เปิดชีวิต "ชูษี เชิญยิ้ม" หลังมรสุมข่าวฉาวและอนาคตในวงการตลก

"ชูษี เชิญยิ้ม" ได้เผยถึงสาเหตุที่ห่างหายไปจากวงการบันเทิงกับ 2 พิธีกรสาวสุดแซ่บ “ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ” กับ “อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์” แห่งรายการ “บางกอกซิตี้ เลขที่ 36” 

“ก็เขาไม่จ้าง เลยต้องไปขายแหนม (หัวเราะ) ไม่หรอก ตอนนี้จะไปสู้เด็กก็ไม่ไหว สมองมัน…พฤษภานี้ก็ 60 แล้วนะ” ตลกรุ่นใหญ่ ปล่อยมุก ก่อนที่จะบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นในวงการนี้ให้ 2 พิธีกรและผู้ชมฟังว่า

“ผมเริ่มต้นเป็นนักร้องมาก่อน เป็นนักร้องตั้งแต่อายุ 13 จาก จ.ลพบุรี ก็เข้ากรุงเทพฯ อยู่วงลูกทุ่ง สมัยก่อนยังไม่มีสตริง มีแต่ชาโดว์ อย่างวง ดิอิมพอสสิเบิ้ลส์ หรือ พีเอ็มไฟว์ แล้วก็จะมีลูกทุ่งประกบ แนวนี้เขาเรียก สตริงคอมโบ้ กับลูกทุ่ง แล้วก็ลูกกรุง ทีนี้เป็นนักร้องผู้ชายมันเกิดยาก ลำบาก เลยหันมาเล่นตลก ผมอยู่วงดนตรีของสายัณฑ์ สัญญา ตลกเขาก็เล่นกันอยู่ อย่างพี่จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก  ผมก็ไปเล่นกลองรับมุกให้ ร้องเพลงด้วยตีกลองด้วย เพราะว่าตอนนั้นอยากเป็นมือกลองด้วย ร้องเพลงด้วย ทีนี้ตลกวงสายัณฑ์เขาขาด พอเขาขาด ผมก็เล่นแทน เพราะเล่นกันเป็นปี ทุกมุกอยู่ในหัวผมหมดแล้ว แต่ขึ้นไปก็สั่น พ่อเจริญชัยแซว "แหม อยู่ข้างล่างอย่างกับนกขุนทอง พอขึ้นสังเวียนละสุนัขไม่รับประทาน"”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> “ชูษี เชิญยิ้ม” เปิดใจเคลียร์ปมตัดขาดลูกสาว

แม้จะมีจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้สวยงามตั้งแต่ต้น แต่ด้วยพรสวรรค์บวกความมุ่งมั่น และโอกาสที่ได้มา ก็ค่อยๆ สร้างชื่อให้กับตลกหนุ่มทีละน้อย
“ผมมาเป็นที่รู้จักตอนมาอยู่กับพี่โน้ต มาอยู่เชิญยิ้มนี่ละ คำว่า “ชูษี” นี่มาจากพี่เขาเลย จากหพี่โน้ต พี่เป็ด พี่สีหนุ่ม เราไปอยู่เชิญยิ้ม ตอนพี่ศรายุทธ สาวยิ้มโดนยิงเสียชีวิต ตลกก็ขาดๆ มา ผมก็ไปเสียบแก เพราะตอนนั้นเขาหาคนที่จะมาเล่นคู่สีหนุ่ม ร้องเพลงได้คล้ายๆ กัน พี่โน้ตก็นึกขึ้นมาได้ ไอ้ศักดิ์ศรี (ศรีเมืองลพ) คือผม เป็นชื่อที่ใช้ตอนเป็นนักร้อง เอาไอ้ศักดิ์ศรีมา ทีนี้พี่โน้ตบอกว่า ศักิ์ศรีเป็นชื่อที่ดุ ตอนนั้นคณะพี่เด๋อจะมี เด๋อ ดู๋ ดี๋ ดอน แดง แล้วก็มีป๋าต็อก ทีนี้คณะเชิญยิ้มต้องมีชูศรีเว้ย ก็กลายมาเป็นผมนี่แหละ”

ในช่วงวงการตลกรุ่งเรือง ทุกสิ่งทุกอย่างที่นักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงพึงมีพึงได้ “ชูษี” ก็ได้รับมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือว่าเงินทอง

“ตอนนั้นเป็นยุคตลกรุ่งเรือง วิ่งงานตั้งแต่ 3 ทุ่มยันตี 5 หลวงพ่อบิณฑบาตแล้ว พี่โน้ตเคยให้ผมคืนนึง หมื่นสอง เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ต้องกัดตัวเองว่าฝันไปหรือเปล่า” ชูษี รำลึก ก่อนจะเล่าถึงอีกสิ่งหนึ่งที่เขาได้มาในความเป็นตลกคนดังก็คือ “ผู้หญิง”
“เคยมีผู้หญิงซื้อบ้านให้ เงินสดเลย แต่เราไม่เอา เขาก็บอก อยากได้รถอะไรไปออกเลย ให้ล้านนึง สมัยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่เราไม่เอา เพราะเรารักผู้หญิงคนนี้ เราไม่อยากเลิกกับเขา คนนี้เขาเป็นแฟนคลับอยู่ต่างประเทศ ที่จะดูงานเราผ่านวิดีโอ แต่ตอนนี้ให้ 300 ก็เอาแล้ว (หัวเราะ)”

แต่ก็เฉกเช่นสรรพสิ่งที่มีขึ้นย่อมมีลง วงการตลกที่เคยรุ่งเรืองก็มีอันต้องตกต่ำลง นักแสดงตลกเช่นเขาก็ย่อมได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

 “คืองานการเราก็มีเรื่อยๆ อยู่แล้ว โดยมากจะรับละครมากกว่า ได้อย่างนั้นทุกวัน แต่มันเป็นเบี้ยหัวแตก แล้วตอนนั้นเราก็ยังหนุ่มอยู่ ความคิดมันยัง "เฮ้ย พรุ่งนี้ก็ได้ ใช้เลย" เลยไม่เคยมีเก็บ ดีว่าผมมีเงินก้อนหนึ่งซื้อบ้านให้แม่อยู่เท่านั้นเอง มีซื้อสร้อย ซื้อเข็มขัดนาคให้แม่  คือเรารักแม่ เราอดไม่เป็นไร แม่อย่าอด” ชูษี เล่าก่อนจะฝากทิ้งท้ายไปถึงผู้ชมที่เป็นคนรุ่นใหม่ถึงความไม่แน่นอนของชีวิต

“มันก็เป็นอุทาหรณ์ ศิลปินหลายๆ คน อย่างตลกนี่จะเป็นใครก็แล้วแต่ ดังๆ มา แม้กระทั่งที่เสียชีวิต ก็เหมือนกับชูษีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นดารา นักร้อง หรือว่านักมวย ก้าาวพลาด มี 30 ล้านก็หมดได้  อย่างเรายังมีอาชีพสำรองคือทำแหนมขาย เราไม่มีหนี้สิน แค่หมดไป ไม่ขาดทุน เพราะเราไม่ได้ลงทุนอะไร เราคิดแค่ว่าขาดทุนกำไร เมื่อก่อนอาจจะได้พันนึง ตอนนี้อาจจะได้ 300 ก็เท่านั้นเอง”

ติดตามรายการ "บางกอกซิตี้ เลขที่ 36" ทุกวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 09.20 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36  รับชมย้อนหลังทาง http://pptv36.tv/rkG และ LINETV
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> บุกกองรายการก่อนบ่ายคลายเครียด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> “นก วนิดา” ควงลูกสาว “น้องบูม” เปิดใจ ขอโทษ “พ่อชูษี ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> “โย่ง เชิญยิ้ม” ดาวตลก ผู้นำเพลงฉ่อยกลับมาสู่กระแสสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> ข้อคิด ชีวิต คนดัง Friday Special

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> เปิดตัวลูกชาย “เหลือเฟือ มกจ๊ก” พร้อมเผยเส้นทางตลกที่ไม่ได้มีแต่เสียงหัวเราะ