เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ค่ารถโดยสารประจำทาง (รถเมล์ทั้งระบบ) ขององค์การขนส่งมลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ รถร่วมบริการ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งค่ารถทัวร์ ของบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถร่วมบขส.จะปรับราคาขึ้น ตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง แม้ว่าจะมีการยื่นคัดค้านไปที่ศาลปกครองก็ตาม
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 22 เม.ย.นี้ ค่ารถโดยสารรถเมล์และรถร่วมฯทั้งระบบจะขึ้น 1-7 บาทตามมติ คณะกรรมการฯ ส่วนกรณีที่มีการยื่นคัดค้านของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะร่วมกับชาวกรุงเทพฯและปริมณฑลที่หาเช้ากินค่ำ ที่ศาลปกครองกลาง และการยื่นหนังสือของเครือข่ายรถร่วมที่สนับสนุนให้ดำเนินการขึ้นค่าโดยสารนั้น ตนได้รับทราบแล้ว ซึ่งเรื่องการฟ้องร้องของนายศรีสุวรรณ คณะกรรมการฯ มีหน้าที่ต้องไปชี้แจงต่อศาล ถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องปรับขึ้นค่าโดยสารโดยต้องยืนยันตามมติเดิม จากนั้นคงต้องรอว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางดำเนินการต่อไป
สำหรับการปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ได้แก่ 1.รถโดยสารธรรมดา ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)จากเดิม 6.50 บาท ปรับเป็น 8 บาท 2. รถโดยสารปรับอากาศครีมน้ำเงิน 10-18 บาทตามระยะทาง ปรับเป็น 12-20 บาท ,รถปรับอากาศยูโรทู 11-23บาทตามปรับเป็น 13-25 บาท รวมถึงรถปรับอากาศใหม่(เอ็นจีวี) ให้คิดราคาระยะทาง 4 กม.แรก ราคา 15 บาท ตั้งแต่ 4-16 กม. ราคา 20 บาท และตั้งแต่ 16 กม.ขึ้นไปราคา 25 บาท 3. กรณีผู้โดยสารใช้ทางด่วน ให้กำหนดค่าทางด่วน เพิ่มจากค่าโดยสารปกติ 2 บาทต่อคนต่อเที่ยว และ 4. รถบริการตลอดคืน (เวลา 23.00 - 05.00 น.)ให้กำหนดค่าธรรมเนียมบริการตลอดคืน เพิ่มจากค่าโดยสารปกติ 1.50 บาทต่อคนต่อเที่ยวนอกจากนี้ในส่วนของรถร่วมบริการฯขสมก.นั้น ปรับขึ้นในอัตรา 1 บาท จาก 9 บาท เป็น10 บาท
ขณะที่รถบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) และรถร่วมให้ปรับราคาขึ้นไม่เกิน 10% แบ่งเป็น 4 ช่วงประกอบด้วย 40 กม.แรกเดิม0.49 บาทต่อ กม. เป็น 0.53 บาทต่อกม., 40-100กม. เดิม 0.44 บาทต่อกม.เป็น 0.48 บาทต่อกม. 100-200กม.เดิม 0.40 บาทต่อกม. เป็น 0.44 บาทต่อกม.และเกิน 200 กม. เดิม 0.36 บาทต่อกม.เป็น0.39 บาทต่อกม.
