เมื่อพูดถึงบล็อกเกอร์ขาวหมวย ยิ้มสวย เปี่ยมไปด้วยพลังความสดใส.. ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง ICEPADIE (ไอซ์พาดี้) บิวตี้บล็อกเกอร์ทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสไตล์การทำบล็อกของเธอ รวมไปถึงการแต่งตัวที่เน้นสีสันคัลเลอร์ฟูลสุดๆ วันนี้เธอแวะมาเยี่ยมทีมงาน LINE TODAY พร้อม แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ที่จะเพิ่มพลังชีวิตให้กับทุกคน
พอเริ่มทำบล็อกของตัวเอง อยู่มาวันนึงก็ได้ลองใส่ตุ้มหูเล่นๆ รู้สึกเหมือนเราได้พบกับคู่แท้ปาฏิหาริย์ รู้สึกมีความสุขกับมันมาก ก็ใส่มาเรื่อยๆ จนกลายเป็นตัวตนของเราไปแล้ว จะรู้สึกไม่มั่นใจเลยเวลาที่ไม่มีตุ้มหู
บอกเล่าความเป็นมาของ “ICEPADIE”
“ชื่อไอซ์ - ภาวิดา ภาควิวรรธ ค่ะ จุดเริ่มต้นของการมาทำบล็อก ไอซ์ว่าเป็นความบังเอิญมากกว่า เพราะจริงๆ แล้วคือไม่ได้ตั้งใจจะทำบล็อกแบบ หนึ่ง-สอง-สาม (ดีดนิ้ว) ชั้นจะทำบล็อก แค่เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่รักสวยรักงาม เริ่มต้นเลยคืออยากเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์ แต่ได้มีโอกาสมาทำนิตยสาร เป็นนักเขียนสายความงาม (Beauty Writer) ทำมาเป็นปี ก็ย้ายจากนิตยสารไปทำสายแอปพลิเคชั่นที่แนะนำเกี่ยวกับความสวยความงาม แล้วก็เริ่มมีคนยุให้เปิดบล็อก ก็ลองทำดู เหมือนเป็นจังหวะชีวิต เราไม่ได้วางแผนแบบเป็นขั้นเป็นตอนมาก่อน”
“ตอนเปิดบล็อกใหม่ๆ ก็จะเป็นการแบ่งปันเคล็ดลับต่างๆ แต่ถ้าจะเป็นคลิปที่ทำอย่างจริงจังเลยคือคลิปแต่งหน้าตามชมพู่อารยา ลุคงานหมั้น เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง น่าจะทำให้คนเริ่มรู้จักเรามากขึ้นจากคลิปนั้น แต่ถ้าถามว่าคลิปไหนที่ปัง ชนิดที่แบบตื่นเช้ามาแล้ว วู้ววว.. ชีวิตของเราเปลี่ยนไป อันนั้นยังไม่มี อย่างบางคนอัพคลิปก่อนนอนตื่นเช้ามาได้เป็นล้านวิว แต่เรายังไม่เคย”
ความแตกต่างของชีวิตคอลัมนิสต์ กับ ชีวิตบล็อกเกอร์
“ต่างมาก! (เน้นเสียง) เหมือนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนเป็นนักเขียน ไอซ์เองก็เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ไปทำนิตยสารระดับอินเตอร์ที่คาแรคเตอร์ของนิตยสารค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ มีความจริงจัง เป็นทางการ หรูหรา เราก็ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ให้ดูน่าเชื่อถือ เวลาออกไปข้างนอก เช่นไปตามอิเวนท์ หรือสัมภาษณ์ใคร เราไม่ได้ไปในนามของตัวเราเอง แต่เหมือนเราเป็นตัวแทนของหนังสือนั้นด้วย เหมือนเราแบกหนังสือไปกับหน้าของเราด้วย ต้องแต่งตัวดีๆ ต้องมีสูท มีเสื้อผ้าที่สมศักดิ์ศรีของนิตยสาร ซึ่งพอมาเป็นบล็อกเกอร์เราเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ แต่การทำงานนิตยสารก็ได้ให้อะไรกับไอซ์หลายอย่างมาก เช่นในเรื่องของการเขียน วิธีทำงาน การค้นคว้าหาข้อมูล การหาไอเดียต่างๆ มันสั่งสมเป็นประสบการณ์ที่ดี เรียกได้ว่าไอซ์มีวันนี้ได้ก็เพราะงานนิตยสารค่ะ”
“และอีกหนึ่งสิ่งที่ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อมาทำบล็อก นั่นก็คือรอบการทำงานค่ะ ตอนเป็นคอลัมนิสต์เราจะมีช่วงปิดต้นฉบับเดือนละครั้ง วันปิดต้นฉบับ ทุกคนจะรวมตัวกันอยู่ที่ออฟฟิศ แต่พอมาทำบล็อกมันกลายเป็นต้องใช้พลังทุกวัน (หัวเราะ) ไม่มีใครคอยเตือน เปิดโอกาสให้เราทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ไอซ์เป็นคนชอบเร่ง ไม่มีใครมาเร่งเรา เราก็เร่งตัวเอง เพราะบางทีมีอะไรใหม่ๆ ถ้าเราไม่ได้กดแชร์เดี๋ยวนี้ก็เปล่าประโยชน์ที่จะแชร์ทีหลังแล้วนะ ทุกอย่างเร็วขึ้นมาก มองเผินๆ เหมือนการทำบล็อกสบายกว่าทำงานออฟฟิศ แต่ไอซ์มองว่าอันนี้หนักขึ้น เพราะเราเป็นนายตัวเอง ต้องรู้จักควบคุมตัวเอง ใครที่มีบล็อกจะเข้าใจว่าเรื่องความไว สำคัญมาก”
แชร์วิธีหาแรงบันดาลใจในการทำงาน
“ในเรื่องของการทำงาน ไอซ์ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตประจำวันของไอซ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ไม่ต้องไปหาไกลที่ไหนเลย ไอเดียมันวิ่งเข้ามาหาเราเอง ตอนนี้ไอซ์มีไอเดียจะทำคลิปประมาณ 30 คลิป ที่ยังไม่ได้ทำ”
แล้ววิธีจัดการกับปัญหาต่างๆ ล่ะ
“ความเครียด ใครๆ ก็มีกันอยู่แล้วเนอะ ยิ่งไอซ์เป็นคนหุนหันพลันแล่น โมโหง่าย แบบ ปี๊ดด.. (เสียงสูง) ..ง่ายมาก แต่ก็หายเร็วมากด้วยเช่นกัน คนที่สนิทกันจะรู้จุดนี้ เขาจะรับมือได้ค่ะ วิธีจัดการกับความเครียดคือ ไอซ์จะไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเครียดนาน พอรู้สึกเครียดก็จะถามตัวเองว่าเราเครียดเรื่องอะไร ปัญหาคืออะไร เราแก้ได้มั้ย ทำอะไรกับมันได้บ้าง ถ้าเราทำได้ เรารีบแก้เดี๋ยวนั้นเลย แต่ถ้าคิดแล้วว่าแก้เองไม่ได้ ก็จะบอกตัวเองว่า ‘ช่างมันเถอะ’ แรกๆ เป็นเรื่องยาก แต่พอเราปล่อยวางได้บ่อยๆ เราก็จะเครียดน้อยลง”
คิดว่านอกจากสีสันที่สดใส อะไรที่สื่อถึงความเป็น ICEPADIE ได้ดีที่สุด?
“(ยิ้มหวาน) ตุ้มหู เลยค่ะ ตอนเป็นคอลัมนิสต์ยังไม่ได้ลองเล่นกับตุ้มหูใหญ่ๆ สักเท่าไหร่ พอเปลี่ยนงานแล้วอยู่มาวันนึงได้ลองใส่เล่นๆ ก็รู้สึกเหมือนเราได้พบกับคู่แท้ปาฏิหาริย์ รู้สึกมีความสุขกับมันมาก ก็ใส่มาเรื่อยๆ และพอมีคอมเมนต์จากคนที่มาดูคลิปของเราเขาพูดถึงตุ้มหูของเรา ถ้าคลิปไหนไม่ได้ใส่ตุ้มหูก็จะโดนทักแล้วว่า ‘ตุ้มหูไปไหนคะ’ / ‘ไม่ใส่ตุ้มหูแล้วเหรอคะ’ / ‘ตุ้มหูใหญ่จังเลย’ พอจับจุดนี้ได้ก็เลยขยี้ ใส่ตุ้มหูทุกครั้งที่อัดคลิป จนมีแม่ค้าตุ้มหูส่งของมาให้เยอะมาก ก็เลยยิ่งมั่นใจว่านี่แหละใช่ความเป็นตัวเราที่คนดูก็รู้สึกสัมผัสได้”
ก้าวใหม่ของ ICEPADIE กับการทำธุรกิจ
“ธุรกิจของไอซ์ก็มาจากความบังเอิญอีกนั่นแหละ บังเอิญไปเจอที่ แล้วแฟนเราอยากทำสตูดิโอ เราเองก็เป็นสายยุยง เชียร์ให้เค้าทำ เราลงหุ้นด้วย ตอนนั้นสตูดิโอก็อยากทำ บล็อกก็อยากทำ แล้วก็อยากไปเรียนต่อ จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เรียกว่าก้าวออกมาจาก comfort zone เพราะอยากไปเรียนต่อ แต่พ่อแม่ซื้อตัวไว้ … Oh My God! คือหวงลูกสาว ไม่อยากให้ไปไกล บอกว่าถ้าไปเรียนต่อก็อดเงินก้อนนี้สำหรับทำสตูดิโอนะ การทำสตูดิโอนั้น ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เราก็เลยรับเงินก้อนนี้มาโดยไม่ขัดขืน แล้วก็ทำธุรกิจสตูดิโอกับบล็อกเป็นงานประจำของเราไป”
วางแผนสำหรับก้าวต่อไปไว้อย่างไร
“ตอบแบบ ใจใจเลยคือไม่มีอีกแหละ ไม่ได้วางแผนอนาคตไว้ ขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิต และโอกาสที่เข้ามามากกว่า มีธีมของตัวเองคืออยากมีความสุขในทุกๆ วัน มีความเชื่อว่าถ้าเรารู้สึกว่ามันยังไปได้อยู่ แล้วเราก็ทำในสิ่งที่เราแฮปปี้ มันจะนำพาเราไปยังสิ่งที่ดีๆ อยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด ทุกๆ ก้าว เราทำในสิ่งที่เราอยากทำ เชื่อในตัวเอง เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่าต่อไปอนาคตก็จะใช้ท่านี้แหละ ทำสิ่งที่มีความสุข แล้วสิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้น”
มีอะไรที่อยากทำอีกบ้าง นอกจากบล็อก และธุรกิจสตูดิโอ
“อยากรับงานแสดง เราจบนิเทศฯ มา ก็คิดถึงการแสดงเหมือนกัน ยิ่งตอนนี้เราเป็นตัวของตัวเองมาก ก็อยากจะสวมบทบาทเป็นคนอื่นบ้าง ล่าสุดรับงานโฆษณาสินค้าชนิดหนึ่ง ตอนแรกดีใจมาก นึกว่าจะมีคาแรคเตอร์แปลกๆ ให้ลองทำ ปรากฏว่าก็เล่นเป็นตัวเองอีก เลยยังคาใจเหมือนมันยังไม่ฟิน อยากเล่นเป็นคนอื่นบ้าง”
ช่วง #ฝากร้าน
“ติดตามไอซ์ได้ทุกช่องทางมีเดีย ‘ICEPADIE’ นะคะ ฝากสตูดิโอด้วยชื่อ ‘เจริญ สตูดิโอ’ นะคะ มาใช้บริการได้ที่เอกมัย ซอย 6 หรือถ้าต้องการทีมโปรดักชั่น ถ่ายโฆษณาจริงจังก็เชิญมาที่ ‘เลอ โฟโตกราฟ’ (Le Photographe) เอกมัย ซอย 6 เช่นกัน แล้วอย่าลืมตามไปดูคลิปเปิดกรุขุมทรัพย์ตุ้มหูของ ICEPADIE ด้วยนะคะ”
ติดตามคลิปสนุกๆ ของ ICEPADIE ได้ทางแชนแนล YouTube ICEPADIE, เฟซบุคแฟนเพจ PADIE และอินสตาแกรม @icepadie
บทความโดย Double T. วีดีโอโดย @mint.nisara และ th.hanabi
