หลังการควบคุมเพลิงที่เกิดขึ้นจากตู้คอนเทนเนอร์บนเรือ ที่จอดอยู่ท่า A 2 ท่าเรือแหลมฉบังเป็นที่เรียบร้อย ท่าเรือแหลมฉบังได้เปิดให้เรือที่ขนสินค้าที่จอดรออยู่ที่กลางทะเล สามารถทยอยเข้าเทียบท่าและนำสินค้าเข้าได้ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้นำเข้าส่งออกที่ต้องเข้ามาใช้บริการ
วันที่ 26 พ.ค.2562 เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ระบุว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้บนเรือ KMTC HONGKONG ณ ท่าเทียบเรือ บริษัท ไทยแหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด ได้ควบคุมสถานการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยมีตู้สินค้าที่ได้รับความเสียหายจากเปลวไฟจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 35 ตู้ แต่อาจมีตู้ที่ภายนอกไม่เสียหาย ได้รับผลกระทบจากความร้อนน้ำปนเปื้อนจากการดับเพลิงจนทำให้สินค้าภายในตู้สินค้าได้รับเสียหายเพิ่มเติมอีกได้
สำหรับน้ำปนเปื้อนจากการดับเพลิง จะถูกกักเก็บอยู่ในระวางเรือ และกรมเจ้าท่า ได้สั่งห้ามระบายน้ำปนเปื้อนออกจากเรือลงสู่ทะเล โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดไว้ และนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป และในการนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้มีการวางบูม รอบตัวเรือ เพื่อป้องกันกรณีที่อาจเกิดน้ำมันรั่วไหลทะเลอีกด้วย
ขณะที่นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า หลังจากควบคุมเพลิงได้เป็นที่เรียบร้อย ท่าเรือแหลมฉบังได้เปิดให้เรือที่ขนสินค้าที่จอดรออยู่ที่กลางทะเล สามารถทยอยเข้าเทียบท่าและนำสินค้าเข้าได้ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้นำเข้าส่งออกที่ต้องเข้ามาใช้บริการ แต่ในส่วนของท่าเรือที่ยังปิดทำการอยู่ คงเหลือเพียง ท่า A1 / A0 /A2 / B1 /B2 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ดังนั้นต้องหยุดให้บริการไว้ก่อน แต่ในแง่ของปริมาณการเข้าออกของสินค้าในท่าเรือดังกล่าวมีไม่มากนัก หรือคิดเป็น ไม่ถึงร้อยละ 5 ของปริมาณสินค้าในแหลมฉบังทั้งหมด ที่ถือว่าได้เปิดให้บริการแล้วร้อยละ 95
สำหรับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในชุมชนโดยรอบท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวานนี้ ช่วงเวลา 17.57 - 18.36 น. ได้แก่ 1) บริเวณชุมชนบ้านา 2) จุดรวมพล วัดบ้านนา และ3) บริเวณชุมชนแหลมฉบัง ตรวจไม่พบทั้งสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs)สารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) และก๊าซคลอรีน (CI2) ต่อมาเวลา 19.15 น. ได้เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณภายในท่าเรืออุตสาหกรรมแหลมฉบัง จำนวน 7 จุด ได้แก่ จุดท่าเทียบเรือ A1, A0, บริเวณป้อมยาม A0, B1-B2, B2-B3, B5 ตรวจไม่พบทั้งสารTotal VOCs สารformaldehyde และ Cl2 มีเพียงจุดท่าเทียบเรือB3-B4 ตรวจพบสารformaldehyde อยู่ในช่วง 0-0.01 ppm Cl2 อยู่ในช่วง 0-0.1 ppm ซึ่งไม่เกินค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลันระดับ1และตรวจไม่พบ Total VOCs (ค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลันระดับ 1 กำหนดสารformaldehyde ไม่เกิน 0.9 ppm และสาร Cl2 ไม่เกิน 0.5 ppm) เบื้องต้นได้ให้คำแนะนำให้ผู้ปฏิบัติงานภายในพื้นที่ให้ใส่หน้ากากป้องกันสารดังกล่าว หรือหากมีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์ทันที
กรมควบคุมมลพิษ จะร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชลบุรี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามตรวจสอบผลกระทบทางอากาศ และทางทะเล เป็นระยะ หากมีความคืบหน้ารายงานให้ทราบต่อไป
