พรรคพปชร. ใช้วิธีการเดิมดูดส.ส.ขั้วตรงข้ามมาเติมเสียงให้พ้นสถานะ ปริ่มน้ำ เพื่อการันตีการโหวตวาระประชุมสำคัญๆ ไม่ให้พ่านแพ้ ขั้วฝ่ายค้าน อีก
ถึงเวลานี้คอนเฟิร์มได้เลยว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่จะส่ง ส.ส. ร่วมขั้วรัฐบาล จำนวน 4 คน เหลือเพียงแค่มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่นิยม วิวรรธนดิฐกุลรองหัวหน้าพรรค อยู่เฝ้าพรรคกลบภาพทรยศประชาชน หลังหาเสียงไม่ร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม
หากเช็คเสียงขณะนี้ ขั้วรัฐบาล มีอยู่ 253 เสียง หากโหวตวาระต่างๆตามทำเนียมประธานสภาและรองประธานสภา2 คน จะงดออกเสียง ทำให้ ขั้วรัฐบาล เหลือเสียงโหวตอยู่ที่ 250 เสียง ขณะที่ ขั้วฝ่ายค้าน มี 245 เสียง ห่างกันเพียง 5 เสียง จึงยากที่คอนโทรล
ดังนั้นโจทย์ใหญ่ของ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพปชร. ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนคือการเติมเสียงให้พ้นสภาวะ ปริ่มน้ำ โดยพล.อ.ประวิตร-แกนนำพปชร.เคาะตัวเลขเอาไว้ที่ 270 เสียง จึงจะอยู่ในโซนปลอดภัย
เมื่อดูดส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่มาได้แล้ว 4 เสียง จำนวนเสียงของ ขั้วรัฐบาล จะดีดตัวไปอยู่ที่ 257 เสียง ขณะที่ ขั้วฝ่ายค้าน ลดลง 4 เสียง จะเหลือ 241 เสียง อย่างไรก็ตาม ขั้วรัฐบาล ต้องหาเพิ่มอีก 13 เสียง จึงจะถึงตัวเลขที่วางเกณฑ์เอาไว้ที่ 270 เสียง
โดยเป้าหมายต่อไป เตรียมใช้ พลังดูด อีกคำรบ โฟกัสไปที่พรรคเพื่อชาติลือกันว่าอารี ไกรนราส.ส.บัญชีรายชื่อ พยายามทาบทามคนในพรรค-คนนอกพรรคสายเสื้อแดง ให้ย้ายขั้วซบรัฐบาลอยู่เช่นกัน แต่ยังถูกเตะตัดขาอยู่
ขณะที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย-ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ก็มีหลายคนเข้าข่ายโดนดูด ปรากฎการณ์3 ส.ส.เพื่อไทย จ.สุรินทร์ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่เรื่องหยอกกันเล่น แต่ความเคลื่อนไหวใต้ดินมี ดีลลับ กันอยู่ หากแต่อาจจะดีลแบบไม่ต้องย้ายพรรค หรือออกหน้าย้ายขั้ว
จับตาพลังดูดรอบใหม่มีพาวเวอร์มหาศาลเพียงใด