"ส้ม ชนากานต์" อดีตนางงาม ผู้คิดค้นสูตร "ขนมไทยใส่กัญชา" ยันอยากเป็นส่วนหนึ่งให้ฝรั่งรู้จักขนมไทย แค่ส่วนเล็กๆ กระตุ้นให้เห็นประโยชน์ มั่นใจเลือกทำแต่สิ่งดีๆ รักษาชื่อเสียง ไม่เอาชื่อเสียงมาแลก - ไม่ทำให้ขนมไทยต้องแปดเปื้อน ไม่ใช่หมอจึงตอบไม่ได้เบาหวาน-ความดันลดลงมั้ย
จับมือ "ดร.แก้มหอม ณ ลานช้าง" หรือ "แม่มดกัญชา" เปิดตัว "ขนมใส่กัญชา" โกอินเตอร์ ประเดิมขายอเมริกา งานนี้ "ส้ม ชนากานต์ ชัยศรี" อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1990 ซึ่งเป็นคนคิดค้นสูตรพิเศษดังกล่าว เผยว่าตัดสินใจเข้าร่วมโปรเจกต์ เพราะอยากให้คนต่างชาติ ได้รู้จักขนมไทยมากขึ้น
"คือเริ่มแรกต้องบอกว่าจิตอาสาแหละ นางงามก็ไปช่วยนั่นช่วยนี่แต่ก็ไม่ได้แบบว่าลงจนเต็มตัวตลอด แต่ลงเต็มตัวคือการเป็นเชฟที่เราจะนำขนม เราเป็นเชฟ เราเป็นนางงามไทย โด่งดังในประเทศไทยเราก็อยากให้คนต่างชาติได้รู้จักขนมไทยบ้าง เราก็เลยคิดสูตรให้เขา ทองเอก เราทำอยู่แล้วแหละ ถ้าต้องไปต่างประเทศ คุณหมอต้องเป็นคนบอกปริมาตรมาให้ต้องเท่านี้เท่านี้มันถึงจะผสมได้ มันมีส่วนที่ต้องผสม จริงๆ ไม่ได้ลงทุน แต่อันนี้เราทำนะ สูตรมันเป็นแบบนี้ แต่เราต้องทำให้แตกต่างอันนี้จะใส่เท่าไหร่ มันก็จะมีสูตรพิเศษขึ้นมา"
"ขนมไทยที่อยู่ที่นี่ขายได้อยู่แล้ว แต่อันนี้เขาไปเปิดต่างประเทศ ต่างประเทศกัญชาเขามีอยู่ในเบเกอรี่อยู่แล้ว ก็อยากจะเปิดในต่างประเทศเท่านั้นเอง ประเทศไทยผสมไม่ได้อยู่แล้ว แต่ขายได้ด้วยตัวมันเอง เพียงแต่ว่าพอไปต่างประเทศ เราไม่รู้ว่ากัญชาถูกยอมรับมาก พอมันอยู่ในขนมมันมีความดังได้เร็วขึ้น เราว่ามันอยู่ในมุมของต่างประเทศ เราไม่ได้อยู่ในมุมของประเทศไทยนะ แล้วส่วนผสมขนมของเราก็ไม่สามารถใส่กัญชาได้ที่เราทำในประเทศไทยมันไม่ได้เสรีเราหาซื้อไม่ได้อยู่แล้ว เราทำไปที่โน่นเพราะมันมีของที่นั่น"
"มันเป็นเฉพาะกลุ่ม สำหรับเรามันอาจจะไม่ได้เป็นทุกคนมันจะมีคนเฉพาะกลุ่ม กัญชาก็เหมือนกันที่เห็นก็เฉพาะกลุ่มที่ยอมรับนั่นแหละที่สนใจ เหมือนกับคนที่ทานช็อกโกแลตแล้วมีกัญชาก็เป็นกลุ่มหนึ่ง บางคนก็ยังไม่รู้เวลาเราไปต่างประเทศก็ต้องอ่านว่าอันนี้มีกัญชานะเพราะต้องเขียนข้อความถูกต้องของกฎหมาย ใครชอบก็ทานใครไม่ชอบก็ไม่ต้องทาน"
ยันไม่มอมเมา เปรียบเหมือนสีผสมอาหาร ที่ต้องใส่
"ถ้ามอมเมาหรือเปล่าต้องไปศึกษาก่อน คนที่พูดต้องศึกษาก่อนว่ากัญชาที่มอมเมาจะอยู่ในปริมาณที่เท่าไหร่ถึงเรียกว่ามอมเมา ของเราสกัดมาแล้ว มันก็เหมือนสีผสมอาหารที่มันมีอยู่แล้วต้องใส่ ถามว่ามอมเมามั้ยทุกอย่างถ้าเรามองว่ามอมเมา น้ำตาลใส่ลงไปก็ต้องมอมเมา อยู่ที่คนต้องเข้าใจให้จริงๆ ว่าครั้งนี้ใส่แล้วเป็นอะไร อย่างใส่น้ำตาลทุกคนก็จะบอกว่าน้ำตาลไม่ดีกินแล้วทำร้ายร่างกาย แต่เราก็ต้องใส่อยู่แต่ต้องรู้ว่าใส่เท่าไหร่ถึงลดปริมาณความหวานลงมา"
"สำหรับตัวเราจริงๆ ไม่กลัวคนเข้าใจเจตนาผิดนะ เพราะว่าเราไม่ได้บอกว่าเราเป็นคนทำขนมขาย อาหารที่นี่เราจะทำสูตรให้ไปขายในอเมริกา แต่เราไม่ได้เป็นคนทำ เหมือนเราเป็นอาจารย์ที่คิดค้นสูตร"
"ตอนนี้ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรกระทบ เราเป็นคนที่ไม่ได้ทำ ไม่รู้สึกคนจะเข้าใจผิดอะไร เรามั่นใจในสิ่งที่เราสะสมมา แล้วเราก็ไม่เคยทำอะไรที่มอมเมาคน ไม่เคยพูดอะไรโอเวอร์เกินจริง ลูกค้าที่รู้จักเราเวลาถามอะไรก็จะตอบตามความเป็นจริง อย่างถามว่าเชฟหวานมั้ย ขนมหวานก็ต้องหวานมันมีทั้งน้ำตาลแล้วก็แป้ง เบาหวานกินได้มั้ยกินได้แต่ต้องรู้ปริมาณที่กินไปด้วย เป็นเบาหวานจะกินได้กี่ชิ้น ต้องรู้ตัวเอง เชฟตอบไม่ได้ว่าจะกินได้เท่าไหร่"
"ส่วนใส่กัญชาเท่าไหร่ อันนี้ต้องเป็นคุณหมอแก้มหอมบอกเพราะเขาจะมีปริมาณของเขาอยู่ว่าหนึ่งชิ้นต้องใส่เท่าไหร่ รสชาติไม่เปลี่ยน เพราะมันเป็นเหมือนสีเป็นสารสกัด ไม่ใช่เหมือนใบกระเพรา"
ยังไม่เคยลงมือทำ เพราะต้องไปทำที่อเมริกาเท่านั้น
"ตัวเราเอง เรายังทำไม่ได้เลย เพราะที่นี่ยังทำไม่ได้ เราไม่มีวัตถุดิบที่จะทำ ถ้าจะทำต้องไปอเมริกา เรายังไม่เคยทำนี่เลยนะ ต้องไปทำที่อเมริกา"
ตอบไม่ได้เบาหวาน ความดันลดลง เพราะเป็นเรื่องการแพทย์
"เราไม่รู้ตรงนี้ ถ้าทางการแพทย์เราพูดไม่ได้จริงๆ ต้องเข้าใจนะ ถ้าเป็นเรื่องทางการแพทย์มันลดเท่าไหร่อะไรยังไง เพราะเราทำขนมในปริมาตรของเรา เราก็บอกเลยว่าความหวานของเรา 100 เปอร์เซ็นต์จะมี 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราวัดได้ ต้องบอกว่าได้แค่นี้ แต่ว่าจะลดเบาหวานได้ด้วยมั้ยนี่เราตอบไม่ได้"
ลั่นเลือกทำแต่สิ่งดีๆ ต้องรักษาชื่อเสียง
"บางกลุ่มเท่านั้น ลูกค้าของเราเขาเชื่อตัวเรา อยู่แล้วว่าถ้าเราทำเราเลือกทำแต่สิ่งที่ดี เพราะชื่อเสียงที่เราสะสมมา เราจะทำอะไรก็แล้วแต่เราจะต้องรักษาชื่อเสียง และทุกคนก็ยังรักเราอยู่ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เราคิดจะทำอะไรให้ลูกค้า ลูกค้าจะเชื่อได้ว่าเราจะทำในสิ่งที่ดี"
"ส่วนนำขนมใส่กัญชาจะทำให้ขนมก้าวไกลมั้ย เรายังบอกไม่ได้เลยตอนนี้ เราไม่ได้ลองทำ แต่ว่าวันหนึ่งมันมีเสรีขึ้นมา เราต้องทำเราก็ต้องวิจัยอันนั้นจะพูดได้"
"ส่วนที่คนแซวว่าใส่กัญชาแล้วจะยิ้มทั้งวันมั้ย มันคงเป็นคำที่ทำให้เราผ่อนคลายมั้ง ไม่รู้นะ มันต้องไปศึกษาข้อมูลว่ากัญชาช่วยอะไร ที่เขาบอกว่ายิ้มมันคือผ่อนคลายหรือเปล่า คิดว่านะ (ย้ำ) มันก็อยู่ที่ใจหรือเปล่า (ยิ้ม) เรื่องตรงนี้วันหนึ่งถ้าเกิดเป็นเสรีแล้วเราต้องทำอันนั้นเป็นการวิจัยแล้วเราต้องทำกัน ถึงเวลานั้นพี่จะตอบได้เต็มปากเต็มคำสมควรมั้ย ไม่สมควรเออใส่แล้วเป็นประโยชน์มั้ย อันนั้นค่อยว่ากัน"
มั่นใจไม่ได้เอาชื่อเสียงมาเสี่ยง ไม่ทำให้ขนมไทยต้องแปดเปื้อน
"ไม่นะ เราไม่ได้มองถึงขนาดนั้น แต่ทุกคนมองน่าจะเป็นแบบนั้น หนึ่งเพราะว่าที่เราทำไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย มันไปอยู่ต่างประเทศ แล้วมันก็เป็นสิ่งที่เราให้เขาไปแล้วเขาก็ไปทำกันเองซึ่งมันก็อยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งเมื่อไหร่มาอยู่เมืองไทยการันตีเลยว่าเชฟส้มทำ"
"เรื่องขนมไทยแปดเปื้อนเพราะกัญชา อันนี้เราก็ห้ามความคิดใครไม่ได้อันนี้เราพูดกลางๆ มันก็ต้องมีคนคิด คนไม่คิดก็ไม่คิด มันก็แล้วแต่เราบอกไม่ได้ว่าจะแปดเปื้อนมั้ย คนคิดว่าแปดเปื้อนเขาก็ต้องคิดคนไม่คิดเขาก็ไม่คิด ก็ต้องแล้วความคิดคน"
"จริงๆ แล้วต้องบอกว่าต้องบอกว่า หมอ เขาก็ต่อสู้ในประเทศไทย เรามองว่าถ้ามันเปิดกว้างที่ต่างประเทศ เราไม่ได้ถ้าเกิดขึ้นในประเทศไทย เราอาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่กระตุ้นให้มันแบบเห็นประโยชน์ขึ้นมา เหมือนเปิดตลาดของไทยมากขึ้น มันเป็นผลของประเทศ"
