ไม่เพียงความชื้นแฉะที่ชวนให้ไม่สบายตัวในฤดูฝน อีกสิ่งหนึ่งที่ตามมารบกวนใครหลายๆ คน นั่นคือการมาเยือนของแขกไม่ได้รับเชิญอย่างบรรดางูทั้งหลายที่ชวนให้อกสั่นขวัญหายได้ไม่ยาก แต่ถ้าเหล่าอสรพิษพวกนี้ทำให้คุณรู้สึกกังวลใจเอามากๆ ล่ะก็ คงต้องขอบอกว่าคุณนั้นโชคดีมากที่เกิดมาในยุคสมัยนี้ เพราะถ้าลองย้อนกลับไปเมื่อกว่า 60 ล้านปีก่อน งูที่คุณต้องเผชิญหน้า อาจจะเป็น ไททันโอโบอา (Titanoboa) งูยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นงูใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก
ไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส (Titanoboa cerrejonensis) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ไททันโอโบอา (Titanoboa) เป็นงูขนาดใหญ่ยักษ์ที่ไม่มีพิษ ในวงศ์ Boidae ซึ่งปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว และถูกค้นพบโดยคณะนักวิทยาศาสตร์สาขาบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ซึ่งเชื่อว่ามันมีรูปร่างลักษณะและมีพฤติกรรมคล้ายงูอนาคอนดาซึ่งปัจจุบันพบในป่าดิบชื้นทวีปอเมริกาใต้ โดยหากินในน้ำ ซึ่งอาหารได้แก่ จระเข้และปลาขนาดใหญ่
แม้จะมีนิสัยคล้ายคลึงกับงุสมัยใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ไททันโอโบอากลายที่ได้สนใจ นั่นคือความยาวโดยเฉลี่ยที่มากถึง 13.5 เมตร และอาจยาวได้ถึง 15 เมตร หนักถึง 2.6 ตัน
ปัจจุบันมีการค้นพบซากฟอสซิลของไททันโอโบอา ที่ส่วนใหญ่เป็นกระดูกสันหลังจำนวน 180 ชิ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของงูทั้งหมด 12 ตัว และจากการวิเคราะห์คำนวณด้วยเครื่องมือต่างๆ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ไททันโอโบอามีชีวิตอยู่ในยุคพาลีโอซีน (56-60 ล้านปีก่อน) ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบชื้น มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 30-34 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของป่าดิบชื้นในยุคราว 3-4 องศาเซลเซียส และสอดคล้องกับสภาพอากาศในยุคพาลีโอซีนที่คาดว่ามีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศปริมาณมาก