ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 28 พ.ค.63 จำนวน 11 ราย เป็น 2หลักเลขครั้งแรกใน 24 วัน นับจากวันที่ 4 พ.ค.63 ที่พบผู้ป่วยใหม่ 18 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องกัก แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ในศูนย์กักตัว ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา
ทั้ง 11 ราย เป็นผู้กลับจากต่างประเทศอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) โดยมาจากประเทศอินเดีย 1 ราย เพศหญิงอายุ 32 ปี ประเทศกาตาร์ 6 ราย ประเทศคูเวต 4 ราย
จำนวนผู้ป่วยสะสม 3,065 ราย หายป่วยเพิ่ม 14 ราย รวม 2,945 ราย ที่รักษาในโรงพยาบาลมีเพียง 63 รายและไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
สถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทย มีจำนวนต่ำกว่า 10 ครั้งแรกวันที่ 27เม.ย.63 มี 9 ราย และคงตัวเลขหลักหน่วยเป็นส่วนใหญ่ จนถึงวันที่ 13พ.ค.63 เหลือ 0 รายเป็นครั้งแรก โดยรายงานผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติหรือผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยที่พบในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ ที่ผู้ที่ผ่านเข้าประเทศต้องกักตัว 14 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 128 ราย เป็นเพศชาย 111 หญิง 17 หรือสัดส่วนชาย:หญิง 6.5:1 อายุเฉลี่ย 39
ผู้ป่วย 128 รายนี้ แท้จริงก็เป็นเพียงเสี้ยวเดียว เมื่อเทียบกับผู้เดินทางกลับเข้าประเทศที่ต้องกักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐรวมทั้งสิ้น 27,352 ราย คิดเป็นร้อย 0.47 เท่านั้น โดยเป็นผู้มีสัญชาติไทย 98.44% อเมริกา 0.78% อังกฤษ 0.78%
ตัวเลขนี้ทำให้เห็นได้ว่า ระบบการกักตัวและคัดกรองจนพบผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษา มีความสำคัญ คุ้มค่าอย่างยิ่ง
ส่วนที่มีข้อสังเกตต่ออาชีพของผู้ป่วยที่เป็นหมอนวด จนมีความคิดให้พิจารณาการผ่อนคลายกับอาชีพนี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องก้นและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดไวรัสโคโรนา2019 ดูข้อมูลรอบด้านแล้ว เห็นว่า อาชีพไม่น่าจะเป็นปัญหา การติดเชื้ออาจมีประเด็นอื่น เช่น วิถีวัฒนธรรมของดินแดนที่เดินทางมา จึงไม่นำมาเป็นเงื่อนไข
แต่รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี(KCDC) ระบุยอดผู้ติดเชื้อวันเดียวกันนี้ มี 79 ราย สูงที่สุดใน 53 วัน อันมีสาเหตุจากศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซ แห่งหนึ่ง ทางตะวันตกของกรุงโซล โดยมีผู้ติดเชื้อกรณีนี้ถึง 69 รายแล้ว ทางการเกาหลีใต้ต้องเลื่อนการเปิดโรงเรียน 600 แห่งทั่วประเทศออกไป โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้กล่าวว่า การระบาดเกิดขึ้น เพราะศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ไม่ได้ทำตามมาตรการป้องกันโรค คือการไม่ใส่หน้ากาก การไม่หยุดงานเมื่อป่วย และการไม่เว้นระยะห่างในโรงอาหารของศูนย์
น่าจะเป็นอุทาหรณ์ของกิจการส่งสินค้าจากการสั่งซื้อออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการ ผู้ส่ง ผู้รับของ ต้องใส่ใจ ระวังตัวให้มาก
อีกกรณีที่ทำความสงสัย รำคาญใจ ในขณระที่การผ่อนคลายใกล้จะถึงระยะ 3 ในอีก 3-4 วันข้างหน้า กับการแยกโต๊ะในร้านอาหาร ไม่เว้นแม้ครอบครัวที่มารถคันเดียวกัน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบายว่า ฝ่ายวิชาการมีข้อมูลสนับสนุนที่ทำให้เชื่อว่า ในประเทศไทยยังมีผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการน้อยหลงเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องเฝ้าระวัง ค้นหาเชิงรุกต่อไป นอกจากนี้ การศึกษาของนักวิจัยจากศูนย์ควบคุมโรค มณฑลหูหนาน ประเทศจีน พบว่าเชื้อโควิด-19 สามารถแพร่กระจายได้ไกลถึง 4.5เมตรบนรถโดยสารปรับอากาศ ทำให้ผู้โดยสารติดเชื้อได้หลายคนในเวลาเดียวกัน
งานวิจัยเกี่ยวกับการติดเชื้อในร้านอาหารช่วงแรกของการระบาดในจีน พบการนั่งรับประทานในพื้นที่จำกัดที่มีเครื่องปรับอากาศที่อากาศไหลเวียนในพื้นที่จำกัด ใช้ระบบระบายอากาศแบบปิด ก่อให้เกิดการติดเชื้อได้จำนวนมาก เพราะทุกคนต้องถอดหน้ากากขณะรับประทานอาหาร จึงเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
คุณหมอสรุปว่า ในพื้นที่อากาศปิดและใช้เครื่องปรับอากาศ เช่นบนรถโดยสารปรับอากาศ รถโดยสารสาธารณะ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างให้ได้ 1-2 เมตร บนโต๊ะอาหารต้องมีฉากกั้นเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของละอองฝอย จึงเป็นที่มาของการให้นั่งแยกโต๊ะขณะรับประทานในร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ โดยย้ำว่า นโยบายควบคุมโรคของประเทศเหมาะสมแล้ว แต่จะประสบความสำเร็จต่อไปก็ขึ้นกับความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดร่วมกัน
เอาว่าทนนั่งกินห่างๆกันไป
สำหรับไทยชนะ แพลตฟอร์มสำหรับเช็กอิน เช็กเอาต์ เวลา เข้าออกในกิจการร้านค้าที่มีข้อตำหนิหลายจุด ล่าสุดปรับปรุงเป็น แอปพลิเคชั่นไทยชนะให้ดาวน์โหลดได้แล้ว สำหรับแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 5 และไอโอเอส เวอร์ชั่น 9.0 ขึ้นไป ที่ผู้ใช้ต้องระบุเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งครั้งแรกต้องกรอกรหัส โอทีพี ที่ส่งมาทางเอสเอ็มเอส และทำให้สแกนคิวอาร์โค้ดเช็กอินง่ายๆ ส่วนตอนออกที่มักจะลืม ก็ให้กดเช็กเอาต์ทีหลังได้
ผู้ใช้สมาร์ตโฟนที่ประสงค์จะใช้ ดาวน์โหลดไว้ในเครื่องได้แล้ว แต่ถ้าไม่อยากให้บันทึกผ่านระบบออนไลน์ จะเลือกลงลายมือบนกระดาษที่ร้านค้าเตรียมไว้ก็ได้
เรายังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องให้ความร่วมมือ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสโควิดอย่างปกติสุขไปนานๆ
