สำหรับเดือนแห่งวาเลนไทน์แบบนี้ มันก็ต้องพูดถึงเนื้อหาเกี่ยวกับความรักกันหน่อยสิ วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องราวของ ‘เทพีแห่งการแต่งงาน’ ที่มันก็น่าคิดว่ามันสะท้อนอะไรอยู่ว้าาา
คนแรกมากับสายตำนานอินเดีย
พระแม่อุมา / พระแม่ปารวตี
มีช่วงนึงที่ได้ไปดูเรื่อง [มหากาลี เทวีพิทักษ์โลก] ที่เคยฉายช่อง 3 แล้วพบว่า….ช่างเป็นชีวิตคู่ที่วนลูปละเกิน
ต้องเริ่มด้วยการทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรซักอย่าง
ตามด้วย งอนแรงมาก อวตารหนีไปเกิดใหม่หรือบางทีก็โดนสาปให้ไปอวตารบ้างก็ว่าไป
STEP ต่อไปคือพระศิวะ หรือ พระอิศวรก็จะอวตารตามลงมาจีบใหม่ แต่งงานใหม่ พาขึ้นสวรรค์
……ซักพักก็ทะเลาะกันใหม่
คิดๆแล้ว….มันอาจจะสะท้อนสังคมก็ได้นะ
ชีวิตคู่บางทีก็ลิ้นกับฟัน มีความขัดแย้งเกิดขึ้นได้บ่อยๆ
แต่สิ่งที่จะทำให้ความรักยืนยาวได้ อาจจะเป็นการย้อนไปเริ่มต้นกันใหม่ก็ได้
ย้อนไปนึกถึงวันแรกว่ารักกันได้ยังไง ถ้าเป็นแบบนั้น ชีวิตรักก็จะไม่ใช่เรื่องจืดชืดน่าเบื่อกันไปไงล่ะ
คนต่อไปถ้าใครเคยอ่านตำนานเทพกรีก-โรมันมาบ้างต้องรู้จัก
เพราะนางเป็นคนที่ต้องรับบทเป็นนางร้ายตัวอาละวาดก่อความวุ่นวายใส่หลายคนในเรื่อง
เห็นแบบนั้นนางเป็นถึงเทพแห่งการแต่งงานนะเหวย
เทพีเฮร่า หรือ เทพีจูโน่ นั่นเอง
นี่ก็เป็นอีกคู่ที่วนลูป
เริ่มจาก ซุส สามีของนาง ที่เผลอเป็นไม่ได้ ขยันล่าแต้มเก็บกวาดสาวแทบจะทั้งเรื่อง แบบไม่จดไม่จำซะทีว่า เมียไม่โอเคโว้ยยยยย
แน่นอนว่าทุกครั้งที่เฮร่าจับได้ นางก็จะปล่อยสามีลอยตัวเหนือปัญหาไปไล่เก็บกวาดเมียน้อยร้อยทั้งร้อยแทบไม่รอดมามีชีวิตดีซักคน ม่องเท่งไปก็หลายราย
เท่านั้นยังไม่พอ เจ๊แกไล่ฟาดยันลูกชู้ ถ้ามีบุญบารมีหน่อยก็จะรอดมาเป็นวีรบุรุษในตอนจบได้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นบอกเลยว่ารากเลือด
พอเคลียร์ทุกอย่างจบ….เปิดบทต่อไปอีตาซุสก็ไปมีกิ๊กใหม่อีกละ
หลังจากที่อ่านเรื่องเฮร่าจบ บางทีก็ต้องนั่งพับหนังสือเป็นพักๆ หรือนี่จะเป็นการสะท้อนวัฒนธรรมกรีกเมื่อหลายพันปีก่อน อาจจะเป็นสังคมชายเป็นใหญ่ ผู้มีอำนาจทำอะไรก็ได้ ผู้ด้อยอำนาจก็ต้องดิ้นรนกันไปตามห่วงโซ่อาหาร
แต่ว่านะอ่านไปอ่านมาไหงตำนานโบราณ ถึงใช้พล๊อตบทเดียวกับละครไทยยุคปัจจุบันเลยว้า
จะบอกว่าชีวิตคู่แบบนี้มันมีทุกยุคทุกสมัย หรือจะบอกว่าละครไทยมันล้าหลังดีเนี่ย
__
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก ละครสะท้อนอะไร ได้ทุกวันพฤหัสบดี บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจละครสะท้อนอะไร
