"เต้น" จวกฝ่ายความมั่นคงอย่า "Overreact" ชี้ กลุ่มอยากเลือกตั้ง แค่อยากรู้วันเลือกตั้งที่ชัดเจน ขออดทน หวั่นเกิดความวุ่นวาย เชื่อไม่กระทบงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.62 ที่ศาลทหารกรุงเทพ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และแกนนำ นปช. กล่าวถึงท่าทีของฝ่ายความมั่นคงที่มีต่อการชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวหรือแสดงออกทางการเมืองของประชาชนเป็นเรื่องที่ทำได้ แล้วก็ไม่มีคำสั่งใดๆ บอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นถ้าหากพี่น้องประชาชนจะเรียกร้องวันเลือกตั้งที่ชัดเจน เขาจะตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจว่า ประชาชนจะได้เข้าคูหาเลือกตั้งวันไหน ย่อมเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยชอบ การที่จะมีเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการขัดขวางจับกุม ก็เป็นเรื่องที่มีแต่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียด ในขณะเดียวกันก็อยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องวันเลือกตั้งอยู่ในเวลานี้
"จุดยืนของผมสนับสนุนความเคลื่อนไหวนี้ว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ เพียงแต่ต้องอ่านสถานการณ์การเมืองดีๆ ผมตั้งข้อสังเกตว่าปฏิกิริยาจากฝ่ายผู้มีอำนาจหรือฝ่ายความมั่นคง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวนี้เกินกว่าความจำเป็น แสดงอารมณ์ความรู้สึกหรือวาทกรรมเกินพอดี ถ้าพูดให้เป็นภาษาฝรั่งเขาก็บอกว่า Overreact หรือไม่ ดังนั้นฝ่ายผู้เคลื่อนไหวก็ต้องรอบคอบรัดกุม แล้วก็ใช้ความอดทนอดกลั้น เพราะว่าการแสดงออกที่เกินพอดี กระทบกระทั่งความรู้สึกของพี่น้องประชาชน เป้าหมายปลายทางไม่ทราบว่าคืออะไร ส่วนตัวผมห่วงว่าจะมีใครต้องการให้เกิดความวุ่นวายก่อนการประกาศวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามผมเคารพและเชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน และก็เชื่อว่าประชาชนที่มาเคลื่อนไหวสามารถรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงห่วงการชุมนุมกระทบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ประชาชนมีความเข้าใจและตระหนักรู้ว่าพระราชพิธีมหามงคลเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือให้ดำเนินการไปด้วยความสง่างาม สมพระเกียรติ และสำเร็จด้วยความสงบเรียบร้อย แต่ความเคลื่อนไหวที่ประชาชนเขาเรียกร้องคือสอบถามวันเลือกตั้งที่ชัดเจนเท่านั้น ไม่มีปรากฏการณ์หรือสัญญาณใดๆ เลยที่จะไปเกี่ยวข้องกับการจัดงานพระราชพิธีดังกล่าว ตรงกันข้ามสิ่งที่ประชาชนกลุ่มเคลื่อนไหวกำลังทำเขารับฟังด้วยซ้ำไปว่า การเลือกตั้ง 24 ก.พ.คงเป็นไปไม่ได้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาเพียงบอกว่าอย่าให้วันเลือกตั้งไกลเกินไป จนไปสุ่มเสี่ยงกับการตีความว่ากรอบเวลา 50 วัน เพราะจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
"นี่คือสิ่งที่ประชาชนเขาก็แสดงออก ถือว่าเป็นการถอย ไม่ใช่การรุก ไม่ใช่เป็นการกดดันจนผู้มีอำนาจกระดิกตัวไม่ได้ ตรงกันข้ามเป็นการแสดงความยืดหยุ่นและขอเพียงความชัดเจนเท่านั้นเอง ดังนั้นผมว่าความเคลื่อนไหวของประชาชนกับการจัดงานพระราชพิธีสำคัญ ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน" นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งรับได้ใช่หรือไม่ หากการเลือกตั้งไม่เกิดในวันที่ 24 ก.พ.นี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนพูดตามข่าวที่ปรากฏในแถลงการณ์ของการชุมนุมครั้งล่าสุด ซึ่งระบุว่าการเลือกตั้งไม่ควรจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 10 มี.ค. เมื่อผู้ชุมนุมแถลงมาเช่นนี้ก็ตีความได้ว่าเข้าใจแล้วว่า 24 ก.พ.อาจเป็นไปไม่ได้แล้วในวันนี้ ก็ตีความตามเนื้อผ้าเท่านั้นเอง.
