จากกรณีที่เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 61 เกิดเหตุสุนัขกัดเด็กหญิง อายุ 4 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เด็กหญิงเคราะห์ร้ายทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.วิกานดา จินทร์ตระกูล หรือน้องบีบี โดยสภาพหลังถูกสุนัขกัด มีบาดแผลฉกรรจ์ หูด้านซ้ายแหว่ง หนังศีรษะมีรอยบาดแผลลึก 2 แห่ง จากคมเขี้ยวของสุนัข ซึ่งต่อมาญาติได้นำเด็กหญิงคนดังกล่าว เดินทางมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จนอาการพ้นขีดอันตรายแล้วนั้น (อ่าน : เด็ก 4 ขวบถูกหมากัดหูแหว่ง ปลอดภัยแล้ว ญาติจี้เอาผิดเจ้าของทำเฉย)
วันนี้ 23 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 102 บ้านคลองย่าโม หมู่ที่ 10 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พบว่ามีญาติพี่น้องของน้องบีบี เดินทางมารอเพื่อจะไปเยี่ยมอาการน้องบีบีที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จากการโทรศัพท์สอบถาม น.ส.หญิง จันทร์ตระกูล แม่ของน้องบีบี บอกว่า ล่าสุดอาการของน้องบีบีดีขึ้นตามลำดับ เหลือแค่เฝ้าระวังแผลติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังคงรู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งที่มีคนพูดถึงสุนัข ช่วงนี้จึงบอกให้ญาติ ๆ ที่เดินทางมาเยี่ยมว่า อย่าพูดถึงสุนัขแม้แต่คำเดียว เพราะน้องบีบีจะร้องไห้ทันที และแพทย์ยังไม่อนุญาตให้กลับบ้านเพื่อรอดูอาการบาดแผลจนหายดีก่อน
ส่วนทางคดีความนั้น ขณะนี้ญาติได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วังน้ำเขียวแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ (24 ก.ย. 61) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวญาติคนอื่น ๆ ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนคู่กรณีที่เป็นเจ้าของสุนัขนั้น ขณะนี้ยังไม่มีใครเดินทางมาเยี่ยมน้องบีบีที่โรงพยาบาลแม้แต่คนเดียว ทั้งที่ตนเองไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทองอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าคู่กรณีไม่มีเงินชดใช้ เนื่องจากมีอาชีพเก็บของเก่าขาย แต่อย่างน้อยก็ขอให้มาพูดคุยสอบถามถึงอาการบาดเจ็บกันบ้างก็ยังดี
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 114 บ้านคลองย่าโม หมู่ที่ 10 อยู่ห่างจากบ้านที่น้องบีบีอาศัยอยู่ประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุสุนัขกัดน้องบีบี พบว่าบ้านดังกล่าวเป็นเพิงพักชั้นเดียว สำหรับทำเป็นโกดังเก็บของเก่าก่อนแยกไปขาย โดยมีนายทอง สว่างกุล อายุ 55 ปี และนางมน สว่างกุล อายุ 51 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ทั้งคู่ได้พาไปดูสุนัขตัวที่กัดน้องบีบี โดยล่ามโซ่ไว้ให้นอนอยู่ข้างบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ทางเพศผู้ อายุ 8 เดือน ชื่อเจ้าตูบ และไม่ได้มีท่าทีดุร้าย ซึ่งนายทองได้นำเด็ก ๆ ข้างบ้านมาลูบคลำเจ้าตูบอย่างใกล้ชิด เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้มีอาการดุร้าย แต่ระหว่างนั้นได้เกิดทะเลาะกันขึ้นระหว่างนางมน เจ้าของสุนัข กับญาติของน้องบีบีอย่างดุเดือด เนื่องจากฝั่งญาติของน้องบีบีไม่พอใจที่ปล่อยให้สุนัขกัดเด็ก และฝั่งนางมน ก็ไม่พอใจที่ญาติน้องบีบีกล่าวหาว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเกือบจะวางมวยใส่กัน แต่เพื่อนบ้านได้ช่วยกันห้ามไว้ได้ทัน
จากการสอบถาม นายทอง เจ้าของบ้าน บอกว่า สุนัขตัวนี้ ตนเก็บมาเลี้ยงเพื่อเฝ้าของเก่าในโกดัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ของในโกดังหายไปบ่อยครั้ง โดยดูแลเลี้ยงดูอย่างดี ทั้งฉีดยาฆ่าหมัด และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วตั้งแต่ต้นปี 61 ปกติจะเป็นสุนัขเชื่อฟังเจ้าของ ซื่อสัตย์ คอยเห่าเตือนคนที่จะเข้ามาขโมยของในบ้านเป็นอย่างดี และยืนยันว่าสุนัขตนไม่เคยแสดงอาการดุร้าย หรือไปกัดใครที่ไหนมาก่อนเลย
ทั้งนี้ ตนสงสัยว่าวันเกิดเหตุ น้องบีบี อาจจะเข้ามาหยิบเอาของอะไรบางอย่างในบริเวณโกดังนี้ จึงทำให้มันหวงของเจ้านาย และกัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่บ้าน แต่มาทราบข่าวภายหลังก็รู้สึกตกใจ และอยากจะเข้าไปขอโทษผู้ปกครองของน้องบีบี แต่ยังไม่กล้าที่จะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เพราะกลัวญาติของน้องบีบีจะด่าทอตนเอง ส่วนเรื่องคดีก็พร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายทุกอย่าง เพราะตนเองไม่รู้เรื่องกฎหมาย แต่ก็หวังว่าจะเห็นใจคนหาเช้ากินค่ำด้วย
ด้านนางมน ภรรยานายทอง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองได้ยินเพียงเสียงเด็กร้อง แต่ไม่ได้ยินเสียงสุนัข เมื่อวิ่งมาที่หน้าโกดังก็พบเด็กถูกสุนัขกัดจนหูแหว่งแล้ว และสุนัขก็ยังกัดคาอยู่ที่ศีรษะของเด็ก จึงได้ใช้มืองัดฟันสุนัขออกจากศีรษะเด็ก และให้ลูกสาวอุ้มน้องบีบีไปให้ญาตินำส่งโรงพยาบาล ส่วนตนเองได้เก็บเอาเศษใบหูของน้องบีบีไปล้างน้ำ แล้วใส่ถุงไปให้ญาติน้องบีบีตามหลัง ทั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแน่นอน เพียงแต่ว่าช่วงนี้ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เพราะกลัวฝ่ายญาติของน้องบีบีจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ และเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงอีก
ด้าน ร.ต.อ.อธิพัชร อธิเมธีพัชร์ พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำญาติของเด็ก และเจ้าของสุนัขแล้ว รวม 4 ราย โดยพรุ่งนี้จะเรียกสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติมอีก ก่อนที่จะพิจารณาแจ้งข้อหากับเจ้าของสุนัขต่อไป
