เปิดรายชื่อ 5 กลุ่มบิ๊กเนมซื้อซองประมูลดิวตี้ฟรี และพื้นที่เชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิ พบกลุ่มเซ็นทรัล-คิงเพาเวอร์-ไมเนอร์-บางกอกแอร์เวย์ส-เดอะมอลล์พร้อมลุย ด้านคณะกรรมการ PPP รับทราบตามที่คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายพิจารณาสรุปว่า การประมูลร้านค้าดิวตี้ฟรีไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ด้าน “นิตินัย” เดินหน้าประมูลต่อไป ยันสิ้นเดือน พ.ค.ได้ผู้ชนะแน่นอน หลังจากปิดซื้อซองวันที่ 18 เม.ย.
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการ PPP ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รับทราบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายที่มีอัยการสูงสุดเป็นประธาน เรื่องกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 (3) ท่าอากาศยาน การขนส่งทางอากาศหรือการเปิดประมูลร้านค้าปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรีของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ซึ่งสรุปว่าไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ทอท.ได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า สาเหตุที่ต้องเปิดประมูลดิวตี้ฟรีคู่ขนานไปกับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการว่า ไม่ขัดกับ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุน เนื่องจากการให้บริการของดิวตี้ฟรีไม่มีความจำเป็นต่อการขึ้นหรือลงของเครื่องบิน ซึ่งที่ผ่านมา ทอท.ได้เคยรายงานว่า ที่สนามบินจังหวัดเชียงราย แม้จะไม่มีดิวตี้ฟรี เครื่องบินทุกสายการบินก็ยังขึ้นลงได้ตามปกติ “เรื่องนี้ ทอท.ไม่ได้คิดเอง เพราะศาลปกครองเคยวินิจฉัยเรื่องนี้มาแล้วว่า ดิวตี้ฟรีไม่มีความจำเป็นต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน และการให้บริการของดิวตี้ฟรีไม่ใช่บริการสาธารณะ ตรงนี้คือประเด็นที่สำคัญ ผ่านมาผมได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า การให้บริการของดิวตี้ฟรีไม่ขัด พ.ร.บ.ร่วมทุน แต่ก็มีความพยายามทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งในช่วง เวลานั้น ผมให้สัมภาษณ์ไปด้วยจิตบริสุทธิ์ แต่ก็มีข้อขัดแย้ง จึงเป็นที่มาของการพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งสุดท้ายก็ได้พิจารณาว่าไม่เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุน”
สำหรับความคืบหน้าการประมูลดิวตี้ฟรีนั้น วันที่ 18 เม.ย.เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้เอกชนซื้อซองหรือเอกสารการประมูลร้านค้าดิวตี้ฟรีในสัญญาที่ 1 คือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นจะเปิดชี้แจงรายละเอียดโครงการวันที่ 22 เม.ย. กำหนดดูสถานที่ประกอบกิจการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 23 เม.ย.62 ก่อนจะเปิดให้เอกชนยื่นซองหรือยื่นข้อเสนอวันที่ 22 พ.ค.62 เวลา 9.00-11.00 น. และจะประกาศผู้ชนะการประมูลวันที่ 31 พ.ค.62 ส่วนสัญญาที่ 2 คือท่าอากาศยานภูมิภาค ประกอบด้วยท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เปิดซื้อซองไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา “หลังจากนี้ ทอท.จะเดินหน้าประมูลตามปกติ เนื่องจากขณะนี้งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินมีความคืบหน้า
ต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ผู้ก่อสร้างและการออกแบบภายในต้องวางระบบไฟฟ้า ระบบท่อต่างๆ ให้เสร็จทั้งหมด จึงเป็นที่มาของการทำงานคู่ขนาน เพื่อให้งานก่อสร้างเกิดความต่อเนื่องไม่สะดุด หลังจากคณะกรรมการ PPP ให้ความเห็นชอบเรื่องนี้ คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณา ครม.ในวันที่ 24 เม.ย.นี้”
ขณะเดียวกัน นายนิตินัยยังได้เปิดเผยรายชื่อผู้ซื้อซองโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) สนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ หลังการปิดขายซองเมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 เวลา 16.00 น. โดยพบว่ามีผู้ซื้อซองดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ 5 ราย ได้แก่ (1) บจก.สรรพสินค้าเซ็นทรัล (2) บจก. คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี (3) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (4) บมจ.การบินกรุงเทพ (5) บมจ.รอยัลออคิด เชอราตัน (ประเทศไทย) ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้ซื้อซอง 4 ราย ได้แก่ (1) บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (2) บจก.คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ (3) บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (4) บจก.เดอะมอลล์กรุ๊ป
ทั้งนี้ ผู้ที่จะยื่นซองจะต้องบอกรายชื่อพันธมิตรในกิจการร่วมค้า Joint Venture ที่จะร่วมประมูลกับ ทอท. ก่อนไม่เกินวันที่ 8 พ.ค. โดย ทอท. ได้เชิญ สคร. และ สตง. เข้าร่วมสังเกตการณ์ทั้งในวันชี้แจงคุณสมบัติและวันเปิดซอง เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ “ส่วนกลุ่มเอกชนต่างชาติทำไมไม่มีรายชื่อมาซื้อซองนั้น มองว่าในขั้นตอนซื้อซองจะต้องเป็นเอกชนคนไทย 100% ส่วนจะไปจับคู่จับกลุ่มกับใคร วันที่ 8 พ.ค.นี้ เอกชนต้องมาแจ้งกับ ทอท. ว่าในกลุ่มมีใครเข้ามาถือหุ้นร่วมประมูลบ้าง ยืนยันว่า ทอท.ไม่สามารถทำงานได้ช้ากว่านี้แล้ว เพราะขั้นตอนการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ หากเอกชนที่ชนะประมูลเข้าพื้นที่ช้ากว่าเดือน มิ.ย. จะมีปัญหาในเรื่องของการตกแต่งสถานที่ได้”.
