โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดกล่องดำเที่ยวบินมรณะไลอ้อนแอร์ ซอฟท์แวร์ทำพิษ-ยื้อจนถึงนาทีสุดท้าย

Manager Online

อัพเดต 20 มี.ค. 2562 เวลา 13.11 น. • เผยแพร่ 20 มี.ค. 2562 เวลา 13.11 น. • MGR Online

รอยเตอร์ – แหล่งข่าววงในอ้างว่า เนื้อหาจากอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน ได้เปิดเผยให้รู้ว่า นักบินของ “ไลอ้อน แอร์” ลำที่โหม่งทะเลชวาปลายปีที่แล้ว พยายามเปิดคู่มือเพื่อแก้ปัญหาเครื่องปักหัวลงแต่ไม่ทันการณ์

เจ้าหน้าที่สอบสวนกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของไลอ้อน แอร์ตกลงในทะเลชวาและทำให้คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้ง 189 คนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กำลังเร่งตรวจสอบประเด็นที่คอมพิวเตอร์สั่งให้เครื่องมุดลงหลังได้รับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่บกพร่อง รวมถึงประเด็นที่ว่า นักบินได้รับการฝึกอบรมเพียงพอหรือไม่ในการรับมือกรณีฉุกเฉินอย่างเหมาะสม รวมถึงประเด็นอื่นๆ

ในวันพุธ (20 มี.ค.) นับเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยเนื้อหาจากอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินของไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินเจที610 ต่อสาธารณชน โดยแหล่งข่าวทั้งสามคนที่เปิดเผยข้อมูลนี้ต่างไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวตน ขณะที่โฆษกของสายการบินแดนอิเหนาระบุเพียงว่า ได้มอบข้อมูลทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่สอบสวน และงดแสดงความคิดเห็น

ทั้งนี้ รายงานเบื้องต้นที่เคยเผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วระบุว่า กัปตันหรือนักบินที่ 1 เป็นผู้ควบคุมเครื่องบินตอนที่ 737 แม็กซ์ ซึ่งถือเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ที่เพิ่งใช้งานไม่นาน ขึ้นจากสนามบินจาการ์ตา และนักบินที่ 2 รับผิดชอบการสื่อสารวิทยุ

หลังจากทะยานขึ้นเพียง 2 นาที นักบินที่ 2 แจ้งศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศว่า มีปัญหาในการควบคุมเครื่องบิน และกำลังพยายามรักษาระดับความสูงที่ 5,000 ฟุต

แม้นักบินที่ 2 ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับปัญหา แต่แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่า เนื้อหาตอนหนึ่งจากอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินมีการเอ่ยถึงความเร็วของเครื่องบิน และแหล่งข่าวคนที่ 2 เสริมว่า ตัวบ่งชี้แสดงปัญหาบนจอแสดงผลของกัปตัน แต่ไม่แสดงบนจอของนักบินที่ 2 กัปตันจึงขอให้นักบินที่ 2 ดูคู่มืออ้างอิงด่วนที่มีรายการที่ต้องตรวจสอบ 3 ข้อกรณีที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ ช่วง 9 นาทีหลังจากนั้น ระบบเตือนว่า เครื่องบินสูญเสียแรงยกและกดจมูกเครื่องบินลงโดยอัตโนมัติ กัปตันพยายามบังคับให้เครื่องเชิดขึ้น แต่ระบบคอมพิวเตอร์ได้บังคับให้เครื่องดิ่งลงต่อ

แหล่งข่าวคนที่ 3 สำทับว่า ดูเหมือนนักบินทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า ระบบปรับตั้งส่วนควบคุมบังคับให้เครื่องมุดลง เพราะจากข้อมูลกล่องดำ ทั้งคู่พูดถึงความเร็วและระดับความสูงของเครื่องบินเท่านั้น

โบอิ้งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้ เนื่องจากการสอบสวนยังคงดำเนินอยู่ แต่ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า ได้จัดทำเอกสารขั้นตอนการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวแจกจ่ายแก่สายการบินต่างๆ

ขณะเดียวกัน รายงานเบื้องต้นยังระบุว่า นักบินอีกชุดของไลอ้อน แอร์ที่บินด้วยเครื่องบินลำเดียวกันหนึ่งคืนก่อนเกิดโศกนาฏกรรม พบปัญหาเหมือนกันแต่แก้ไขได้โดยอ้างอิงจากรายการที่ต้องตรวจสอบ 3 ข้อ และไม่ได้ให้ข้อมูลปัญหาที่พบกับนักบินชุดต่อมา

แหล่งข่าวทั้งสามคนเสริมว่า นักบินเที่ยวบินเจที610 มีท่าทีสงบเกือบตลอดการบิน จนกระทั่งก่อนที่เครื่องจะตก กัปตันขอให้นักบินที่ 2 ควบคุมเครื่อง ส่วนตัวเองรีบหาวิธีแก้ปัญหาในคู่มือการบิน

ก่อนที่เครื่องจะหายไปจากจอเรดาร์ประมาณ 1 นาที กัปตันขอให้ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศเคลียร์เครื่องบินลำอื่นๆ ที่ระดับต่ำกว่า 3,000 ฟุต และที่ระดับความสูง 5,000 ฟุต ซึ่งได้รับอนุมัติ

ขณะที่กัปตันพยายามค้นหาวิธีแก้ไขจากคู่มือแต่ล้มเหลว นักบินที่ 2 ก็ไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้เช่นเดียวกัน และในเสี้ยวนาทีสุดท้าย กัปตันซึ่งเป็นคนอินเดียนิ่งเงียบ ส่วนนักบินที่ 2 ชาวอินโดนีเซีย อุทานว่า “อัลเลาะห์ อักบาร์” หรืออัลเลาะห์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นวลีที่ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ใช้เมื่อตื่นเต้น ตกใจ สรรเสริญ หรือเศร้าโศก จากนั้นเครื่องบินก็พุ่งลงในทะเลชวา นอกชายฝั่งอินโดนีเซีย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 มี.ค.) บีอีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของฝรั่งเศส ได้เปิดเผยว่า อุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินเอธิโอเปียที่ตกเมื่อต้นเดือนนี้และทำให้คนบนเครื่อง 157 คนเสียชีวิตทั้งหมด แสดงลักษณะที่คล้ายกันอย่างชัดเจนกับโศกนาฏกรรมของไลอ้อน แอร์ ซึ่งยังไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัด แต่รายงานเบื้องต้นระบุถึงระบบป้องกันการสูญเสียแรงยก (Maneuvering Characteristics Augmentation System หรือเอ็มแคส) ที่โบอิ้งพัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับ 737 แม็กซ์โดยเฉพาะ รวมถึงเซ็นเซอร์ที่บกพร่อง และการซ่อมบำรุงเครื่องบินและการฝึกอบรมนักบินของไลอ้อนแอร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0