เคยได้ยินคำนี้ไหม..‘ยิ่งบ่น ก็ยิ่งเบื่อ’
การพร่ำบ่นว่า ‘เบื่อ’ ‘เบื่อ’ ‘เบื่อ’ ‘เบื่อ’ ‘เบื่อ’ ก็เหมือนการบอกตัวเองย้ำ ๆ ว่าต้อง ‘เบื่อ’ นั่นแหละ
‘ไม่มีอุปสรรคใด ๆ ในใจของเรา
ไม่มีกำแพงขวางกั้นจิตวิญญาณของเรา
ไม่มีสิ่งใดกีดขวางการเติบโตของเรา
นอกจากตัวเราเอง’
-โรนัลด์ เรแกน-
ที่เราบ่น ๆ กันว่าเบื่องานเป็นเพราะอะไร เคยค้นหาคำตอบอย่างจริง ๆ จัง ๆ กันไหม หรือได้แค่บ่นว่างานเดิม ๆ หัวหน้าขี้บ่น เพื่อนร่วมงานขี้อิจฉา คุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่อง ไม่มีความก้าวหน้า
ปัญหาเหล่านี้ไม่มีทางหนีพ้น ต่อให้ลาออกไปองค์กรใหม่ แป๊บเดียวก็วนเข้าลูปเดิม ๆ สู้มาแก้ที่ต้นเหตุของการเบื่องานไปเลยดีกว่า นอกจากจะหายขาดแล้วยังไม่กลับมาเบื่อซ้ำอีกต่างหาก
1. หมดใจหรือเบื่องานกันแน่
สิ่งแรกที่ต้องทำคือตอบตัวเองให้ได้ว่าที่เบื่อ ๆ อยู่เนี่ย เป็นที่งาน เป็นที่เรา หรือเป็นที่อะไรกันแน่
วิธีนี้ช่วยทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุดขึ้น บางทีงานอาจจะไม่ได้น่าเบื่ออย่างคิด แต่เป็นเราต่างหากที่หมดใจ หมดไฟกับสิ่งที่ทำอยู่
เพราะการหมดใจกับการเบื่องาน วิธีแก้ปัญหามันต่างกัน ถ้ามัวแต่แก้ผิด ๆ แก้ไม่ตรงจุด ก็ยิ่งพาลให้เบื่อหนักเข้าไปใหญ่
ทางที่ดีคือต้องหาให้เจอว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกแย่ คิดให้ออกแบบไม่เข้าข้างตัวเองดูสักครั้งว่าแท้จริงแล้วปัญหาความเบื่อเกิดจากอะไร เนื้องานมันมีปัญหาจริง ๆ หรือเราเองที่เป็นปัญหา
คำตอบคืออะไรก็แก้ที่ตรงนั้น ถ้าคำตอบคือตัวเราเองหมดไฟ ความเครียดจากการทำงาน ชีวิตส่วนตัว ก็ค่อย ๆ แก้กันไปทีละอย่าง แต่ถ้าคำตอบคือ ‘งาน’ ทีนี้ก็ค่อยปรับ ค่อยเปลี่ยน หาหนทางแก้ไขให้มันตรงจุด
2. งานจะไม่น่าเบื่อ ถ้าเราทำให้มันไม่น่าเบื่อ
งานทุกงานมีทั้งความน่าเบื่อและความสนุก โดยเฉพาะงานรูทีนที่ต้องทำงานแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวัน ไม่มีทางเติบโต ไม่มีทางก้าวหน้า งานประเภทนี้มีความน่าเบื่อสูงกว่างานประเภทอื่น แต่ถามว่างานรูทีน ไม่มีทางเติบโต ไม่มีทางก้าวหน้าจริงไหม คำตอบคือไม่จริง เพราะงานทุกงาน มีทางก้าวหน้าด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองเห็นโอกาสเหล่านั้นหรือไม่ต่างหาก
คนเราถ้าเลือกจะมองแต่ปัญหาก็ไม่มีทางเห็นอย่างอื่นนอกจากปัญหา แต่ถ้าหากคิดที่จะพัฒนาตัวเอง มองหาโอกาสให้ตัวเองตลอดเวลา ยังไงก็ต้องมีโอกาสเข้ามาแน่นอน แม้จะเป็นงานรูทีน งานน่าเบื่อแค่ไหนก็มีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้น
3. ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เป็นของเราเอง
ถ้างานมันน่าเบื่อ ไม่มีความท้าทาย ทำไมไม่ลองตั้งเป้าหมายที่เป็นของเราเองดูล่ะ
อย่างงานรูทีนที่ต้องทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ เช่น ทำข้อมูลที่เหมือนเดิมทุกวัน ก็อปปี้ข้อมูล ฯลฯ งานแบบนี้ทำไปเรื่อย ๆ ก็คงน่าเบื่อ และดูเหมือนไม่มีผลงาน แต่ถ้าเราสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ขึ้นมา เช่น จากที่เคยทำข้อมูล 5 หน้าในเวลา 3 ชั่วโมง ลองทำให้เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้น จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับ ๆ เป้าหมายให้ท้าทายขึ้นเรื่อย ๆ
วิธีนี้ทำให้เราเบื่องานน้อยลง เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลาและเป้าหมายที่วางไว้ ที่สำคัญใคร ๆ อาจมองว่างานลักษณะนี้ไม่มีทางก้าวหน้า ไม่มีผลงาน ไม่มีทางโต แต่ไม่ใช่เลย..งานทุกงานที่ความท้าทายเหมือนกันหมด อยู่ที่เราเห็นคุณค่าของมันแค่ไหน อย่าลืมว่าการตั้งเป้าหมายและท้าทายมันไปเรื่อย ๆ นี่แหละ เค้าเรียกว่า ‘ผลงาน’
4. เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่ทำงาน อาจไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน
ทางออกของการเบื่องานน่าจะมีอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นคือการลาออก
การลาออกไม่ใช่การหนีปัญหาซะทุกครั้งไป ถ้าเป็นการลาออกที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจน เพื่ออนาคต เพื่ออะไรที่ดีกว่า แต่ถ้าลาออกเพราะเบื่องาน คุณไม่มีทางหนีพ้นเด็ดขาด เพราะไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน ลูปเดิม ๆ ก็วนเวียนเข้ามาอยู่ดี
แต่ถ้าการลาออกไม่ใช่คำตอบ เบื่อแต่งาน อย่างอื่นในที่ทำงานไม่ได้น่าเบื่อไปด้วย เพื่อนร่วมงานดี หัวหน้างานดี สวัสดิการบริษัทก็ดีอีก การลาออกอาจไม่คำตอบเสมอไป แต่ทางออกที่ดีที่สุดอาจเป็นแค่การเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนมุมมองในการทำงานเสียใหม่ก็ได้
5. สนุกกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่ ‘งาน’
ชีวิตคนเราไม่ได้น่าเบื่อตลอดไปหรอก มันต้องสักเรื่อง และสักวันที่ทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกสนุกไปกับมันได้
ลองหาอะไรที่นอกเหนือจากงานทำดูบ้าง จะเป็นงานอดิเรก ความชอบ ทักษะอะไรก็แล้วแต่ ลองถามตัวเองดูอีกสักครั้ง ของแบบนี้บางทีมันก็อยู่ที่จังหวะ ไม่แน่ว่าตอนกำลังเบื่อ ๆ งานเนี่ยแหละ ที่อยู่ดี ๆ เราก็คิดอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมาได้
ที่สำคัญคนเราไม่จำเป็นต้องทำงานที่ทำอยู่เพียงอย่างเดียว อาจมีพาร์ทไทม์ งานฝิ่นอะไรเพิ่มเติมเข้ามาเป็นสีสันให้กับชีวิตก็ได้ แค่หาทางปลดปล่อย หามุมมองใหม่ ๆ ไม่แน่ว่าพอเราไปทุ่มเทกับอย่างอื่นจนลืมโฟกัสที่ความเบื่อ งานก็อาจจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
อย่าลืมว่าบางทีปัญหาก็ไม่ได้มีไว้แก้ บางปัญหา เราก็แค่ต้องทำใจ แล้วยอมรับมัน..โรคเบื่องานก็เช่นกัน
