'เทือก' เผย ชอบเพลง 'หนักแผ่นดิน' แนะฟังเอาไว้ เตือนสติคนไทย นึกถึงบ้านเมือง

‘สุเทพ’ ปลื้ม เพลงหนักแผ่นดิน ชี้ เตือนสติคน ให้คำนึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ต่อประเทศชาติ

สุเทพ หนักแผ่นดิน – เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ จ.นนทบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)พร้อม นายทองใบ เสริฐสอน หรือ (สจ.เล็ก) ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 4 หมายเลข 3 พรรคพลังประชาชาติไทย เจ้าของสโลแกนผลงานที่ผ่านมา (อุ้มหมาไปหาหมอ) นายสำราญ รอดเพชร และ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นำทีมงานประมาณ 30 คน ลงพื้นที่ทำกิจกรรมคารวะแผ่นดินเป็นวันที่ 84 โดยจังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดที่ 74 รวมทั้งแนะนำผู้สมัครของพรรคในเขตต่างๆ

โดยจุดแรกที่ตลาดปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด นายสุเทพ และคณะเดินพบปะทักทายพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดปากเกร็ด พร้อมแนะนำนายทองใบ เสริฐสอน ขณะที่พ่อค้า-แม่ค้าต่างบ่นกับนายสุเทพว่าแย่เศรษฐกิจไม่ดี ทำอย่างไรดี จากเมื่อก่อนพอขายของได้บ้างแต่ยุคนี้ขายของไม่ค่อยได้

จากนั้นนายสุเทพและคณะลงเรือข้ามฟากไปยังฝั่งเกาะเกร็ด เพื่อแนะนำ นายสิทธิโชค เจริญรักษ์ ผู้สมัครส.ส.นนทบุรี เขต 1 หมายเลข 19 ก่อนเดินทางต่อไปยังตลาดพระราม 5 ถ.นครอินทร์ เพื่อแนะนำนายโกมุท เหมะรัต ผู้สมัคร เขต 3 หมายเลข 12 จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดชลประทานรังสฤษฎิ์ เพื่อร่วมพิธีเวียนเทียน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

นายสุเทพ กล่าวว่า ทำกิจกรรมเดินทางคารวะแผ่นดินตามจังหวัดต่างๆมาจนถึงจังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดที่ 74 การระยะเวลาเดินทาง 84 วัน อารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่คิดเอาไว้ว่าหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คาดหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น

ซึ่งตนได้บอกประชาชนว่าถึงเวลาต้องสร้างพรรคการเมืองของประชาชนขึ้นมาเป็นของประชาชนจริงๆ แม้กระทั่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่ใครมองว่าเป็นพรรคของตน แต่จริงๆตนมีหุ้นแค่ส่วนหนึ่งเองในจำนวนหลายหมื่นหลายแสนหุ้น หรือจะเรียกว่าตนเป็นผู้ก่อตั้งคนหนึ่งก็ได้ ในสมาชิกพรรคมีผู้ทรงคุณวุฒิ มีอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลกีฎาด้วย

“ขณะที่ในเส้นทางเดินทำกิจกรรมคารวะแผ่นดิน จะพบประชาชนที่มอบให้ทั้งดอกไม้หรือก้อนหินนั้น ไม่ว่าจะถือป้ายหรือโจมตีว่าประชด ผมคิดว่ารวมทั้งประเทศเเล้วไม่ถึง 30คน เฉลี่ยภาพลักษณ์โดยรวมเป็นส่วนน้อย ขณะที่ผมเดินตลาดเจอพบปะพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดอำเภอหรือจังหวัด จะพูดเป็นเสียงเดียวว่าเศรษฐกิจไม่ดี

เขาจะบอกผมให้ช่วยไปบอกทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่้เกี่ยวข้องให้ลงมาดูมาสนใจ ปากท้องของชาวบ้านอย่างเร่งด่วน รีบฟื้นฟูเศษฐกิจรากหญ้าให้แข็งแรง จะทำใหรากฐานของประเทศแข็งแรงตามขึ้นไปด้วย”นายสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีถึงต้องเป็น ลุงตู่ นายสุเทพฯ กล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน ร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาอีก 250 คน ประกอบกันเป็นรัฐสภา ครึ่งหนึ่งคือ 375 เสียง คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต้องได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง คือ 376 เสียง เวลานี้ที่เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้คนเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ด้วยภายใต้กฎเกณฑ์ของกติกานี้

และมองแล้วไม่มีใครที่จะมี 376 เสียงได้ในเวลานี้ อย่างน้อยไม่ได้เสียงของวุฒิสมาชิก 250เสียงอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น นายธนาธร หรือใคร เพราะส่วนใหญ่วุฒิสมาชิกเหล่านี้เป็นคนรักและยึดมั่นใน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ส่วนพรรคม้ามืด ม้าขาว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่มีแน่ ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ ไม่ได้เป็นนายกฯ นายสุเทพจะผิดหวังหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้องสมมุติมันไม่มี พล.อ.ประยุทธ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสเพลงหนักแผ่นดินในช่วงเวลานี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเคยฟังมาแล้ว ส่วนตัวชอบ เพราะเป็นเพลงที่เตือนสติคนว่าเวลาที่คิดจะทำอะไร ต้องคิดถึงผลกระทบต่อชาติบ้านเมืองด้วย มองส่วนรวมว่าดีหรือไม่ ถ้าคิด พูด และประพฤติ ในสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ก็เป็นคนหนักแผ่นดิน ซึ่งก็เป็นธรรมดา

โดยตนเป็นกำนันอยู่ช่วงเวลานั้นที่มีเพลงนี้ออกมา เขาต้องการสื่อถึงและปลุกให้คนในชาติมารักชาติรักแผ่นดิน ซึ่งได้มีเพลงหลายเพลงออกมาจุดประสงค์พร้อมๆกันเพื่อสร้างความสามัคคีในชาติ