โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดชีวิตยายสุดรันทด ล้มป่วย-ไม่มีเงินสักบาท ต้องขอมาม่าวัดเลี้ยงหลาน 6 คน

Khaosod

อัพเดต 28 ม.ค. 2563 เวลา 11.52 น. • เผยแพร่ 28 ม.ค. 2563 เวลา 11.52 น.
132132321

เปิดชีวิต ยายสุดรันทด ล้มป่วย-ไม่มีเงินสักบาท ต้องขอมาม่าวัดเลี้ยงหลาน 6 คน

ยายสุดรันทด / จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Poramet Misomphop เผยชีวิตของคุณยายกาญจนา พิพัฒ วัย 67 ปี ที่ต้องแบกภาระเลี้ยงหลาน 6 คน และน้องชายที่ป่วยจิตเวชอีก 1 คน ภายในห้องเช่าเล็กๆ ในกทม. โดยประทังชีวิตด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียง 1 ห่อ กินกันถึง 7 คน วันไหนไม่มีเงินซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็เดินไปขอข้าววัด

หลังจากที่ได้ลงเรื่องราวของยายไปโลกโซเชียลได้มีผู้ใจบุญหลั่งไหลเข้ามาบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก สร้างความปลาบปลื้ม ให้กับยายและครอบครัวจนต้องขอหยุดรับบริจาคเเต่เพียงแค่นี้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวข่าวสดออนไลน์ได้เดินทางมาที่ชุมชนวัดช่างเหล็ก แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. ซึ่งเป็นบ้านเช่าของยายกาญจนา โดยบ้านเช่ามีลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าสองชั้นกั้นเป็นห้องแบ่งให้เช่า โดยห้องของยายกาญจนา มีเนื้อที่ประมาณ 14 ตารางเมตร ค่อนข้างแออัด มีผู้พักอาศัยกันทั้งหมด 8 คน มียายกาญจนา น้องชายของยายที่ป่วยจิตเวช และหลานชายหญิงอีก 6 คน

ยายกาญจนา กล่าวว่า ตนมีลูกทั้งหมด 6 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน ที่เหลือก็ไปหางาน เพื่อดูแลครอบครัวตัวเอง ส่วนหลานทั้ง 6 คนที่อยู่ในความดูแลของยายก็เป็นหลานทั้งหมด ซึ่งบางคนพ่อก็เสียชีวิต ยายจึงต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู โดยยายจะรับจ้างทำความสะอาด แล้วแต่จะมีคนจ้าง จะได้เงินครั้งละ 300 บาทต่อวัน อาทิตย์หนึ่งจะมีคนจ้างซัก 2-3 ครั้ง หรือบางอาทิตย์ ก็ไม่มีใครจ้างเลยก็มี

ส่วนค่าใช้จ่ายก็จะมีค่าห้อง ค่านักเรียนหลานไปโรงเรียน คนละ 20 บาท ค่ายารักษาน้องชายที่ป่วยเป็นจิตเวช ค่าห้องเดือนละ 2,000 บาท ตัวยายเองก็มีความดันโลหิตสูงและน้ำในหูไม่เท่ากัน

ยายกาญจนา กล่าวต่อว่า ในวันที่แย่ที่เลยก็คือวันที่ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ต้องไปขอมาม่าจากหลวงตาที่วัดมาต้มให้หลานกินแล้วใส่ผักกาดขาวใส่ไข่ เคยคิดอยากจะตายจากโลกนี้ไปและจะเอาหลานไปด้วย แต่พระท่านก็ได้เตือนสติยายว่า ดูหมามันสิ แม้แต่หมามันยังรักลูกแล้วเราเป็นคน เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นยายจึงมีกำลังใจสู้ต่อ

“ยายอยากขอบคุณผู้ใจบุญที่บริจาคเงินมาให้ทุกบาททุกสลึง บุญคุณชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด ยายไปดูมาแล้วดีใจตื่นเต้นมากไม่เคยมีเงินขนาดนี้ ยายพอแล้วไม่เอาแล้ว ให้ไปช่วยคนที่แย่กว่าเรา ส่วนเงินที่ได้ยายจะแบ่งไปช่วยคนที่ลำบากเหมือนยาย ไว้ให้หลานเป็นไปโรงเรียนและไว้กินใช้ภายในบ้าน เพราะยายก็ไม่รู้จะอยู่ได้นานเท่าไหร่เนื่องเป็นโรคน้ำในหู พอยืนๆอยู่หน้ามืดขึ้นมาก็จะล้มยายถึงทำงานหนักไม่ได้”

ด้านนายปรเมศร์ มีสมภพ อายุ 36 ปี รับราชการเจ้าหน้าที่ธุรการสำนักงานปลัดบัญชีทหารอากาศ ผู้เปิดเผยเรื่องราวอันรันทดของคุณยายกาญจนา กล่าวว่า มีอาชีพรับราชการ แต่พอว่างจากงานประจำก็จะทำงานด้านจิตอาสา โดยได้รับทราบเรื่องราวของคุณยายมาจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนและเมื่อช่วงวันที่ 11 ม.ค.จึงลงพื้นตรวจสอบขอเท็จจริงให้ทราบแน่ชัดก่อนว่าเรื่องราวดังกล่าว เป็นความจริง

หลังได้ข้อมูลว่าคุณยายมีชีวิตที่ลำบากจริงจึงได้ตัดสินใจ ลงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของยายผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวเพียงหนึ่งวันคุณยายก็ได้รับเงินบริจาคเกือบ 400,000 บาทต้นคุณยายปลื้มน้ำตาไหล และบอกกับขอหยุดรับบริจาคแค่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีคนที่ลำบากกว่ายายอีกเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้ลบข้อมูลเลขที่บัญชีของคุณยายออกจากเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องที่ไม่ได้ลงที่อยู่ของคุณยาย เพราะเกรงว่าอาจจะมีมิจฉาชีพหรือผู้ที่ไม่หวังดีเข้าไปหาประโยชน์จากเรื่องราวของคุณยาย โดยตนขอยืนยันว่าไม่เคยได้รับผลประโยชน์จากการบริจาคเงินในครั้งนี้ การบริจาคจะบริจาคผ่านบัญชีของคุณยายกาญจนาแต่เพียงผู้เดียว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0