เมื่อวันที่18 ก.พ. กรณีนายดนุสรณ์ (สงวนนามสกุล) พนักงานห้างดังแห่งหนึ่ง บุกเข้าไปในสถานเสริมความงาม ดิไอคอน คลินิกเวชกรรม ตั้งอยู่ชั้น 4 ห้างเซ็นจูรี่ มูฟวี่ พลาซ่า ย่านพญาไท กรุงเทพฯ ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย อายุ 28 ปี พนักงานสาวที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาที่เพิ่งจดทะเบียนหย่ากันเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา จนเสียชีวิต ทั้งที่อยู่กินกันมาถึง 10 ปี ด้วยปมเหตุที่ฝ่ายชายระแคะระคายว่าฝ่ายหญิงปันใจให้ชายคนใหม่ตั้งแต่ก่อนจะเลิกกัน แต่ที่ฝ่ายชายยอมหย่าด้วยเพราะต้องการจะรู้ความจริงหลังจากให้อิสระฝ่ายหญิงแล้ว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ไปค้นห้องพักของนายดนุสรณ์ ย่านราชปรารภ กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าตัวหลบหนีไปแล้ว พบเพียงจดหมายที่เขียนด้วยลายมือจำนวน 4 แผ่น แผ่นแรกเขียนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า "ฝากตำรวจคับผม ไม่ต้องตามผม ผมสัญญา ผมจะไม่ยิงใครนอกจากตัวเองคับ แต่ผมจะขอไปเอาอีกคน(ชู้) ผมขอโทษนะคับ ผมสัญญาอีก 2 วัน ผมปิดชีวิตตัวเอง ผมฝากดูแม่ผมด้วยนะครับ (ผมขอเวลา)
แผ่นที่สอง ระบุว่า กราบขอโทษทุกคนด้วยครับ ผมรักเขามากจริงๆ สิ่งที่ผมทำผมรู้ว่ามันผิดและการที่ผมตัดสินใจและทำไปต้องยิงคนอื่นด้วยผมมีเหตุผล เขามายุ่งเรื่องของผมอยากให้ผมเลิกกะเมีย ผมขอโทษด้วยนะพี่ๆน้าๆ และพี่ตำรวจ ผมขอโทษคับผม แม่ผมขอโทษนะ เจเหนื่อยแล้ว เจรุกไม่ไหวแล้ว เจท้อ ขอบคุณแม่มากนะที่ไม่เคยโกรธเจเลยทุกๆ เรื่อง
แผ่นที่สาม ระบุว่า แบ่งให้มันด้วย ลูกเจแม่ไม่ต้องห่วงมันตายายมันเลี้ยง เขาบอกเขามีปัญญาเลี้ยง แต่แม่ก็อย่าทิ้งมัน ถ้ามันลูกเจ ของที่ห้องให้วรรณมันนะ รถมอไซค์ขายเอาเงินใช้กันนะ รักแม่ แม่เลี้ยงมาดีแล้วไม่ต้องโทษด้วยนะรู้มั๊ย ทุกอย่างเจมันกำเนิดเอง เจสัญญากับมันเจจะเลิกอีก เจขอตายกะมัน รักแม่มากนะ
แผ่นที่สี่ ระบุว่า ดูแลตัวเองด้วยนะกินข้าวเยอะๆ รักเป็นห่วง หาคนดีๆ สักคนเข้ามาอยู่ด้วยนะ เจทำไปเจรักเขา