การแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการพิเศษที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา อีเลียด คิปโชเก้ นักวิ่งจากเคนย่า ทำให้วงการกรีฑาทั่วโลกฮือฮาหลังวิ่งมาราธอนระยะ 42 กม. จบลงก่อนเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งไม่เคยมีมนุษย์คนไหนทำได้มาก่อน และทำให้ใครต่อใครอยากรู้ว่าเขาทำได้ยังไง
สถิติโลกของ คิปโชเก้ ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาหมาดๆ เป็นผลจากความพยายามพากเพียรฝึกซ้อมวิ่งตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยมี แพทริค ซาง อดีตนักวิ่งเหรียญเงิน โอลิมปิก 1992 เป็นติวเตอร์ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าในวงการวิ่งนั้น มีชาวเคนย่าประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มากมาย โดยเฉพาะเหรียญทองชิงแชมป์โลกที่ไปได้มาเป็นกอบเป็นกำ อาทิ เอเซเกล เคมบอย, วิเวียน ชีรูโยต์, โมเสส คิปตานุย ฯลฯ
หลายคนน่าจะอยากรู้ว่าเหตุใดนักวิ่งชาวเคนย่า ถึงประสบความสำเร็จและได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีนักวิ่งดีกรี "ปอดเหล็ก" ได้เหรียญทองมากมาย แน่นอนว่าพากเพียร ขยัน อย่างเดียวไม่พอ ยังมีปัจจัยอื่นๆช่วยส่งเสริม เช่น
1. สรีระ - มีการค้นพบว่านักวิ่งจากกลุ่มประเทศแอฟริกัน ทั้งเคนย่า, เอธิโอเปีย, แอฟริกาใต้ ฯลฯ มีมัดกล้ามเนื้อที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งส่งผลให้นักวิ่งจากประเทศเหล่านี้สามารถวิ่งด้วยความเร็วได้นานกว่ากลุ่มนักวิ่งจากประเทศอื่นที่มีมัดกล้ามเนื้อมากกว่า และวิ่งเร็วในระยะสั้นเท่านั้น
2. อาหาร - วิถีการกินของชาวเคนย่า สอดคล้องกับการเป็นนักวิ่งอาชีพแบบเซอร์ไพรส์ เพราะสิ่งที่พวกเขากินส่วนใหญ่ประกอบด้วย ไขมัน 13%, โปรตีน 10% และ คาร์โบไฮเดรต 77% อาทิ ผัก, ผลไม้, น้ำตาลไม่ฟอกสี, ข้าว ส่วนประเทศแถบเดียวกันก็มีปริมาณการกินที่ไม่ต่างกันมาก
3. ภูมิประเทศ - ประเทศเคนย่านั้นอยู่เหนือความสูงจากน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร ปกติแล้วประเทศไหนที่อยู่เหนือทะเลมากๆ ประชาชนมักจะได้เปรียบในการบริหารระบบทางเดินหายใจกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้มีความอึด ทน และสามารถทำกิจกรรมได้นานกว่าคนทั่วไป
4. วิถีชีวิต - เพราะระบบขนส่งสาธารณะไม่เอื้อต่อการเดินทางไปยังที่ต่างๆ โดยเฉพาะเด็กๆที่ต้องไปโรงเรียน ทำให้ประชากรส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้วิธีเดิน หรือไม่ก็วิ่ง ซึ่งนั่นก็เป็นปัจจัยที่เอื้อให้พวกเขามีกล้ามเนื้อขาและนิ้วเท้าที่แข็งแรงอย่างไม่รู้ตัวเมื่อต้องเดินและวิ่งในทุกๆวัน
