ขณะนี้การยกกระชับก้นด้วยการฉีดไขมันของตัวเองกำลังมาแรง เนื่องจากผู้คนต่างพากันหลงใหลกับเทรนด์บั้นท้ายดินระเบิดตั้งแต่เจนนิเฟอร์ โลเปซไปจนถึงนิกกี้ มินาจและคิม คาร์ดาเชียน แต่รายงานล่าสุดจาก American Society of Plastic Surgeons พบว่าการยกกระชับก้นด้วยการฉีดไขมันของตัวเองนั้นเป็นหนึ่งในการศัลยกรรมความงามที่อันตรายที่สุดโดยมีอัตราการตายสูงมากอยู่ที่ 1 ใน 3,000 หรือ 0.033% ซึ่งการฉีดไขมันลึกเกินไปจะเข้าสู่ระบบไหลเวียนและอาจทำให้เป็นโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
การยกกระชับก้นด้วยการฉีดไขมันของตัวเองหรือ Brazilian Butt Lift คืออะไร?
สิ่งแรกที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ BBL คือมันไม่ใช่การยกกระชับจริงๆแต่เป็นการตั้งชื่อผิด โดยปกติไขมันจะถูกนำมาจากส่วนอื่นของร่างกายซึ่งส่วนใหญ่ก็คือหน้าท้องกับต้นขา การศัลยกรรมความงามนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา (อาจเป็นผลมาจากกระแสคาร์ดาเชียน) สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศอเมริการายงานว่ามีผู้เข้าร่วมการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมสะโพกโดยการเติมเต็มด้วยไขมันในปี 2017 จำนวน 20,301 รายซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึงร้อยละ 10 การศัลยกรรมความงามประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากคนส่วนใหญ่ชอบแนวคิดการใช้ไขมันในร่างกายของตัวเองและไม่ทำให้รูปร่างโดยรวมมีการเปลี่ยนแปลง
เหตุใดจึงอันตราย?
การยกกระชับก้นด้วยการฉีดไขมันของตัวเองมีความเสี่ยงเนื่องจากหลายๆปัจจัยเช่นหลอดเลือดในบริเวณสะโพกอาจฉีดขาดหรือทะลุได้ในกรณีที่ฉีดไขมันลึกเกินไป ไขมันอาจผ่านเข้าไปในระบบไหลเวียนและทำให้เป็นโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเกี่ยวกับปริมาณไขมันที่ถูกฉีดเข้าไป รวมถึงตำแหน่งในการฉีด ประเภท และขนาดของอุปกรณ์ (ท่อพลาสติก) ที่ใช้ด้วย ขณะเดียวกันปัจจัยอื่นๆอย่างตำแหน่งการนอนของคนไข้บนเตียงผ่าตัด น้ำหนักตัวของคนไข้ และระยะเวลาในการศัลยกรรมก็อาจส่งผลกระทบได้เช่นกัน คนไข้อาจประสบกับภาวะการตายของเซลล์ไขมันและนำไปสู่การติดเชื้อได้
มีข้อบังคับเล็กน้อย
การศัลยกรรมย่อมมีความเสี่ยงและถ้าคุณเข้ารับการรักษากับผู้ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น แน่นอนว่าการศัลยกรรม “ผิดกฎหมาย” หากกระทำโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์และยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการฉีดสารอันตรายอย่างซิลิโคนเข้าไปในร่างกายด้วย
มีทางเลือกอื่นไหม?
ไม่ว่าวิธีไหนก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นทางที่ดีคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ คุณสามารถฉีดไขมันควบคู่กับการเสริมก้นได้เนื่องจากวิธีนี้แพทย์ไม่จำเป็นต้องพึ่งไขมันในการเสริมก้น ทางเลือกที่ไม่ต้องศัลยกรรมก็มีเช่นกันนั่นคือการเสริมก้นด้วยสารเติมเต็ม Sculptra เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาแถมยังสามารถลดเซลลูไลท์ได้ด้วย สารเติมเต็มชนิดนี้อยู่ได้นาน 2-5 ปี ดังนั้นคนไข้ต้องกลับมาอีกครั้งในอีก 4-5 ปีต่อมา นอกจากนี้ยังมี EmSculpt ซึ่งเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง สุดท้ายคือการออกกำลังกายซึ่งเป็นทางเลือกที่ธรรมชาติที่สุด แม้ว่าจะยากไปสักหน่อย
ทำอย่างไรการยกกระชับก้นด้วยการฉีดไขมันของตัวเองจึงจะปลอดภัยมากกว่านี้?
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเห็นด้วยว่าอัตราการตายที่เกี่ยวข้องกับ BBL นั้นสูงเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงแนะนำให้มีการปรับเปลี่ยนบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่นไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมในด้านศัลยกรรมพลาสติกลงมือทำเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็ควรเตือนให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ถึงอันตรายจากการกระทำดังกล่าวด้วย