โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เทคโนโลยีสุดล้ำ สำหรับ“ซิลเวอร์เอจ”

Manager Online

อัพเดต 26 ก.ย 2561 เวลา 05.36 น. • เผยแพร่ 26 ก.ย 2561 เวลา 05.36 น. • MGR Online

เคยลองวาดภาพตัวเองในวัยเกษียณไว้บ้างไหม? เราจะยังคงท่องเที่ยว เดินทาง ผจญภัย ออกกำลังกาย พบปะเพื่อนฝูง ดูแลครอบครัว หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เราชอบเหมือนอย่างที่เราเคยทำหรือไม่?

ด้วยการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของคนยุคใหม่ รวมไปถึงการสาธารณสุขและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ส่งผลให้ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้นกว่าเดิม ในวัยก่อนเกษียณและหลังเกษียณ เราจึงเห็นคนในวัย “ซิลเวอร์เอจ” (Silver Age) ยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง คล่องแคล่ว กระปรี้กระเปร่า แทบไม่ต่างจากคนวัยทำงาน เพราะฉะนั้น คงไม่ต้องกังวลเลยว่าอายุที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตแอคทีฟเดิมๆ ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้ทุกกิจกรรมกลายเป็นเรื่องง่ายและไร้กังวล

-ซิลเวอร์เอจ วัยแห่งความสุข

เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomers) คนที่มีอายุประมาณ 55-70 ปี หรือวัยก่อนเกษียณ ไปจนถึงช่วง 10 ปีหลังเกษียณ เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อเรียกประจำเจเนอเรชั่นว่า ซิลเวอร์เอจ แม้จะถูกตั้งชื่อตามผมสีขาวหรือผมสีเงินที่มักเกิดขึ้นในวัยนี้ แต่ซิลเวอร์เอจ หรือวัยเกษียณในปัจจุบัน กลับเป็นเจเนอเรชั่นที่ใครๆ แอบอิจฉา เพราะปลอดจากภาระ มีอิสระ มีกำลังซื้อ มีโอกาสได้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลากับครอบครัว การออกกำลังกายได้สม่ำเสมอ การทำตามความฝันหรือบรรลุเป้าหมายส่วนตัว รวมไปถึงการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ หรือผจญภัยไปในที่ต่างๆ เพื่อให้รางวัลตัวเองอย่างมีความสุข และยังมีซิลเวอร์เอจอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังทำงานต่อ หรือทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อนำประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ และศักยภาพที่สั่งสมไว้ ไปใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม

-ไลฟ์สไตล์แอคทีฟ เคล็ดไม่ลับอายุยืน

งานวิจัยในระดับนานาชาติต่างเห็นพ้องต้องกันว่า กลุ่มซิลเวอร์เอจที่ยังแข็งแรง ใช้ชีวิตแอคทีฟ ดูแลสุขภาพ ทำกิจกรรมและงานอดิเรกเป็นประจำ มีมุมมองในเชิงบวก ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความสุข มีคุณค่า และมีความหมาย มีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนขึ้น

การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมหรือเคลื่อนไหวออกแรงในชีวิตประจำวันสม่ำเสมอคือ เคล็ดลับอันดับหนึ่งที่ทำให้อายุยืนมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทยแนะนำให้วัยเกษียณเคลื่อนไหว ออกแรงหรือออกกำลังระดับปานกลางที่ทำให้หายใจแรงขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นหายใจหอบสะสมให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน อาจเป็นการออกกำลังกายรวดเดียว30 นาที หรือแบ่งเป็นช่วง ช่วงละ 10-15 นาทีตรงกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกว่ากิจกรรมเคลื่อนไหวที่ออกแรงเทียบเท่าการเดินเร็ว150 นาที ต่อสัปดาห์ ช่วยให้อายุยืน เช่น การทำงานบ้าน เดินไปธุระ ทำสวนทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เน้นเสริมสร้างการทำงานของร่างกายแต่ละส่วนก็มีผลดีต่ออารมณ์ ช่วยลดความเครียดและโอกาสเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้

นอกจากการฟิตร่างกายแล้ว การบริหารสมองให้แอคทีฟทุกวันก็ยังสำคัญไม่แพ้กัน เพราะกิจกรรมกระตุ้นสมรรถภาพสมองทั้งทางตรงและทางอ้อม ช่วยชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อม กิจกรรมง่ายๆ อย่างการเขียนอ่าน เล่นเกมอักษรไขว้ เล่นหมากรุก ไพ่นกกระจอก หรือเกมส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา มีผลดีต่อทักษะด้านการรับรู้และความคิดความเข้าใจ และระบบความจำในวัยนี้

อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีผลดีต่อสุขภาพกายและใจของกลุ่มซิลเวอร์เอจที่ยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและทักษะด้านการรับรู้และความคิดความเข้าใจสมบูรณ์ คือ การขับรถ งานวิจัยในต่างประเทศพบว่า การหยุดขับรถทำให้วัยเกษียณมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวและมีสุขภาพกายถดถอยมากกว่า เมื่อเทียบกับคนเพศและวัยเดียวกันที่ยังขับรถอยู่ ทั้งนี้เนื่องจากการขับรถเป็นการมอบอิสรภาพในการเดินทาง แสดงถึงการพึ่งพาตนเองได้ การขับรถไปทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเพื่อการเดินทางไปพักผ่อน ทำให้วัยเกษียณยังมีส่วนร่วมทางสังคม คงความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง มีความภูมิใจในตัวเอง มีส่วนช่วยยกระดับชีวิตและคุณค่าของวัยนี้ อีกทั้งช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวความกังวลว่าจะถูกทอดทิ้ง และไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น สอดคล้องกับ ผลการวิจัยในไทย AWUSO Society 4.0 แก่แต่วัย หัวใจยังเก๋า โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่า วัยเกษียณครึ่งหนึ่งชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพราะเดินทางได้อย่างเป็นอิสระ สามารถชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง และสะดวกในการแวะเข้าห้องน้ำได้ตลอด

-เทคโนโลยีขับขี่ล้ำสมัย ตัวช่วยชีวิตแอคทีฟ

เพราะวัยเกษียณในปัจจุบันยังคงความแอคทีฟด้วยด้วยการทำกิจกรรมมากมายเช่นเดียวกับวัยอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิต ช่วยให้วัยซิลเวอร์เอจมีอิสระในการเดินทาง ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างแอคทีฟและมีความสุข ซึ่งมีส่วนสำคัญในการยืดอายุให้ยืนยาวยิ่งขึ้น และสามารถพึ่งพาตนเองได้ยาวนานยิ่งขึ้น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์บางรายได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมอบความมั่นใจและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับทุกกลุ่ม ทุกวัย ตัวอย่างเช่น ฟอร์ด ที่ติดตั้งเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ (Advanced Driving Assist Technology) ที่รวบรวมฟังก์ชั่นมากมายเพื่อมอบความคล่องตัวในการขับขี่

รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง อย่างฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ที่ได้รับรางวัลมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ศูนย์ทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านยานยนต์แห่งภูมิภาคอาเซียน และรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2558 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ไทย (สรยท.) มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ เมื่อกดปุ่ม ระบบจะควบคุมความเร็วตามที่กำหนด และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อัตโนมัติ ระบบจะช่วยเบรกและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า ทำให้ผู้ขับไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและคันเร่ง หรือปิด-เปิดระบบควบคุมความเร็วใหม่ ช่วยให้การขับรถระยะไกลเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัย

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ซึ่งผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนนและระบบตรวจจับยานพาหนะบริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถและช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนน ระบบตรวจจับลมยาง ซึ่งคอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง รวมไปถึงระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ใช้กล้องที่ติดตั้งไว้ด้านหลังของกระจกมองหลัง คอยตรวจจับเส้นแบ่งเลนถนนและการไถลออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ หากกล้องตรวจจับได้ว่ารถกำลังเคลื่อนตัวออกนอกเลนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะเตือนด้วยสัญลักษณ์บนแผงหน้าปัด พร้อมการสั่นบนพวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่รักษาตำแหน่งรถยนต์ให้อยู่ในเลน ทั้งยังช่วยระวังผู้ใช้จักรยาน หรือพาหนะอื่นๆ ที่อยู่ในเลนอื่นให้อีกด้วย

นอกจากนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังมีเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ๆ ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ, ระบบตรวจจับรถในจุดบอด ที่มาพร้อมกล้องมองหลังขณะถอยจอดและสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า รวมถึงการเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่างระบบซิงค์ 3 ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่รองรับภาษาไทย เพื่อการโทรเข้า รับสาย ส่งข้อความ รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ของสมาร์ทโฟน รองรับทั้ง iOS และแอนดรอยด์ ระบบดังกล่าวมาพร้อมจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว เมนูใช้งานง่าย ตัวอักษรใหญ่ มองเห็นชัดเจน ช่วยให้การขับรถทั้งในระยะใกล้และระยะไกลเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย และยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบช่วยโทรฉุกเฉิน ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน

แม้จะสูงวัย แต่หัวใจยังแอคทีฟ “ซิลเวอร์เอจ” จึงเป็นวัยที่ยังสามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ไม่ต่างจากคนรุ่นอื่นๆ ยิ่งถ้ามีพาหนะคู่ใจที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ทำให้การเดินทาง ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และไร้กังวล ช่วยส่งเสริมให้วัยเกษียณได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมีคุณค่า และมีความหมายในทุกๆ วัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0