โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เทคนิควางแผนใช้โบนัสก้อนน้อยสำหรับมนุษย์เงินเดือนนักล่าฝัน

HealthyLiving

อัพเดต 01 ก.พ. 2562 เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 03 ม.ค. 2562 เวลา 08.00 น. • Healthy Living
Stang-story_thumnail.jpg

เปิดปีใหม่ หมดช่วงเวลาของเทศกาลแห่งความสุขแล้ว เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายต้องกลับมาเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง และสิ่งเดียวที่พอจะทำให้ชื่นใจได้บ้าง ก็คงจะเป็นเงินโบนัสของเรานี่แหละ ที่จะช่วยให้กระชุ่มกระชวยจิตใจอยากลุกขึ้นมาทำงาน ซึ่งตอนนี้บางคนอาจจะได้น้องโบ มาครอบครองเรียบร้อยแล้ว หรือบางคนยังลุ้น ๆ ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กันอยู่ว่าจะได้เท่าไหร่ 
ถ้าใครยังไม่ได้โบนัส มาเดาตัวเลขกันไว้ก่อนว่าคุณจะได้กันเท่าไหร่ จากการคาดการณ์ของสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย เขาได้คาดการณ์เอาไว้ว่า โบนัส ประจำปี 2561 เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 1-2 เดือน 
ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าโบนัสที่ได้ เหล่ามนุษย์เงินเดือนจะนำไป “ออม-ลงทุน” เพื่ออนาคต มากกว่าซื้อของสร้างความสุขให้ตัวเอง จากกลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 35% เก็บไว้เป็นเงินออม / 23% นำไปลงทุน / 21% นำไปชำระหนี้และบัตรเครดิต / 10% นำไปซื้อของขวัญให้ตัวเองและคนสำคัญ เรามาดูตัวอย่างพนักงานเงินเดือนบางส่วนว่าพวกเขามีแผนจัดการกับเจ้าน้องโบนัสนี้อย่างไรกันบ้าง 

 บิว อายุ 23 ปี (Graphic Designer) “อยากลองลงทุนดู จะลองเอาไปลงทุนส่วนนึงประมาณ 30% อีก 20% เอาไว้เป็นรางวัลให้ตัวเอง กิน เที่ยว ซื้อของ สุดท้าย 50% เก็บไว้เป็นเงินสำรองยังไม่รู้ว่าจะเอาไว้ทำอะไรแต่คิดว่าต้องมีเก็บไว้เพื่อความปลอดภัย”
ปอ อายุ 24 ปี (พนักงานบริษัทเอกชน)“เก็บไว้เป็นเงินเก็บเผื่อใช้ในธนาคารครึ่งนึง ใช้เป็นรางวัลให้กับตัวเองครึ่งหนึ่งเพิ่งเคยได้โบนัสมาก้อนแรกในชีวิต ขอใช้ให้มีความสุขเยอะหน่อย”
หมู อายุ 24 ปี (Programmer)“มีแพลนจะออกจากงานไปเป็นครูสอนดำน้ำ ก็เอาโบนัสทั้งหมดนี่แหละ ไปเป็นทุนในการเรียนดำน้ำ”
บี อายุ 25 ปี (เซลล์ขายของ)“80% จะเอาไปคืนค่าเทอมที่ยืมพี่มาเรียน เหลืออีก 20% เอาไปลงทุน เล่นหุ้นซักอย่าง ให้เงินที่มีมันงอกเงย“
จูน อายุ 25 ปี (Copy Writer)“เก็บก้อนใหญ่ไว้เป็นเงินเก็บซื้อบ้านประมาณ 70% ให้พ่อแม่อีก 20% ส่วน 10% สุดท้ายเอาไว้ไปทำสวย ฉีดนู่นฉีดนี่ เพิ่มความสุขให้ตัวเอง”
เจน อายุ 26 ปี (Senior Account Executive)“เปย์คนรอบตัวและคนในครอบครัว 25%เก็บเข้าธนาคาร 25% ตรงนี้เผื่อไว้ได้ใช้ในอนาคตเปย์ตัวเอง แค่ 10% กิน เที่ยว Shoppingส่วนที่เหลือ เก็บเป็นทุนในการซื้อรถ 40%”
ยู อายุ 33 ปี (พนักงานออฟฟิศชาวญี่ปุ่น)“ได้เงินมาเก็บ 100% เพราะไม่อยากได้อะไร เลยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ซื้ออะไร ถ้าคิดว่าจะต้องเอาไปลงทุนอะไรให้เงินมันงอกเงย ก็คงเอาไปฝากธนาคารไว้ก่อน เพราะตอนนี้ดอกเบี้ยก็ขึ้นด้วย น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ยังไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน นอกนั้นก็จะแบ่งเงินบางส่วนไปซื้อหนังสือ”
หญิง อายุ 33ปี (พนักงานออฟฟิศ)  “เอาไว้ใช้ซื้อของที่อยากได้ประมาณ 30% จริง ๆ ยังไม่มีแผนที่จะซื้ออะไรแต่คิดว่ากันเงินส่วนนี้ไว้ซื้อ ที่เหลือก็เก็บออม 70%”
ป๋วย อายุ 38 ปี (ทำงานราชการ) “คิดว่าจะเอาโบนัส ไปใช้หนี้ 50%บัตรเครดิตและออมแบบซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี50% รอปันผลเพื่อเอากำไรนั่นคือรางวัลให้กับชีวิต”
เอษ อายุ 40 ปี (ผู้ช่วยผู้บริหาร)ไม่ได้คิดถึงการให้รางวัลตัวเอง หรือไม่ได้ที่จะอยากคิดไปไหนแล้ว ก็จะเอาไป ลงทุน LTF RMF 50% แล้วก็ ออม 50%”
บุ๊ง อายุ  42 ปี (พนักงานธนาคาร เจ้าหน้าที่ควบคุมความเสี่ยงอาวุโส)“เก็บ 30% ซื้อ LMF RMF เอาไว้ลดหย่อนภาษีใช้หนี้บัตรเครดิตซัก 20%  มันไม่ได้เยอะเลยไม่ได้กันส่วนนี้ไว้มาก50% ไว้ซื้อของให้แม่ ป๊า แฟน แล้วก็ให้ตัวเองส่วนเรื่องเก็บออม ไม่ได้คิดว่าจะต้องเอาโบนัสมาออม เพราะเราเก็บทุกเดือนอยู่แล้วจากเงินเดือน ส่วนโบนัสคิดไว้เป็นเงินก้อนที่ไว้ใช้อย่างอื่น”
ยา อายุ 53 ปี (ผู้จัดการ)"ตอนนี้ไม่มีหนี้มีสินอะไร คิดว่าจะเก็บ 100% ไว้เป็นทุนซื้อที่ดิน ทำสวนทำไร่ทำมาหากินตอนบั้นปลายชีวิต"
การออม ลงทุนเผื่อไว้มันดีอยู่แล้ว แต่มันจะดีกว่าถ้าตั้งเป้าแบบชัดเจนให้กับมัน“เก็บไว้ครึ่งนึงเป็นเงินเก็บเผื่อใช้ในธนาคาร”“เอาไปลงทุน เล่นหุ้นซักอย่าง ให้เงินที่มีมันงอกเงย““เก็บก้อนใหญ่ไว้เป็นเงินเก็บซื้อบ้านประมาณ 70%”“เก็บเข้าธนาคาร 25% เผื่อไว้ได้ใช้ในอนาคต”“เก็บไว้เป็นเงินสำรองยังไม่รู้ว่าจะเอาไว้ทำอะไรแต่คิดว่าต้องมีเก็บไว้เพื่อความปลอดภัย”
เราจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ คนมีแผนในการใช้โบนัส แต่ยังไม่เห็นจุดประสงค์ชัดเจนในการออม หรือลงทุน หรือถึงแม้บางคนมีเป้าหมายแล้วแต่อาจจะยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาของเป้าหมายแบบชัดเจน ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสที่จะไปถึงเป้าหมาย หรือทำให้การไปถึงเป้าหมายนั้นยืดเยื้อออกไป 
ทบทวนเป้าหมาย แล้วจะเห็นว่าเราควรเอาเงินไปลงทุนแบบไหน หรือออมเท่าไหร่เคยได้ยินประโยคนี้ไหม “ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เท่ากับทำสำเร็จไปครึ่งทาง” แน่นอนล่ะว่าเป้าหมายนั้นสำคัญมาก ๆ ในการวางแผนการใช้เงิน ทีนี้ลองหลับตานึกถึงตัวเองว่าปีนี้อยากทำอะไร อีก 5 10 หรือ20 ปีข้างหน้า เราอยากให้ตัวเองอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ โดยการตั้งเป้าหมายนั้นควรเป็น เป้าหมายที่ชัดเจน (ไม่ใช่แค่อยากรวย แต่ต้องรวยด้วยเงินเท่าไหร่)มีกำหนดเวลา (อยากรวยมีเงิน 5 ล้าน ต้องเติมต่อท้ายไปด้วยว่าในระยะเวลาเท่าไหร่)ทำได้จริง (อยากรวยมีเงิน 5 ล้าน ภายใน 1 ปี มันยากไปไหม ถ้ายากไปลดเงินลง หรือยืดระยะเวลาไหม)

 
เมื่อได้เป้าหมายชัดเจนแล้วเราจะเห็นชัดขึ้นว่า จริง ๆ แล้วโบนัสก้อนนี้เราควรวางแผนใช้มันอย่างไร ?สมมุติว่า วันนี้อายุ 30 ปี มีเป้าหมายว่าตอนเกษียณต้องมีเงินก้อน 10 ล้านบาท ไว้เลี้ยงตัวเองได้ไม่รบกวนลูกหลาน ปีนี้ได้โบนัสมา 1 แสน ออมครึ่งหนึ่ง ใช้ครึ่งหนึ่ง แบบนี้อีก 30 ปีเกษียณก็ยังไม่ถึง 10 ล้านที่ตั้งไว้ หรือหากใจถึงออมเต็มจำนวนโบนัสตลอด 30 ปีก็ยังไม่แน่ว่าจะถึงตามเป้าที่ตั้งไว้ไหม จะทำให้เห็นได้ว่าหนทางสู่เป้าหมายนี้ไม่ใช่การออม แต่อาจจะเป็นการนำไปลงทุน ให้เกิดเป็นรายได้ที่งอกเงยขึ้นมากกว่านี้ภายใน 30 ปี
ยิ่งตั้งเป้าหมายให้เร็วและชัดเจนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้เงินงอกเงยได้ตรงจุดและทันเวลา เพราะฉะนั้นแล้วเงินโบนัสก้อนนี้อย่าปล่อยให้เสียโอกาสที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายคิดแผนการใช้โบนัสที่จะพาไปถึงความสำเร็จนั้นให้ดี 
สวัสดีเป้าหมาย สวัสดีปีใหม่   

เพิ่มช่องทางการรับข่าวสารและข้อมูลดี ๆ ผ่าน Line Official AZAYfan ที่จะช่วยทำให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ได้ที่ 

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

              

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0