กรณีการทุจริตถูกเปิดเผยออกมาหลากหลายกรณี โดยทั้งหมดเป็นการทุจริตเงินช่วยเหลือคนด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนจน เด็กนักเรียนยากไร้ หรือแม้แต่ชาวเขา โดยในทุกกรณีคนที่ทำการทุจริตเป็นคนในระบบราชการ
โกงเงินคนจน 104 ล้านบาท
สังกัด: ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ตอนนี้ทั่วประเทศ มีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งใน 49 จังหวัด ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้ว่ามีเบาะแสการทุจริต โดยมีงบประมาณที่ถูกทุจริตรวมกันทั้งสิ้น 104,440,000 บาท คิดเป็นกว่า 85% ของงบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งใน 49 จังหวัดดังกล่าว
โกงเงินชาวเขา 67 ล้านบาท
สังกัด: ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จ.เชียงใหม่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เมื่อวานนี้ ป.ป.ท. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จ.เชียงใหม่ หลังจากพบว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2560 สูงผิดปกติกว่า 67 ล้านบาท และจากการตรวจสอบพบว่ามีชาวเขาที่อยู่ในรายชื่อผู้รับเงินสงเคราะห์ ทั้งที่เป็นบุคคลกลุ่มชาติพันธุ์และสัญชาติไทย แต่กลับไม่ได้รับเงิน โดยทั้ง 15 เขตใน จ.เชียงใหม่ มีการเบิกเงินในปี 2560 ทั้งสิ้น 16 ครั้ง งบประมาณรวม 67.9 ล้านบาท
โกงเงินนักเรียนยากไร้ 118 ล้านบาท
สังกัด: กระทรวงศึกษาธิการ
นางรจนา สินที ข้าราชการซี 8 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำการทุจริตยักยอกเงินกองทุนเสมาพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2561 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 88 ล้านบาท นอกจากนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสำนักงานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังได้มีการตรวจสอบการโอนเงินในกองทุนเสมาฯ จากข้อมูลการบันทึกบัญชีในระบบ GFMIS พบว่ามีการโอนเงินกองทุนดังกล่าวในปี 2551 และ 2553 ในวงเงินรวมเกือบ 30 ล้านบาท ซึ่งพบว่ามีการโอนเงินออกจริง แต่กลับไม่พบปลายทางว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนไปที่ใด
ดังนั้นแล้วจึงเป็นไปได้ว่าจากทั้ง 2 กรณี กองทุนเสมาพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือนักเรียนหญิงที่ขาดทุนทรัพย์ อาจถูกทุจริตเป็นเงินรวมสูงกว่า 118 ล้านบาท
