โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เบื้องหลังนาทีล็อก'โจรอมนุษย์' ไม่ทันตั้งตัว-ไร้ท่าทีต่อสู้

เดลินิวส์

อัพเดต 22 ม.ค. 2563 เวลา 17.08 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2563 เวลา 08.20 น. • Dailynews
เบื้องหลังนาทีล็อก'โจรอมนุษย์' ไม่ทันตั้งตัว-ไร้ท่าทีต่อสู้
เผยเบื้องหลังชุด “หนุมาน” กองปราบฯ อาวุธครบมือจู่โจมจับ “โจรอมนุษย์” หลังตามประกบ 1 สัปดาห์เต็ม ก่อนบุกล็อกตัวขณะขับรถไปทำงาน ไม่ทันได้ตั้งตัว ไร้ท่าทีขัดขืนต่อสู้ ก่อนสารภาพสิ้น แถมพบกระสุน 9 มม. ขนาดเดียวกับที่ก่อเหตุตกอยู่ในรถ 

จากกรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการจับกุมตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สิงห์บุรี "โจรอมนุษย์" ชิงทอง ฆ่า 3 ศพ โดยมั่นใจว่าจับไม่ผิดตัว  ตอนนี้ได้หลักฐานทั้งหมดเกือบจะครบแล้ว โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุจริง รู้สึกสำนึกผิด และคิดว่าหนีไม่พ้นก่อนให้ความร่วมมือกับตำรวจ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น.

สำหรับเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ มีรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองปราบฯ ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนแกะรอยผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบฯ ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าคนร้ายที่น่าจะก่อเหตุดังกล่าวน่าจะเป็น นายประสิทธิชัย หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนใน.สิงห์บุรี 

จึงได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้เวลาสืบสวนประมาณ 7 วัน ก็พบว่ามีหลักฐานหลายอย่าง โดยเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเกี่ยวพันกับ นายประสิทธิชัย พร้อมกับหลักฐานอื่นๆ เชื่อมโยงว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ประสานให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลอาญา กระทั่งศาลออกหมายจับให้เมื่อค่ำวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อทราบตัวผู้ก่อเหตุแน่ชัดประกอบกับศาลออกหมายจับแล้ว พล.ต.ต.จิรภพ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิจักษ์ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สนับสนุน บก.ป. หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน” กองปราบฯ ตามแกะรอยจนทราบที่กบดานของผู้ต้องหารายนี้ 

จนทราบว่ามีบ้านพักอยู่ในพื้นที่จ.ลพบุรี และจะมีการขับรถเดินทางไปทำการสอนหนังสือที่โรงเรียนในจ.สิงห์บุรี ในช่วงเช้าของวันนี้ (22 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สนับสนุน บก.ป. จึงจัดกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเห็นนายประสิทธิชัย กำลังขับรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นซีรีย์ 5 สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กณ 493 กทม. จึงได้ขับรถสะกดรอยติดตามนายประสิทธิชัย ไปจนถึงบริเวณทางหลวงสาย 311 ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จึงแสดงตัวพร้อมอาวุธหนักครบมือบุกจู่โจมชาร์จจับกุม โดยระหว่างที่เข้าจับกุมนั้นนายประสิทธิชัย ไม่มีท่าทีขัดขืนหรือต่อสู้เจ้าหน้าที่เพราะตั้งตัวไม่ติด 

ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในรถไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่พบกระสุนปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับที่ก่อเหตุอยู่ภายในรถจำนวนหลายนัด จึงได้ทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรีเพื่อทำการสอบสวนและให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเพราะตนเองรู้สึกเบื่อกับชีวิต ต้องการหาความท้าทาย ตื่นเต้น ชีวิตจะได้มีสีสัน นอกจากนี้ตนยังรู้ตัวดีว่าหลังก่อเหตุจะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้อยู่แล้ว 

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นปืนยี่ห้อ ซีแซต รุ่น เอสพี 01 ซึ่งเป็นปืนของพ่อที่เป็นอดีตตำรวจ หลังจากก่อเหตุเสร็จก็นำไปคืนพ่อเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง รุ่นปี 2008 เป็นรถจักรยานยนต์ของพ่อตา ซึ่งตนเองก็ยืมมาเพื่อใช้ในการก่อเหตุด้วยเช่นกัน และขณะนี้รถคันดังกล่าวตนได้นำไปคืนให้กับพ่อตาแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การในบางส่วน และจะทำการเค้นสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

โดย พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของการแกะรอยหาเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือช่วยแจ้งเบาะแสผู้ต้องสงสัยต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ทางกองปราบเองก็ได้เปิดกว้างและให้ความสำคัญอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทางกองปราบมีการเปิดช่องทางติดต่อกับประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคดีนี้เพียงเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงคดีอื่นๆ อีกด้วย

ล่าสุด พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบช.ก. เดินทางลงพื้นที่จ.ลพบุรี และจ.สิงห์บุรี เพื่อเข้าควบคุมการสืบสวนขยายผลและหาหลักฐานและพยานเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนอีกทางหนึ่งด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0