เทพหัสดินฯ ให้แพรวาขอโทษ (คลิป)

ตั้งกองทุนมอบเหยื่อล่าทรัพย์ แม่ยันจ่ายแน่แต่เงินสดไม่พอ

ตัวแทนราชสกุล “เทพหัสดิน ณ อยุธยา” กว่า 200 ครอบครัวเต้น ส่งตัวแทนเปิดแถลงข่าว พร้อมรวบรวมเงิน 5 แสนบาทตั้งกองทุนให้เหยื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามทรัพย์ หลังคำพิพากษาถึงที่สุด เรียกร้องให้ครอบครัว “แพรวา” เร่งจ่ายเงินเยียวยา พร้อมแนะให้ออกมาแถลงข่าวขอโทษสังคม วอนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตัวบุคคล ถ้าพาดพิงคนอื่นสามารถฟ้องร้องได้ ขณะที่แม่แพรวา ออกมายัน ผู้เสียหายทุกคนจะได้รับเงินเยียวยาแน่ แต่ตอนนี้ไม่มีเงินสด เตรียมขายที่ดินที่ปราณบุรีมาชดใช้เหยื่อ แต่ติดที่ยังขายไม่ได้ ถ้าไม่พอจะขายบ้านย่านเมืองทองธานีอีก วอนให้กองทุนยุติธรรมช่วยเป็นตัวกลางนำเงินมาเยียวยาเหยื่อก่อนเพื่อความรวดเร็ว ยอมเป็นลูกหนี้กระทรวงยุติธรรมแทน

กรณีอุบัติเหตุสยองเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2553 น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขณะนั้นอายุ 17 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน่าอนาถถึง 9 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน ถูก ดำเนินคดีในศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาว่า มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 3 ปี แต่โทษจำให้รอลงอาญาไว้ 4 ปี ส่วนคดีแพ่งศาลเพิ่งอ่านคำพิพากษาฎีกาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินกว่า 19.8 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่ยังไม่มีผู้เสียหายรายใดได้รับเงินเยียวยา จนมีการขุดประวัติ น.ส.แพรวาว่าเปลี่ยนชื่อนามสกุลอีกหลายครั้ง เช่น น.ส.บัวบูชา เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าจากกรมบังคับคดี เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ก.ค. นายเสกสรร สุขแสง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมบังคับคดี ฐานะโฆษกกรมบังคับคดี เผยขั้นตอนการบังคับคดีและยึดทรัพย์ขายทอดตลาดว่า คดี น.ส.แพรวาทราบว่าศาลฎีกามีคำสั่งพิพากษาเมื่อวันที่ 8 พ.ค.62 ให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนที่ศาลพิพากษา หากจำเลยไม่ชดใช้ตามคำสั่งนับจากศาลมีคำพิพากษา 30 วัน ศาลจะออกหมายบังคับคดี ส่งเรื่องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำหมายไปแจ้งให้จำเลยทราบว่า เข้าสู่กระบวนการการบังคับคดีแล้ว หลังจากนั้นโจทก์จะนำข้อมูลทรัพย์สินต่างๆที่ไปสืบหาทรัพย์เองตามขั้นตอนไปยื่นให้สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กทม.1 เจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการยึดทรัพย์สินมาขายทอดตลาดตามขั้นตอน และนำทรัพย์สินขายทอดตลาดจนกว่าจะขายทรัพย์สินได้

“เช่น ฝ่ายโจทก์สืบทราบว่าจำเลยมีที่ดิน 1 แปลง ราคาประเมินเท่าไหร่ นำหลักฐานทั้งหมดให้เจ้าพนักงานบังคับคดี หลังจากนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีจะแจ้งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินให้ทราบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวห้ามซื้อขายถ่ายโอนหรือธุรกรรมใดๆพร้อมแจ้งให้ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทราบว่า จะนำที่ดินมาขายทอดตลาดเพื่อชดใช้แทนค่าสินไหมตามคำสั่งศาล ทั้งนี้ หากจำเลยหรือผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินจะมาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าสินไหม แทนการนำทรัพย์สินขายทอดตลาดก็ย่อมได้ แต่ต้องมายื่นเรื่องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ศูนย์ไกล่เกลี่ย กรมบังคับคดี ก่อนนำเข้ากระบวนการนำทรัพย์สินขายทอดตลาดเท่านั้น” โฆษกกรมบังคับคดีกล่าว

นายเสกสรรเผยอีกว่า ปกติหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมแล้ว ระหว่างรอ 30 วัน ฝ่ายโจทก์เริ่มสืบหาทรัพย์สินเองได้เลย ไม่ว่าจะจ้างทนายความ หรือขอคำปรึกษากับนิติกรของกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยเหลือ เมื่อครบกำหนด 30 วัน จำเลยไม่ชดใช้ตามศาลสั่ง ศาลจะออกหมายบังคับคดีส่งมาให้กรมบังคับคดี หลังจากนั้นผู้เสียหายนำหลักฐานการสืบหาว่าจำเลยมีทรัพย์สินอะไรบ้าง มายื่นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทันที ทั้งนี้ โจทก์มีระยะเวลาในการสืบหาทรัพย์สินจำเลยประมาณ 10 ปี ตามกระบวนการกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในรายการโหนกระแส พ.อ.รัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส่งโฉนดที่ดินปราณบุรี-สามร้อยยอด จำนวน 21 ไร่ และโฉนดที่ดินหมู่บ้านเมืองทอง 3 ฉบับ 300 ตารางวา มาให้หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการ พร้อมเปิดใจถึงแนวทางที่จะรับผิดชอบอย่างไรกับเหตุการณ์รถชนดังกล่าว ส่วนนางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาของ น.ส.แพรวา กล่าวว่า จุดประสงค์อยากบอกผู้สูญเสียทุกคน อยากแสดงความ จริงใจให้เห็นว่า เรามีทรัพย์สินอยู่ตรงนี้ พร้อมขายให้กับทุกคนเพราะเรามีเงินไม่พอ ต้องขอโทษว่าหาเงินไม่ทันจริงๆ ส่วนของเงินสดไม่อยากให้ทุกคน เสียเวลาสืบทรัพย์ มันจะทำให้ทุกคนได้รับการเยียวยาช้า จะไม่บิดพริ้ว ไม่เคยย้ายทรัพย์หนี ฝากขายทางรายการด้วยก็ได้

“อยากเรียนรัฐมนตรียุติธรรมคนใหม่ ขอให้ช่วยอนุมัติเงินกองทุนยุติธรรมแทนไปก่อน ขอไปเป็นลูกหนี้กระทรวงยุติธรรม เมื่อขายทรัพย์ได้จะนำ ไปชดใช้คืน เห็นใจทุกคน จะได้ไม่ช้า ที่ดินที่เตรียมไว้ที่ปราณบุรี 50 ล้านบาท ถ้าไม่พออีกแปลงที่บ้าน 55 ล้านบาท ส่วนที่ไม่ได้ไปขึ้นศาลเพราะต้องดูแลพ่อกำลังป่วย จึงส่งทนายไปแทน แต่ไม่ทราบจริงๆว่าทนายไม่ได้ไป พอทราบก็ช็อก ทั้งโกรธและเสียใจ ต้องขอโทษญาติผู้เสียหายทุกคน” นางลัดดาวัลย์กล่าว

เมื่อถามว่า ทนายพูดไม่ดีกับผู้เสียหายว่า อยากได้ไปฟ้องเอา นางลัดดาวัลย์กล่าวว่า คงหนีความรับผิดชอบไม่พ้น เพราะเขาเป็นทนายของครอบครัว ต้องขอโทษญาติผู้เสียหายทุกคน ไม่ได้คิดจะดึงเรื่อง ถ้าเรามีเงินสดในตัวไม่ต้องฟ้องร้องเลย เราจัดให้ทุกคน แต่เมื่อตัวเลขสูง แต่ไม่ได้สูงไปกว่าชีวิตที่สูญเสียไป ประเมินค่าชีวิตของคนที่จากไปไม่ได้ เมื่อการอุทธรณ์ก็เป็นขั้นตอนของกฎหมายมันก็เป็นไป ถามว่าประเด็นสังคมเริ่มบานปลายไปถึงเรื่องตระกูล นางลัดดาวัลย์กล่าวว่า กราบบรรดาชาวเน็ต เรื่องนี้เป็นความผิดส่วนตัวของดิฉัน พ่อ และ แพรวา ราชสกุลทุกคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขออภัยราชสกุลที่ต้องมัวหมอง คนอื่นไม่ได้ร่วมทำผิดด้วย

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวดีรังสิต นายสุชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขานุการราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา พร้อมนายณัฐพล ทองคำ ทนายประจำราชสกุล แถลงว่า ทางราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ไม่เคยนิ่งนอนใจ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและกราบขออภัยจากใจ ขอขมาทุกคนที่เกี่ยวของกับอุบัติเหตุครั้งนั้น ตลอดมาไม่เคยลืมอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ ผลักดันให้ครอบครัวแพรวา หรือ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมมาตลอดไม่ได้หนีไปไหน ติดตามข่าวมาตลอดจนทราบว่า น.ส.รวินภิรมย์ถูกตัดสินให้รับโทษในคดีอาญาไปแล้วโดยไม่เคยคิดหลบหนี สอบถามครอบครัว น.ส.รวินภิรมย์หลายครั้ง ได้รับคำตอบว่า คดีสิ้นสุดแล้วทุกครั้ง ทางราชสกุลจึงวางใจไม่ได้ติดต่อครอบครัวของ น.ส.รวินภิรมย์ จนเมื่อบ่ายวันที่ 17 ก.ค. ศาลฎีกาพิพากษาเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 ให้ครอบครัวของ น.ส.แพรวา ร่วมกันชดใช้เงินประมาณ 25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2553

นายณัฐพลกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการราชสกุลมีมติร่วมว่า ทางราชสกุลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขอขมาต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุ อีกทั้งใคร่ขอแสดงน้ำใจด้วยการรวบรวมเงินจากสมาชิกราชสกุล 200 ครอบครัวเป็นเงิน 500,000 บาท มอบให้ตัวแทนผู้เสียหาย หรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายนำไปจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไว้สำรองใช้จ่ายติดตามบังคับคดีสืบทรัพย์ตามกฎหมาย และในนามราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ขอเรียกร้องให้ครอบครัว น.ส.แพรวาน้อมรับปฏิบัติตามคำพิพากษา อีกทั้งเร่งดำเนินการให้ทุกอย่างเรียบร้อยด้วยดี ภายใต้คุณธรรมและจริยธรรมอันดี

“รวมทั้งขอให้ น.ส.แพรวาออกมาขอโทษกับผู้เสียหายต่อสาธารณชนอย่างจริงใจ เพื่อความสบายใจของสังคม เมื่อคดีต่างๆสิ้นสุดลงแล้ว ขอวอนต่อสังคมในคราวเดียวกันนี้ ให้โอกาสต่อ น.ส.รวินภิรมย์ ที่ขณะนั้นเป็นเพียงเยาวชนและไม่ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ ได้มีโอกาสแสดงความรับผิดชอบนอกจากไม่หลบหนีไปไหน และน้อมรับโทษทุกประการแล้ว ขอให้ได้แสดงความรับผิดชอบจัดหาทรัพย์มาเยียวยาต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุจนครบถ้วน สำหรับกรณีสื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์–วิจารณ์ราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา พาดพิงถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอวิงวอนให้ยุติการกระทำเนื่องจากเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากมีคนในตระกูลฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละครอบครัว เนื่องจากในราชสกุลมีจำนวนถึง 200 ครอบครัว” นายณัฐพลกล่าว

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

• อดีตสามีแพรวา ยันไม่เคยใช้ตำแหน่งเข้าช่วยคดี เผยหย่ากันแล้ว 4 ปี
• อยากจบ เหยื่อคดี "แพรวา" บอบช้ำ บอกเงินแค่นี้ แลกกับชีวิตคน ไม่มีใครเอาหรอก
• เราไม่นิ่งนอนใจ ราชสกุลเทพหัสดินฯ เสียใจคดีแพรวา ตั้งกองทุนเยียวยาเหยื่อ

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath