กรณีเหตุระทึกขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ไล่ตะครุบ 4 นายพรานกลางป่าจนเกิดความชุลมุน กลุ่มนายพรานคว้าอีโต้ฟันเจ้าหน้าที่เลือดอาบ
แต่หนีไปได้ 3 คน และจับกุมตัวได้ 1 คน ทั้งนี้สามารถยึดของกลางซากเลียงผาหนัก 14 กก. ตะกวด 1 ตัว น้ำผึ้งป่า 1 กก. พร้อมอีโต้ที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 9 เม.ย.63 นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 เม.ย.63 ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เพื่อป้องกันการลักลอบจุดไฟเผาป่าและล่าสัตว์ป่าตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เมื่อออกลาดตระเวนไปถึงบริเวณกลางป่าหุบข่อย หมู่ 1 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้พบกลุ่มบุคคลเป็นชาย 4 คน เดินแบกถุงปุ๋ยพร้อมสะพายอาวุธปืนยาวออกมาจากป่า คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมกับตะโกนเรียกให้หยุด เพื่อขอตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย แต่ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตาม
ระหว่างนั้น 1 ใน 4 นายพราน ได้คว้ามีดอีโต้แล้วหันกลับมาฟันเข้าที่บริเวณแขนขวาของเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบเต็มแขน เจ้าหน้าที่ต้องหยุด ทำให้นายพรานโหดวิ่งหลบหนีไปได้ 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวเอาไว้ได้ 1 ราย ทราบชื่อผู้ต้องหาที่คุมตัวเอาไว้ได้ นายวศิน กากี อายุ 28 ปี ชาว อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นถุงปุ๋ย 1 ใบ
เมื่อเปิดออกมาดู พบซากเลียงผาน้ำหนัก 14 กม. ซากตะกวดจำนวน 1 ซาก น้ำผึ้งป่าหนัก 1 กม. มีดโต้จำนวน 1 เล่ม รวมทั้งหม้อสนามและอุปกรณ์เดินป่ารวม 6 รายการ
จากการสอบถามนายวศิน เบื้องต้นให้การอ้างว่า เพื่อนนายพรานที่หลบหนีไปได้ 3 รายนั้น ทราบแต่ชื่อเล่นประกอบด้วย 1.นายเริง ซึ่งเป็นคนใช้มีดโต้ฟันเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จำหน้านายเริงได้ 2.นายรุณ มีอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก และ 3.นายแดง มีอาวุธลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก ทั้งหมดเป็นชาว อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
สำหรับนายเริง ที่ฟันเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บและหลบหนีไปได้นั้น มีความผิดฐานฐานทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 296 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท และฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อดำเนินคดีต่อนายวศินกากี และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวนายเริง นายรุณ และนายแดง ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บต้องเย็บ 2 เข็ม คือ นายอัฐพล เฉียบแหลม พนักงานพิทักษ์ป่า เบื้องต้นนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มอบเงินจำนวน 5,000 บาท ให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีขบวนการลักลอบเผาป่าเพื่อหวังผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งการเผาป่านั้นทำให้ง่ายต่อการล่าสัตว์ป่าของพวกนายพรานที่ต้องการนำเอาเนื้อหรือเครื่องในของสัตว์ป่าไปขายให้กับร้านอาหาร หรือจำหน่ายให้กับนายทุน ที่สั่งออเดอร์เข้ามา
อย่างไรก็ตาม คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำของนายวศิน กากี ผู้ต้องหากับพวกอีก 3 คนที่หลบหนีไปได้นั้น มีความผิดฐานร่วมกัน กระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา 12 ฐานห้ามมิให้ผู้ใด ล่าสัตว์ป่าสงวนม (เลียงผา) ระวังโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี ปรับ ตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึง 1.5 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (ตะกวด) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท
มาตรา 17 ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสน บาท
มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 500 บาท
มาตรา 55 (5) เก็บหา นำออกไป หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย แก่ทรัพยากรธรรมชาติอื่น (น้ำผึ้ง) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 53 วรรคหนึ่ง ห้ามผู้ใด เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุก ไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
