ใกล้ไคลแม็กซ์เข้ามาทุกที สำหรับเวทีประชาพิจารณ์รับฟังเสียงพี่น้องประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา วันที่ 11 ก.ค.นี้ ทำให้กลุ่มต่อต้านเคลื่่อนไหวคึกคัก พร้อมประกาศ 10 เหตุผลที่ต้องคัดค้านโครงการ ขณะที่ฝ่าย ศอ.บต.ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนโดยตรง ก็ออกมาแจงยิบทั้ง 10 ประเด็นเช่นกัน
พูดถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน กระทั่งมีกลุ่มคัดค้านและสนับสนุนเวียนกันมายื่นหนังสือถึงนายกฯที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จึงทำให้สังคมให้ความสนใจโครงการนี้ขึ้นมา
โครงการนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า โครงการเมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" เป็นโครงการที่ต่อยอดจาก "เมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" จำนวน 3 เมืองในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วขยายมาสู่พื้นที่ 4 อำเภอรอยต่อของ จ.สงขลา ซึ่งมีปัญหาความมั่นคงเช่นเดียวกัน
จุดหมายปลายทางก็เพื่อทำให้ อ.จะนะ เป็นฐานของอุตสาหกรรมแนวใหม่ มีท่าเรือน้ำลึก ถนน ทางรถไฟ โรงไฟฟ้า และโรงงานนับร้อยโรง โดยหน่วยงานรัฐหวังว่าจะเป็นแหล่งสร้างงานนับหมื่นตำแหน่ง สร้างรายได้ให้กับพี่้น้องประชาชนในดินแดนปลายด้ามขวาน
สถานะของโครงการ ครม.เห็นชอบในหลักการแล้ว และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ได้ประกาศพื้นที่โครงการ 3 ตำบล คือ ต.นาทับ ต.ตลิ่งชัน และ ต.สะกอม เป็น "เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ" ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการรับฟังความเห็นจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จะมีเวทีใหญ่วันที่ 11 ก.ค.นี้ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็จะเริ่มวางแผนการลงทุนและประเดิมตอกเสาก่อสร้างโครงการ
แต่เอ็นจีโอ นักวิชาการ นักอนุรักษ์ และภาคประชาสังคมบางส่วน นำโดย "เครือข่ายคนจะนะรักษ์ถิ่น" เห็นต่างจากภาครัฐ และออกโรงคัดค้านอย่างแข็งขัน ล่าสุดยื่่นข้อเรียกร้องให้เลื่อนเวทีวันที่ 11 ก.ค.นี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ประเด็นนี้ยังไม่มีท่าทีชัดเจนจากรัฐบาล
พื้นที่ริมทะเล อ.จะนะ หากย้อนกลับไปเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว เคยมีโครงการระดับเมกะโปรเจคอย่างการวางท่อส่งก๊าซธรรมและโรงแยกก๊าซ ซึ่งในครั้งนั้นมีม็อบประท้วงต่อต้าน บรรยากาศคล้ายๆ ครั้งนี้ โดยต่อสู้กันยืดเยื้อยาวนานจนเลือดตกยางออก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล กว่าคดีจะจบใช้เวลาเป็นสิบปี
และหนึ่งในผู้ประท้วงในครั้งนั้น ก็คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในเวลาต่อมา ล่าสุดคือแกนนำคณะก้าวหน้าฝ่ายคัดค้านโครงการนำโดย "เครือข่ายคนจะนะรักษ์ถิ่น" ได้นำเสนอแลงการณ์แจกแจง 10 เหตุผลที่ต้องคัดค้านโครงการนี้ สรุปว่า…
1. ออกมติ ครม.ก่อน ฟังความเห็นทีหลัง
2. ครม.อนุมัติโดยไม่รอบคอบ ไม่มีข้อมูลมากพอ
3. อนุมัติทิ้งทวนก่อนสิ้นรัฐบาลคสช. เป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้าย
4. เวทีรับฟังความคิดเห็นเป็นแค่ "พิธีกรรม"
5. ศอ.บต.ไม่สร้างกลไกมีส่วนร่วมที่แท้จริง
6. ศอ.บต.ปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนพื้นที่อื่น
7. เวทีวันที่ 11 ก.ค.มุ่งปรับแก้ผังเมือง เพื่อเปิดทางให้มีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก
8. ศอ.บต.เล่นบท "ผู้รับใช้" กลุ่มทุน
9. เสียงบประมาณมหาศาลเพื่อกลุ่มทุน
10. ศอ.บต.เป็นผู้สร้างความขัดแย้งในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ต้องเป็นองค์กรสร้างความปรองดองในภารกิจดับไฟใต้
จากเหตุผลของฝ่ายคัดค้านทั้ง 10 ข้อ นายชนธัญ แสงพุ่ม หรือ "ดร.เจ๋ง" รองเลขาธิการ ศอ.บต. ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ ได้ชี้แจงเหตุผลของฝ่ายรัฐเป็นข้อๆ ตามที่ฝ่ายคัดค้านตั้งประเด็นเอาไว้
1. ครม.อนุมัติแค่หลักการ และสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน ครบถ้วนตามกฎหมาย
2. การขับเคลื่อนโครงการมีแผนและข้อมูลอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่ปี 59 ขยายผลจากเมืองต้นแบบ 3 เมืองแรก
3. จังหวะเวลาของการให้ความเห็นชอบโครงการ คือ มติ ครม.วันที่ 7 พ.ค.62 พอดีกับงเมืองต้นแบบ 3 เมืองแรกเดินหน้า
4. เวทีรับฟังความคิดเห็น ศอ.บต.ทำตามกฎหมายและมติ ครม.อย่างครบถ้วน
5. ศอ.บต.สร้างกลไกพัฒนาอย่างยั่งยืนทุกมิติ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรา 10
6. เวทีของ ศอ.บต.เปิดกว้างรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และจะมีการทำรายงานศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA หลังจากนี้
7. เวทีของ ศอ.บต.ไม่ได้มุ่งแก้ผังเมือง แต่ต้องการรับฟังความเห็นจริงๆ
8. ครม.ยังไม่เคยอนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเอกชนในโครงการนี้
9. บทบาทของ ศอ.บต.ที่ขับเคลื่อนโครงการ มุุ่งประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และจะทำ "ธรรมนูญชุมชน" ให้ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน
และ 10. ศอ.บต.หวังให้เกิดการพัฒนา ลดความขัดแย้ง
