กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังสถานการณ์โรค อาหารเป็นพิษ พบผู้ป่วยแล้วกว่า 31,890 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต คาดหน้าร้อนนี้ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษอาจเพิ่มขึ้น แนะนำให้ประชาชนระวังเรื่องอาหารเป็นพิเศษ
จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษในประเทศไทย ปี 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 31,890 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยกลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ 15-24 ปี รองลงมาคือ อายุมากกว่า 65 ปี และ 25-34 ปี ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษเป็นกลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ ไม่มีผู้เสียชีวิต คือ จังหวัดพะเยา พบผู้ป่วย 79 รายในชุมชน อาหารที่คาดว่าเป็นสาเหตุของการระบาด คือ ลาบเนื้อดิบ และจังหวัดจันทบุรี พบผู้ป่วย 103 รายในเรือนจำ อาหารที่คาดว่าเป็นสาเหตุ คือ ปลาร้า หน่อไม้ และปูแสมดอง
การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น อาจทำให้อาหารบูดหรือเน่าเสียได้ง่าย ประกอบกับพฤติกรรมการทำอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารสำเร็จที่ปรุงมาเป็นระยะเวลานานแล้วไม่นำมาอุ่นก่อนรับประทาน กรมควบคุมโรคแนะนำให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด”
โดยรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาดและมีคุณภาพ อาหารที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชั่วโมงต้องนำมาอุ่นก่อนรับประทานทุกครั้ง เลือกบริโภคอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็งที่สะอาด งดรับประทานอาหารที่ปรุงจากสัตว์หรือพืชที่มีพิษ ใช้ช้อนกลางส่วนตัวตักอาหารเมื่อรับประทานร่วมกัน และก่อนหยิบจับอาหารควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
และยังเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบอาหารต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปรุงอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ เช่น ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนประกอบอาหาร ใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปาก สวมหมวกคลุมผม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคไปสู่อาหาร
สำหรับอาการของผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ จะคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ ปวดศีรษะ คอแห้งกระหายน้ำ อาจมีไข้ได้ ในรายที่มีอาการถ่ายอุจจาระมาก ผู้ป่วยอาจมีภาวะช็อกหมดสติได้ การช่วยเหลือเบื้องต้น ควรให้จิบสารละลายเกลือแร่โอ อาร์ เอส บ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
