ทีมกฎหมาย 2 พรรคร่วมรัฐบาล ประสานเสียงมั่นใจสามารถสู้คดีส.ส.ถือหุ้นสื่อได้ และไม่หวั่นผลคำวินิจฉัยของนายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ย้ำส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีการจดแจ้งการพิมพ์ ปัจจัยใดที่ทำให้ทีมกฎหมายมั่นใจ วันนี้เราจะเทียบเคียงคดี หุ้นสื่อของนายธนาธร ข้อต่อข้อ ว่าเหมือนและต่างกับ คดีคำร้องถือหุ้นของ 32 ส.ส. อย่างไร และจะส่งผลถึงอนาคต รัฐบาลหรือไม่
คดีถือหุ้นสื่อ นาย"ธนาธร"จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูย มีคำสั่ง ให้พ้นสถานะความเป็นส.ส. เริ่มจากคำร้อง ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะที่กกต.ทำสำนวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ก่อนยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่ามีมูล ระบุว่า บริษัทเอกชนที่ถูกกล่าวหา มีการผลิตสื่อจริง จึงนำมาสู่การพิสูจน์ว่าได้มีการโอนหุ้นก่อนสมัครรับเลือกตั้งจริงหรือไม่ โดยศาลพิจารณาก่อนทำหน้าที่ ส.ส.และศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ จนที่สุดศาลฯสั่งให้พ้นสถานะความเป็นส.ส.มีผลย้อนหลัง เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2562
ขณะที่คดี 32 ส.ส.ถือหุ้นสื่อยื่นร้องโดยพรรคอนาคตใหม่ ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีเพียงคำร้องแต่ไม่มีการทำสำนวนสอบสวนให้ศาลเห็นว่ามีมูล มีแต่เอกสารก่อตั้งบริษัท แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดว่าทำธุรกิจสื่อจริงหรือไม่ จึงต้องไต่สวนพิสูจน์ว่าทำธุรกิจสื่อจริงหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาระหว่างทำหน้าที่ส.ส.แล้ว 32 ส.ส. จึงยังไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และยังทำหน้าที่ในสภาฯได้ตามปกติจนกว่าศาลฯจะนัดอ่านคำวินิจฉัย ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบ มีสิทธิ์ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อาจต้องมีผู้ตกเก้าอี้รัฐมนตรีได้
ก่อนหน้านี้ ทั้งนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ และ นายทศพล เพ็งส้ม ทีมกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุ มีความมั่นใจ ในคดี ส.ส.ถือหุ้นสื่อมากขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการถือหุ้นของนายธนาธร จนมีคำสั่งให้พ้นสถานะความเป็นส.ส. ขณะที่ นายทศพล ระบุถึงการตัดสินใจ ขั้นสุดท้ายในการกลับไปยื่นเรื่อง ให้ตรวจสอบรายชื่อ 33 ส.ส.ฝ่ายค้าน ถือหุ้นสื่อ ผ่านทาง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทั้งที่ตอนแรกจะไปยื่นเรื่องผ่านศาลรัฐธรรมนูญ โดยตรงว่า เรื่องนี้ความจริงไม่มีอะไร เพราะฝ่ายกฎหมายระบุว่า กลัวฝ่ายค้าน ตีรวน ว่าสองมาตราฐาน จึงตัดปัญหา ยื่นตรงต่อประธานสภาฯ
ขณะที่อีกเรื่องที่น่ากังวลกว่าในส่วนของรัฐบาล หากมองไปข้างหน้า ถ้าผลสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนคดีเสร็จแล้ว หากมีการสั่งให้ ส.ส.ทั้ง 32 คน ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่จริง ปัญหาที่หวั่นเกรงก็จะเกิดขึ้น คือ การผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 มีโอกาสเกิดปัญหาแน่ เพราะถ้างบประมาณประจำปีไม่ผ่านจริง รัฐบาลต้องลาออก หรือยุบสภา เพียงสถานเดียว นั่นเท่ากับว่ารัฐนาวาของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีเสียงปริ่มน้ำอยู่แล้ว จะยิ่งเปราะบางและอาจถึงคราวอับปางได้
ทีมข่าวการเมือง TNN รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ธนาธร’ ลั่นเดินหน้าทำกิจกรรมการเมือง-ไม่กังวลหากโดนยุบพรรค (มีคลิป)
ศาลรธน.วินิจฉัย 'ธนาธร' พ้นจากสมาชิกภาพส.ส.จากกรณีถือหุ้นสื่อ
มติเอกฉันท์ ‘กกต.’ คดี ‘ธนาธร’ ปล่อยกู้อนาคตใหม่
"ประวิตร"เชื่อไม่มีมวลชนเคลื่อนป่วนคดี "ธนาธร"
‘ธนาธร’ ยืนยันบริษัทวีลัค มีเดีย ยุติกิจการ ก่อนเลือกตั้ง
ศาลรธน.นัดชี้ชะตา “ธนาธร” ถือหุ้นสื่อเดือนหน้า
กกต.ขอศาลรธน.ขยายเวลาคดี ‘ธนาธร’ ถือหุ้นสื่อ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
