จากกรณีหนุ่มเครารักความถูกต้อง ไลฟ์สดเมื่อเจอรถทหารจอดในที่ห้ามจอด แม้ทหารเจ้าของรถจะออกมายอมรับผิด ยกมือไหว้ขอโทษหลายครั้ง แต่เรื่องก็ยังไม่จบ หนุ่มเครายังคงพูดจาต่อว่าขณะไลฟ์สดไปด้วยอีกหลายนาที กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลถึงการกระทำที่เกินกว่าเหตุอีกมากมาย
ความเห็นส่วนใหญ่เข้าข้างนายทหารที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดอย่างสง่างาม ทั้งขอโทษ ทั้งยกมือไหว้ พร้อมชื่นชมที่สามารถระงับอารมณ์ได้ดีเมื่อเจอสถานการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดกระแสต่อว่าอย่างหนัก หนุ่มเคราได้ออกมาขอโทษนายทหารท่านนั้นที่ทำรุนแรงเกินไป แต่ก็ยืนยันว่าตนมีเจตนาดี ไม่อยากเห็นใครทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ควรอยู่ภายใต้กฎหมายเช่นกัน และไม่ได้อยากให้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้
ถ้าพิจาณาให้ดี จริง ๆ แล้วหนุ่มเคราหัวร้อนคนนี้ไม่ได้ทำผิดกฎหมายด้วยซ้ำ จะเรียกว่าเป็นพลเมืองดีที่เห็นคนทำผิดแล้วเข้าไปตักเตือนก็ยังได้ แต่ด้วยวิธีการและอาวุธในมือ ซึ่งก็คือการถ่ายคลิปไลฟ์สด กลับทำให้ตัวเองกลายเป็นจำเลยของสังคมแทน
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยเราอารมณ์รุนแรงขึ้นทุกวัน ขาดความยับยั้งชั่งใจ เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ที่สำคัญบางครั้งผลลัพธ์ก็ไม่ได้สำคัญเท่าวิธีการ ถ้าหนุ่มเคราเข้าไปตักเตือนอย่างสุภาพ ยังไงคนผิดก็คือคนผิด แต่เมื่อคดีพลิกเช่นนี้ คนถูกก็เลยกลายเป็นคนผิด ส่วนคนผิดก็กลายเป็นคนที่กล้ายอมรับผิดและน่ายกย่องแทน