การบริหารจัดการ ถือเป็นหัวใจหลักของการ แก้ไขปัญหาขยะพลาสติก ที่มนุษย์เริ่มต้นสร้างขึ้นจากนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต แต่เมื่อขาดการบริหารจัดการที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ก็กลับกลายมาเป็นภัยร้ายทำลายความสุขสบายของมนุษย์เองในที่สุด รวมทั้งก่อให้เกิดภัยร้ายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลก โดยเฉพาะสัตว?น้ำสัตว์ทะเลที่กลายเป็นเหยื่อของขยะพลาสติก
“วิคเตอร์ เซียห์” ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า เนื่องในวันทะเลโลก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เนสท์เล่ จึงได้จัดกิจกรรมรวมพลังอาสาสมัครเนสท์เล่รักษ์โลกกว่า 200 คน ร่วมกันเก็บขยะและทำความสะอาดชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ภายใต้โครงการ Nestlé CARES และยังร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) นำทีมจิตอาสาพนักงานเนสท์เล่ที่สุราษฏ์ธานี และหน่วยอื่นๆ ในภาคใต้ เก็บขยะที่ชายหาดจังหวัดสุราษฎ์ธานี พร้อมปล่อยลูกปูม้ากว่า 3 ตัว ที่เกาะเสร็จ เพื่อสร้างสมดุลให้กลับคืนสู่ระบบนิเวศ
ขยะพลาสติกบางส่วน ได้นำกลับไปใช้ประโยชน์ ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ “ยางยืดเปลี่ยนชีวิต” ของมหาวิทยาลัยบูรพาที่นำหนังยางที่ใช้แล้ว ไปทำเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย เพื่อช่วยบำบัดโรคให้แก่เด็ก ผู้ป่วย ผู้พิการ และผู้สูงอายุ รวมทั้งโครงการหมอนหลอดเพื่อสุขภาพ (Healthy Pillow) ป้องกันแผลกดทับ โดยนำหลอดพลาสติกไปทำเป็นไส้หมอน ร่วมกับกลุ่มแม่บ้าน อสม. อาสาสมัครแสนสุขร่วมใจ เพื่อมอบให้ผู้ป่วยติดเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ
สิ่งสำคัญคือ การให้ความรู้เพื่อส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมกันใช้พลาสติก และจัดการขยะพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ และที่ผ่านมา เนสท์เล่ประกาศที่จะผลักดันให้บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ทั่วโลก สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด 100% ภายในปี 2025 โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 ได้เริ่มลดการใช้หลอดพลาสติก พร้อมส่งเสริมการใช้พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ในอัตราที่สูงขึ้น และเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนเพื่อให้สามารถรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น
