพื่อดูว่ามีหนอง มีความผิดปกติอะไร จากนั้นแพทย์จะใช้นิ้วมือ ซึ่งต้องสวมถุงมือ เข้าไปตรวจ มดลูก ร่วมกับคลำท้อง และหากสงสัยว่ามีเนื้องอก และตรวจวิธีข้างต้นไม่เจอ จึงจะใช้การตรวจจาก Probe แต่ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนต้องแจ้งให้คนไข้ทราบ และต้องให้ดูอุปกรณ์ด้วย

“ขณะนี้ตนกังวลมาก ในเรื่องของสตรีหลายคนเมื่อรับข่าวสารดังกล่าว ทำให้วิตกกังวลและไม่กล้าไปรับบริการตรวจภายใน ซึ่งถือว่าเสี่ยงอันตรายมาก เพราะถ้าเสี่ยงป่วยมะเร็งปากมดลูกก็จะหมดการรักษาได้อย่างรวดเร็ว จึงควรตรวจ ที่สำคัญกรณีนี้เรายังไม่รู้ข้อเท็จจริง และถึงแม้จริง ก็ไม่ใช่เจอบ่อยๆ เพราะถ้าตรวจตามสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน และต้องมีบุคคลาที่สาม อยู่ด้วย ก็ย่อมไว้วางใจได้ ยิ่งรพ.ใหญ่ๆ แล้ว ไม่อยากให้เคสนี้ทำให้ตื่นตกใจและไม่กล้ามาตรวจภายในกัน” ศ.นพ.ภิเศก กล่าว

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0