เตือน ระวังนายทุนวิ่งผูกขาดกัญชา?

วันที่ 19 มิ.ย.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า …“ต้องระวังว่ามีนายทุนวิ่งหาทางผูกขาดกัญชาหรือเปล่า?” ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2561 องค์การเภสัชกรรมร่วมกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลง โดยองค์การเภสัชฯ มีเป้าหมายมุ่งเน้นการผลิตยารักษาโรคมะเร็งในทุกกลุ่มการผลิต 3 ชนิด คือ 1. ยาเคมีบำบัดชนิดเม็ดและฉีดที่เป็นยาพื้นฐานในการรักษาโรคมะเร็งที่สามารถออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย 2. ยาเคมีชนิดเม็ดและยาฉีดชีววัตถุคล้ายคลึงประเภท Monoclonal antibodies (Biosimilar) ครอบคลุมการรักษาทุกกลุ่มโรคมะเร็งในปัจจุบัน และ 3. ยารักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง เบื้องต้นคาดว่าจะร่วมกันสร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็ง โดยจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายจะเริ่มผลิตยาได้เองในประเทศประมาณปี 2568 ซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดยาในประเทศมีมูลค่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่ง 70% เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ผมคิดว่า ประชาชนจะต้องระแวดระวังว่ามีกลุ่มทุนใดที่พยายามหาทางผูกขาดธุรกิจกัญชา หรือไม่? โดยอาจจะใช้แนวทางให้รัฐบาลไม่ยกเลิกความผิด เพียงแต่เปิดให้ใช้ทางการแพทย์แบบแคบๆ ซึ่งการทำเช่นนี้ องค์การเภสัชฯ อาจจะเป็นองค์กรเดียวที่ได้เปรียบผู้อื่นในการผลิตยาจากกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น กรณีสมมุติอย่างนี้ ถ้าหากเอกชนรายใดสามารถจับมือกับองค์การเภสัชฯ เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ก็จะทำให้เอกชนนั้นมีอำนาจผูกขาด แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังองค์การเภสัชฯ เกิดขึ้นได้ ใช่หรือไม่? แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตแก่องค์การเภสัชฯ ว่า การที่องค์การของรัฐจะเข้าไปจับมือกับบริษัทเอกชนรายใด ที่เข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์เขิงธุรกิจแก่เอกชนรายนั้น … องค์การเภสัชฯ จะต้องทำให้ปรากฏต่อประชาชนได้ว่า รัฐได้รับผลตอบแทนสูงสุดเท่าที่จะพึงได้ โดยต้องผ่านกระบวนการแข่งขันเปรียบเทียบ จึงต้องถามว่า การที่มีแผนจะจับมือกับกลุ่ม ธุรกิจเอกชนรายที่ไม่มีประสบการณ์ด้านผลิตยารักษาโรคมาก่อนนั้น องค์การเภสัชฯ ได้คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ไว้ครบถ้วนหรือยัง?